วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

สัมมาวาจา

 

ธรรมะอรุณสวัสดิ์...รับวันใหม่ 

.............................

พูดให้ดี พยายามพูดวาจาไพเราะอ่อนหวาน 

พูดคำจริง พูดอิงประโยชน์ 

อย่าพูดเสียดสีใคร แล้วมันเข้าตัว 

บางคนเยาะเย้ยดูถูกดูหมิ่นรูปร่างของเขา หรือความบกพร่องของเขา 

มันมาเข้าตัวหมด 


อย่างพระรูปหนึ่งในสมัยพุทธกาลชื่อจูฬปันถก  

เข้ามาบวช พี่ชายให้ท่องคาถา ๔ บาท 

จำไม่ได้ 

ได้หน้าลืมหลัง ได้หลังลืมหน้าอยู่อย่างนั้น 

ท่องเท่าไรก็จำไม่ได้สักที 

พี่ชายเลยไล่ให้ไปสึก 

ก็เลยไปลา 


พระพุทธเจ้าบอก "เธอบวชเพื่อใคร" 


"บวชเพื่ออุทิศพระพุทธเจ้า"  


"ถ้าอย่างนั้นเธอจะสึกทำไม" 


"พี่ชายไล่ให้สึกพระพุทธเจ้าข้า" 


พระองค์ก็เลยสอนกรรมฐานไป 

ให้เอาผ้าขาวไปคลำ แล้วพิจารณาไปด้วย 

ระโชหะระณัง ระโชหะระณัง 

พิจารณาไป ผ้ามันชักดำ ๆ 

ผ้ามันขาวสะอาดมา ทำไมมาถูกต้องกับกายกลับดำ 

แสดงว่าร่างกายเราสกปรก 

พิจารณาร่างกาย เลยเข้าถึงธรรม บรรลุธรรมเป็นอริยบุคคล 

แล้วก็สำเร็จพร้อมด้วยอภิญญาด้วย 

สามารถแปลงกายได้ ทำคนเดียวเป็นหลาย ๆ คน 


วันนั้นเขานิมนต์พระทั้งวัด 

พี่ชายก็เว้นไว้องค์เดียวไม่ต้องรับนิมนต์ 

พอท่านสำเร็จแล้ว คนไปนิมนต์ เห็นพระเต็มวัดหมดเลย 

พระพุทธเจ้าบอกให้จับองค์ไหนก็พูดก่อน 

ทักแล้วคนไหนตอบก่อนก็จับตัวไว้ 


วันนั้นพระพุทธเจ้าแสดงธรรม 

แล้วพระองค์ก็เล่าเรื่องอดีตให้ฟัง 


อดีตชาติถอยหลังไปยุคสมัยพระพุทธเจ้าองค์ก่อน 

ท่านจูฬปันถกเป็นพระบวชมา แตกฉานพระไตรปิฎก 

วันหนึ่งท่านไปเห็นพระใหม่ท่องพระไตรปิฎกผิด ๆ ถูก ๆ 

ท่านก็หัวเราะเยาะ 

ทำให้พระใหม่อาย แล้วก็เลยไม่กล้าท่องตั้งแต่นั้นมา 


กรรมอันนี้ต้องมาชดใช้ 

ทำให้ความจำเลอะเลือน ท่องคาถาได้หน้าลืมหลัง 

แต่ว่าด้วยท่านแตกฉานในพระไตรปิฎกมา  

บำเพ็ญมาแล้วบุญก็ให้ผล เลยได้สำเร็จ 


ฉะนั้นเราเห็นคนบกพร่อง พิกลพิการ 

อย่าไปหัวเราะเยาะเขา 

มันมาเข้าตัวเรา 

.............................

ธัมโมวาท โดยหลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี

เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น