วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

What the Buddha really taught


สัพพะปาปัสสะ อะกะรณัง ไม่ทำความชั่วทุกอย่าง
กุสะลัสสูปสัมปะทา ทำแต่ความดี
สะจิตตะปะริโยทะปะทัง ทำใจให้ผ่องใส



ขันติ ปะระมัง ตะโป ตีติกขา ความอดทนเป็นตบะอย่างยิ่ง
นิพพานัง ปะระมัง วะทันติ พุทธา นิพพานเป็นบรมธรรม
นะหิ ปัพพะชิโต ปรูปฆาติ ผู้ทำร้ายผู้อื่นไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต
สมโณ โหติ ปะรัง วิเหฐยัน โต 
ผู้เบียดเบียนผู้อื่นไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ



อนูปะวาโท  อนูปะฆาโต การไม่กล่าวร้าย 
การไม่เบียดเบียนผู้อื่น
ปาติโมกเข จะสังวะโร ความสำรวมในปาติโมกข์
มัตตัญญุตา จะ ภัตตะสะมิ ความสำรวมรู้จักประมาณในอาหาร
ปันตัญจะ สะยะนาสะนัง การอยู่ในเสนาสนะที่สงัด
อธิจิตเต จะ อาโยโค เอตังพุทธานะสาสะนัง 
การประกอบความเพียรในอธิจิต
นี้คือคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

 

เก็บมาฝาก


 


Cr.ภาพจาก Facebook

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

งูกับเลื่อย

        งูตัวหนึ่งเลื้อยเข้าไปในห้องทำงานของช่างไม้ ระหว่างที่มันเลื้อยคร่อมไปบนใบเลื่อยที่คมกริบ ทำให้มันเกิดบาดแผลที่ผิวหนัง มันเจ็บปวดมาก เลยหันหัวแว้งฉกกัดเลื่อย แต่กลับทำให้ปากมันมีแผลเหวอะโดยไม่ได้ยั้งคิด มันกลับเข้าใจว่า มันกำลังถูกจู่โจมโดยเลื่อย ด้วยสัญชาติญาณที่จะตอบโต้ศัตรูมันตัดสินใจ เลื้อยโอบ รอบตัวเลื่อย แล้วจัดการรัดเจ้าเลื่อยอย่างเต็มกำลังเพื่อหวังจะฆ่าศัตรูของมัน ท้ายที่สุดงูตัวนั้น ก็เกิดบาดแผลทั่วทั้งร่างและจบชีวิตลงด้วยคมเลื่อย...

   “มันช่างเป็นอุทาหรณ์ที่แหลมคมยิ่ง”

ในบางครั้ง เราตอบโต้ความโกรธ ด้วยการคิดทำร้ายคนๆนั้น แต่เราไม่ได้ฉุกคิดเลยว่า ในที่สุดแล้ว เรากลับกำลังทำร้ายตัวเองอยู่ ในชีวิตจริง บางทีมันจะดีกว่า ถ้าเราไม่สนใจต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

ไม่สนใจคนพวกนั้น ไม่สนใจพฤติกรรมเหล่านั้น แม้แต่คำพูดของพวกเขา ในบางครั้ง มันจะดีซะกว่า หากเราไม่โต้ตอบ เพราะมันอาจจะไม่ใช่แค่ ได้ผลลัพท์ที่เลวร้าย แต่อาจเป็นภัยที่ร้ายแรงขั้นถึงชีวิตกันเลยที่เดียว อย่าปล่อยให้ความโกรธครอบงำชีวิตคุณ แต่กลับเป็นความรัก ที่อยู่เหนือทุกสิ่ง

จงยิ้มเข้าไว้ แผ่ความสุขในตัวคุณออกไป

*******

Cr.https://tunchakon.com/%E0%B8%87%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2/

 ****

วิธีควบคุมความโกรธ(คลิก)


****

Life is.....


Life is full of surprises, the unexpected happens, plans go awry, people change, things fail. You can't always control what happens, but you can always control how you react to whatever happens by preparing for whatever can possibly happen.

When things are good, cherish them, enjoy them, make the most of them, and when things are bad, stay strong, endure them while working towards the light.

Though life is full of surprises, but nothing happens by accident, everything serves a purpose, and whatever happens can work for your good if you are aligned to your purpose. Then you can react with understanding that even your failure is preparing you for your success and your pain is building you for greater gain.

It's not what happens to you that defines the outcome of your life, but what you do with what happens. React to every of life happenings with the understanding that in the end, both the good and the bad, will work out for your good.

*****

Cr.https://www.facebook.com/100044363117087/posts/pfbid038JjG7WYryvpEjtdFy6vou5rct1v9EWckyMurxp1hG5wF8PfSwPRQssGgEfo18LoXl/?mibextid=Nif5oz

 ******

เจริญเมตตา(คลิก)

******

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

เก็บตกงานเลี้ยงรุ่นฯ..

 


เก็บตกงานเลี้ยงรุ่นฯ09

      จากข้อมูลงานเลี้ยงรุ่นฯสานสัมพันธ์ 57 ปี นาวี09 ณ ร้านอาหาร

นภานาวี ชายหาดEOD เมื่อ 28 ม.ค.66 มีเพิ่อนร่วมรุ่นไปร่วมงาน 94 นายและผู้ติดตาม 31 คน มีรายรับ 173,800 บาท รายจ่าย 109,860 บาท คงเหลือ 63,940 บาทและมีรายได้จากการจำหน่ายของของรุ่นฯที่ยังเหลืออยู่ มีของที่เพื่อนๆที่นำไปช่วยและสุราที่เหลือจากงานเลี้ยงรวม 19,770 บาท จึงมีเงินเข้าบัญชีสวัสดิการรุ่นฯจำนวน 83,710 บาท  ผมมีรายละเอียดที่เพื่อนๆสมควรจะได้รับทราบดังนี้

       (1.)ผู้ไม่ได้ไปร่วมงาน แต่ได้บริจาคเงินช่วยงานรุ่นฯ จำนวน 37 ราย (ภรรยาของเพื่อนผู้ล่วงลับบริจาค 4 ราย) ได้แก่

1.จรูญ แก้วจรัส  1,000 บาท

2.ประชา ตัณฑ์ไพบูลย์ 1,000 บาท

3.ปิติยะนันท์ จันทร์เพ็ง  800 บาท

4.สุรพล ไกรศิริ  1,000 บสท

5.อุดม คุ้มพงษ์  1,000 บาท

6.ชนธร ทองวิจิตร  1,000 บาท

7.ประสงค์ วงศาโรจน์  1,000 บาท

8.(พยุง เนื่องคำมา)  2,000 บาท

9.(ศักดิ์ บุญเจิม)  2,500 บาท

10.มาโนช เพ็งแจ่มศรี  2,000 บาท

11.เกษม ผลสัมฤทธิ์  1,000 บาท

12.เกษม หอมลออ  500 บาท

13.ทวีศักดิ์ อุตรวิเศษ  800 บาท

14.ธรรมนูญ ปรีชา  1,000 บาท

15.ประสิทธิ์ พื้นผา  1,000 บาท

16.ปรีชา เยี่ยมสวัสดิ์  1,000 บาท

17.สำรวย นาคลำภา  1,000 บาท

18.สุระชาติ ฤทธิ์ธงชัยเลิศ 800 บ.

19.อดิรักษ์ เรืองภักดี  800 บาท

20.ชัยพจน์ ศรีม่วง  1,000 บาท

21.ประยูร ชูพุทธพงษ์  1,000 บาท

22.พิมล เอี่ยมขำ  1,000 บาท

23.วีระ อุนสกุุล  500 บาท

24.(ศักดิ์สิทธิ์ บำรุง)  10,000 บาท

25.สำเริง เนียมทอง  1,000 บาท

26.สุรเดช กันเกตุ  1,000 บาท

27.(กิตติศักดิ์ ประทุมวงษ์) 2,000บาท

28.คมสันต์ สีคำบ่อ  500 บาท

29.ชาญณรงค์ ไวทยะพัธน์1,000บ 

30.ภัทรเดช ศรีสุวัฒน์  1,000 บาท

31.บุญญานนท์ สิทธิไชย  1,000 บ.

32.มนัส ประสิทธิ์ธัญการ 1,000 บ.

33.วิจิตร ชูสกุล  1,000 บาท

34.ศุภชัย ประชากิจ  1,000 บาท

35.สุรพล ศิริธำรงค์  1,000 บาท

36.ภิญโญ เทียมตระกูล  500 บาท

37.ยงยุทธ์ อิงสุข  1,000 บาท

     รวมเป็นเงินทั้งสิ้น  47,700 บาท 

      (2.)ผู้ไปร่วมงานและบริจาคตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป ได้แก่

1.รังสิต นาคน้ำ  1,000 บาท

2.สมชาย จันทร์พฤกษ์ 1,000 บาท

3.บำเพ็ญ บำเพ็ญผล  1,000 บาม

4.จิระ กิจสมบัติ  2,200 บาท

5.ชลิต เกิดชื่น  5,000 บาท

6.ทวีศักดิ์ สุภานันท์  1,000 บาท

7.สำราญ ศรีโมรา  1,000 บาท

8.อำนวย รอดทอง  2,200 บาท

9.เสรี อินทวี  1,000 บาท

10.ชูศิลป์ สืบปรุ  1,000 บาท

     รวมทั้งสิ้น  16,400 ยาท

      (3.)ผู้นำสิ่งของไปจำหน่ายเพื่อนำรายได้เข้ารุ่นฯ

 1.คุณลิปิกร พันธุ์ไชยศรี จำหน่ายเสื้อกลาสีแขวนรถ-แก้ว-หมอน จำนวน 4,300 บาท

 2.สำราญ กองศรี จำหน่ายหมวก

 FLY NAVY (10ใบ) จำนวน 2,000 บาท

 3.จำหน่ายเสื้อ-เข็มขัด-และค่าเช่าพระเครื่อง(ได้รับการสนับสนุนจากกนก รัตนผกา) จำนวน 7,600 บาท

 4.จำหน่ายสุราที่เหลือจากงานเลี้ยงรุ่นฯ จำนวน 5,870 บาม

      รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 19,770 บาท

       (4.)จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าการบริจาคจากเพื่อนๆที่ไม่ได้ไปร่วมงานมีส่วนช่วยให้มีเงินหลือเข้ารุ่นฯได้มากพอสมควร ต้องขอคารวะและขอบคุณในน้ำใจอันงดงามของเพื่อนๆทั้ง 37 ท่านและเพื่อนๆที่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงซึ่งส่วนใหญ่จะช่วยกันบริจาค ตั้งแต่ 200บาทขึ้นไปจนถึง 5,000บาท (ผมนำรายชื่อผู้บริจาคตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไปตาม(2.)ครับ) มีเพียงส่วนน้อยที่ไม่ได้บริจาค  อาจเนื่องมาจากมีภาวะทางด้านเศรษกิจ บางท่านต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างมากในการเดินทางไกลเพื่อไปร่วมงาน เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ เราเข้าใจกันได้ ขอขอบคุณในน้ำใจเพื่อนๆทั้ง 94 นายและขอขอบคุณ คุณลิปิกร พันธุ์ไชยศรี (ภรรยา พิชัยฯผู้ล่วงลับ)ที่ได้กรุณาจัดทำของที่ระลึกไปจำหน่ายแล้วนำรายได้เข้ารุ่นฯซึ่งคุณลิปิกรฯได้จัดทำทุกครั้งที่มีงานเลี้ยงรุ่นฯรวมอีกท่านที่นำหมวกไปจำหน่ายเพื่อรุ่นฯขอขอบคุณเพื่อนสำราญ กองศรี ด้วยครับ

      (5.)ขอคารวะและขอบพระคุณคณะกรรมการทุกท่านที่ทุ่มเทร่วมแรงร่วมใจกันทำงาน  จนงานเลี้ยงสำเร็จไปได้ด้วยดี  นับตั้งแต่ประธานฯสมศักดิ์ ยศศรี ที่ช่วยประสานให้เพื่อนบางคนกลับมาเข้าร่วมรุ่นฯเราได้ คณะกรรมการจาก กทม.นำโดย เลขาฯวิเชียร มามีเกตุ  อนันต์ ชาตตระกูล  ทวีศักดิ์ สุภานันท์  วิจิตร อิ่มใจ  สมบัติ น่วมนิ่ม  ประสพโชค วุฒิสาร   อำนวย รอดทอง  ธนู เพิ่มพูล  เกษม ศิริปิ่น  บำเพ็ญ บำเพ็ญผล  โสภณ อิ่มกมล  สุรินทร์ ธีรนาวิน  ซึ่งคณะกรรมการเหล่านี้นับว่าเป็นผู้เสียสละให้กับรุ่นฯเป็นอย่างมากทีเดียวทั้งค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าพาหนะฯรวมแล้วน่าจะจัดอยู่ในประเภทบริจาคเกิน 1,000 บาทด้วยนะครับ  ขอขอบพระคุณกรรมการพื้นที่  เสรี อินทวี  วินัย เวชสิทธิ์  จำลอง กาเผือก  มงคล พรหมรุ่งเรือง  สำเริง แทนวันดี  สิทธิโชค เสมมา  ประทีป อินสุข ฯลฯ ขออภัยที่จำชื่อไม่ได้ทั้งหมด ท้ายสุดขอขอบคุณ เสริมศักดิ์ ยลศิริธรรม ที่ทำหน้าที่ควบคุมรถตู้รับ-ส่งเพื่อนไปงานเลี้ยงด้วยครับ

       ข้อสังเกตุจากจำนวนเพื่อน 33 รายที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมงานได้นอกจากสาเหตุเรื่องจากระยะทางแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นปัญหาใหญ่คือเรื่องสุขภาพครับ ขอให้ท่านทั้งหลายดูแลสุขภาพตนเองด้วยนะครับ ท้ายนี้ ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงดลบันดาลให้เพื่อนๆรุ่น 09 และครอบครัวมีแต่ความสุข ความเจริญ สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา มีสุขภาพที่ดีตลอดไปนะครับ  ขอบพระคุณครับ

       สำราญ ศรีโมรา

       เหรัญญิก รุ่น09

*****

เล่าสู่กันฟัง(คลิก)

ครอบครัวเพื่อน 09 ที่จากไปแล้ว ร่วมบริจาค (คลิก)

รายชื่อผู้บริจาคที่ไม่ได้มาร่วมงานเลี้ยง (คลิก)

*****



       

วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ขาประจำ



..พบเพื่อนเก่า เล่าความหลัง..




..."สะเก็ดข่าว"จากเพื่อน วิจิตร อ....


..อัพเดทข่าวสาร"ขาประจำ"วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 66..มีเพื่อนวิเชียร ม.สำราญ ศ.อำนวย ร.เกียรติพงษ์ อ.อนันต์ ช.ธนู พ. จิระ ก.วิจิตร อ.ทัศนะ ว.ทวีศักดิ์ ส.กนก ร.สุรินทร์ ธ.สุรเดช ก.สมบัติ น.เกษม ศ.เสริมศักดิ์ ย.มาร่วมพบปะเหมือนเช่นเคย...

...คุยเรื่องเก่า เล่าความหลัง..หลากหลายเหตุการณ์ที่ประทับใจในอดีตตามตัวเลขของอายุ..สุดท้ายก็หมดเวลาและจากลากันกลับบ้าน.."หอบของฝาก"จากสิงห์บุรีของเพื่อนสมบัติ น.ขาประจำ"ไกลแสนไกลก็ยังแพ้น้ำใจเพื่อน"......พบกันใหม่เดือนหน้า...


*****


...สองวันก่อนเห็น"เพื่อนนัน..เพื่อนเชียร"..แชร์ภาพทางไลน์ส่งข่าวว่า "พุธที่ 22 ก.พ.66 รนส.ท่าช้าง..friend forever.."!!..ก็ดีใจนะว่า..โอว!!🤣..ได้เวลา"ขาประจำ"..จะกลับไปเห็นหน้าเห็นตาตัวเป็นๆ กันอีกแล้ว..

..สำหรับตัวเองนี่ก็คงมีเหตุผลเดียวที่ต้องไป"ขาประจำ"...คือ..ได้เห็นหน้าเห็นตาแม้ไม่ได้พูดจาก็มีความสุขแล้วละ..(ฮา)🤣..จากนั้นก็จากลากัน..ลงเรือด่วนเดี๋ยวนี้มีให้เลือกหลายชนิดนะ!!!..ชมริมสองฝั่งเจ้าพระยา..นั่งรถไฟฟ้า..ต่อด้วยรถเมล์..สุดท้ายก็จักรยานเข้าบ้าน...ว่างๆก็เก็บภาพถ่ายมาลงเฟสไว้เป็นที่ระลึก..🥰💞💞💞......

"ใกล้สิ้นเดือนแล้วเพื่อนเราอยู่ที่ไหน..

ว่างก็ไปพบกันนะเพื่อนเอ๋ย

"ที่เก่าเวลาเดิม"เหมือนเช่นเคย

อย่าละเลยเชียวหนา"ขาประจำ"🤣🤣🤣

******

ขาประจำ(คลิก)
 

วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

วิธีควบคุมความโกรธ




วิธีจัดการกับความโกรธแบบง่าย ๆ
๑.รู้ว่าตัวเองโกรธ 
๒.สังเกตลมหายใจของตัวเอง ให้ผ่อนคลายหายใจ
เข้า - ออก ลึกๆ ช้าๆ อยู่กับลมหายใจ
๓.ทบทวนความคิดตัวเอง 
"ความโกรธคือการทำความทุกข์ให้ตัวเอง"
ธรรมที่ตรงข้ามกับความโกรธคือ เมตตา
ความโกรธก่อผลร้ายเท่าใด
เมตตาก็มีคุณก่อให้เกิดผลดีมาก ฉันนั้น
ฯลฯ


 

ปล่อยวาง...

How to let go.
 
What to do when nothing goes our way.


พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร..


 

ความสุขที่ไว้ใจไม่ได้...

วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

นานไปเขาก็ลืม...


...คุยเรื่องเก่าเล่าความหลัง..
11 ปี แล้ว..เร็วจริงๆ
หลังจบภารกิจกลับมาอยู่บ้านก็พอมีเวลาพบปะเพื่อนเก่า
ก็เลยถือโอกาสเก็บเรื่องราวต่างๆ 
ของพวกเรา ⚓⚓091158
มาไว้ในโลกออนไลน์ตามยุคตามสมัย..
ก็มี 3 ที่........ 
1.Facebook 2 กลุ่ม ,
(*เลือกเพลย์ลิสต์ นรจ.09 แล้วกดเข้าไปชม..)

***
จะวันนี้หรือวันไหนไม่แตกต่าง
จะอยู่ห่างหรืออยู่ไกลใช่ปัญหา
เพื่อนคือเพื่อน เพื่อนช่วยเพื่อนตลอดมา
จวบจนลาจากกันวันสุดท้าย....
***
ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะไปเยี่ยมเยียนทักทายครับ..



 

ชาติหน้ามีจริงไหม..

 


Cr.fwd line

ช า ติ ห น้ า มี จ ริ ง ห รื อ ไ ม่ ??


โยม ::  “ชาติหน้ามีจริงไหมครับ ?”

หลวงปู่ชา ::  “ถ้าบอกจะเชื่อไหมล่ะ ?”

โยม ::  “เชื่อครับ”

หลวงปู่ชา ::  “ถ้าเชื่อคุณก็โง่”


คำพูดดังกล่าวของหลวงปู่เล่นเอาคนถามงง ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ซึ่งหลวงปู่ชา ได้อธิบายไว้ว่า….


"...หลายคนถามอาตมาเรื่องนี้ อาตมาก็ถามเขาอย่างนี้เหมือนกันว่า ถ้าบอกแล้วจะเชื่อไหม ถ้าเชื่อก็โง่ เพราะอะไร ? ก็เพราะมันไม่มีหลักฐานพยานอะไรที่จะหยิบมาให้ดูได้ ที่คุณเชื่อเพราะคุณเชื่อตามเขา คนเขาว่าอย่างไร คุณก็เชื่ออย่างนั้น #คุณไม่รู้ชัดด้วยปัญญาของคุณเอง คุณก็โง่อยู่ร่ำไป..


ทีนี้ถ้าอาตมาตอบว่า คนตายแล้วเกิดหรือว่าชาติหน้ามี อันนี้คุณต้องถามต่อไปอีกว่า ถ้ามีพาผมไปดูหน่อยได้ไหม เรื่องมันเป็นอย่างนี้ มันหาที่จบลงไม่ได้ เป็นเหตุให้ทะเลาะทุ่มเถียงกันไปไม่มีที่สิ้นสุด


ทีนี้ ถ้าคุณถามว่าชาติหน้ามีไหม อาตมาก็ถามว่า พรุ่งนี้มีไหม ถ้ามีพาไปดูได้ไหม อย่างนี้คุณก็พาไปดูไม่ได้ ถึงแม้ว่าพรุ่งนี้จะมีอยู่ แต่ก็พาไปดูไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้น ถ้าวันนี้มี พรุ่งนี้ก็ต้องมี แต่สิ่งนี้มันเป็นของที่จะหยิบยกมาเป็นวัตถุตัวตนให้เห็นไม่ได้


*ความจริงแล้ว พระพุทธองค์ท่านไม่ให้เราตามไปดูถึงขนาดนั้น ไม่ต้องสงสัยว่า ชาติหน้ามีหรือไม่มี ไม่ต้องถามว่า คนตายแล้วจะเกิดหรือไม่เกิด อันนั้นมันไม่ใช่ปัญหา มันไม่ใช่หน้าที่ของเรา


✔หน้าที่ของเราคือ เราจะต้องรู้เรื่องราวของตนเองในปัจจุบัน เราต้องรู้ว่า เรามีทุกข์ไหม ถ้าทุกข์ มันทุกข์เพราะอะไร นี้คือสิ่งที่เราต้องรู้ และเป็นหน้าที่โดยตรงที่เราจะต้องรู้ด้วย


พระพุทธเจ้าท่านสอนให้เราถือเอาปัจจุบันเป็นเหตุของทุกอย่าง เพราะว่าปัจจุบันเป็นเหตุของอนาคต คือถ้าวันนี้ผ่านไป วันพรุ่งนี้มันก็กลายมาเป็นวันนี้ นี่เรียกว่าอนาคตคือพรุ่งนี้ มันจะมีได้ก็เพราะวันนี้เป็นเหตุ


ทีนี้อดีตก็เป็นไปจากปัจจุบัน หมายความว่า ถ้าวันนี้ผ่านไป มันก็กลายเป็นเมื่อวานเสียแล้ว นี่คือเหตุที่มันเกี่ยวเนื่องกันอยู่


ฉะนั้น พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนให้เราพิจารณาเหตุทั้งหลายในปัจจุบัน เท่านี้ก็พอแล้ว ถ้าปัจจุบันเราสร้างเหตุไว้ดี อนาคตมันก็จะดีด้วย อดีตคือวันนี้ที่ผ่านไป มันย่อมดีด้วย 


✔และที่สำคัญที่สุดคือ.. ถ้าเราหมดทุกข์ได้ในปัจจุบันนี้แล้ว อนาคตคือชาติหน้าก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึง...”


พระโพธิญาณเถร

หลวงปู่ชา สุภัทโท


ข้อมูลอ้างอิง :: http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/lp_cha/lp-cha_33.htm


อย่าลืมคลิกที่อัลบัมเพื่อสิ่งที่น่าสนใจ 


ที่มา : Tee Bhikkhu

พระปิดตา

 Cr.facebookพระครูอินเดีย


Facebook:https://fb.watch/iFdN5trsvj/



วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ปาฏิหาริย์

Cr.Fwd.line


 อายาลืมตาดูโลกครั้งแรกเมื่อแผ่นดินถล่มสนั่นหวั่นไหว 


ตอนที่พวกเขาช่วยเธอออกมานั้น สายรกยังเชื่อมตัวเธอกับร่างแม่ที่ไร้ชีวิต พร้อมกับคนหลายหมื่นคนใต้ซากอาคารนั้น


ร่างกายเธอมีรอยแผล ชอกช้ำ เกือบจะไม่หายใจแล้ว แต่เธอยังหายใจต่อไป


พวกเขาตั้งชื่อเธอว่า อายา (Aya) ภาษาอาหรับแปลว่าปาฏิหาริย์


เธอก็คือปาฏิหาริย์อย่างแท้จริง


แม่ พ่อ และพี่สี่คนของเธอล้วนตายในซากอาคารถล่ม


การมีชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย บางครั้งมันก็เริ่มบทที่หนึ่งด้วยความทุกข์สาหัส แต่มันก็คือชีวิต


ชีวิตก็คือลมหายใจ คือการก้าวเดินต่อไป เพราะการหายใจต่อไป การก้าวเดินต่อไปคือชีวิต


และการลุกขึ้นยืนแล้วก้าวต่อไปก็คือ 'อายา' - ปาฏิหาริย์อย่างหนึ่ง


วินทร์ เลียววาริณ 10-2-23


(ภาพจาก BBC News)

..คุยเรื่องเก่า เล่าความหลัง..


วันก่อนมีผู้อ่านท่านหนึ่งคอมเม้นมาว่า อยากเห็นการแข่งกันคุยเล่าความหลัง..
วันนี้ขออนุญาต"เล่าความหลัง.." กิจกรรมของพวกเรา ๐๙๑๑๕๘  เมื่อ ๔ ปี (พ.ศ.๒๕๖๒ - ๒๕๖๕) ที่ผ่านมานะครับ..
****


 

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ฝึกสมาธิแบบหมอสันต์






57 ปี นาวี 09

ภาพกิจกรรมในวันที่ 28 มกราคม 2566

กิจกรรมในรอบปี 2565


*****

⚓⚓091158 ร่วมจิต ร่วมคิด ร่วมทำ...💝💝💝
ฯลฯ
"...เพื่อนช่วยเพื่อน..091158..อยู่ในสมองนะเพื่อน..ยินดีเสมอขอให้บอกนะเพื่อน.."เพื่อนภัทรเดช ศ.(ทรงเดช)
***
"ผมภาคภูมิใจในรุ่นของเราที่สุด" อดีตประธานรุ่นฯ เพื่อนชาญณรงค์ ว.
***
"..ร่วมมือ ร่วมใจกันได้ดีมาก โดยเฉพาะเพื่อนเสรี อ.นย.มีส่วนช่วยงานของผมเยอะ..." เพื่อนสมศักดิ์ ย.ประธานรุ่น
***
"..ความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจกัน เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้รุ่นเรายังคงอยู่.." เพื่อนประสพโชค .ว
***
"ยังรักและสามัคคีอย่างเหนียวแน่น.." เพื่อนวิจิตร อ
***
"..ดีใจได้เจอเพื่อนฝูง..อยากให้จัดแบบนี้ทุกปี.."เพื่อน จิระ ก.
***
Cr.line เพื่อนประทีป อ.
ขอบคุณเพื่อนประทีป..🤣
***
"ขอขอบคุณคณะผู้จัดงานเลี้ยงสังสรรค์รุ่น  ที่ทำให้พวกเราได้มาพบปะกัน  เหนื่อยหน่อยนะเพื่อน" เพื่อนปราโมทย์ ม.
***
"มีความสุขทุกครั้งที่ได้พบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆคร้าบผมไม่ได้โม้". เพื่อน ทัศนะ ว.
***
"งานนี้ต้องขอบคุณท่านประธานและคณะกรรมการทุกๆท่าน ที่เสียสละในการทำงานเพื่อรุ่น09 ขอชื่นชมจากใจจริงค่ะทุกๆท่านทำเพื่อรุ่น 09 ได้อย่างดียิ่ง ซึ่งหาได้ยากที่จะมีทีมงานและบุคคลที่จะเข้ามาทำงานตรงนี้โดนเฉพาะการประสานงานแจ้งข่าวสาร ต่อเพื่อนๆร่วมรุ่น….(เพราะเป้าเองก็มีเพื่อนหลายรุ่นหลายสถาบัน แต่ไม่ค่อยได้พบปะ เพราะขาดทีมงานและคนที่คอยประสานงานด้านต่างๆ จนห่างหายกันไปค่ะ)" Chanita Sri คนรู้ใจเพื่อน @ภัทรเดช
***
"อยากให้มีทุกปีอยากเห็นพี่ๆ 09 และภรรยา ทุกคนแข็งแรงและมาร่วมงานมากๆเห็นพี่ๆมาพบปะกันพูดคุยแล้วมีความสุขนะคะถ้าพิชัยอยู่ก็คงคิดอย่างนี้เหมือนกันเพราะเขารัก Navy 09 ตลอดจนลมหายใจสุดท้าย" ลิปิกร พันธ์ไชยศรี คนรู้ใจ เพื่อนพิชัย ฯ เพื่อนที่จากพวกเราไปแล้ว...
****
"ขอบคุณพี่ๆที่เป็นคณะกรรมการทุกท่าน กว่างานนี้จะสำเร็จได้  ทุกท่านต้องเตรียมงานและเหนื่อยตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ งานสนุกสนาน และอบอุ่นมากค่ะ ขอให้ได้พบกันทุกปีนะคะ"อาจารย์อาภรณ์ คนรู้ใจเพื่อนกองมี ขุนแข็ง
***

..ปีหน้า นย.11 จะจัด"รำวงย้อนยุค"...!!??
ฯลฯ
ขอบคุณเพื่อนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน...
****
*****
*****
*****


วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

หมอสันต์..แนะวิธีรักษาโรคด้วยตัวเอง..

โรคหัวใจขาดเลือด


โรคความดันเลือดสูง
 

โรคความเครียด


..ดูแลตัวเองอย่างไร..


****

สมองสร้างสุข

 Cr.Fwd.line






****
การพัฒนาสมอง 8 วิธี
1.ออกกำลังกาย
2.บริหารจิต เช่น ทำสมาธิ ฯลฯ
3.การนอนหลับให้เพียงพอ
4.รับประทานอาหารผักผลไม้ ปลา เป็นหลัก
5.เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
6.ลับสมองใช้ความคิด
7.คิดดี พูดดี ทำดี
8.หลีกเลี่ยงสิ่งทำลายเซลล์สมอง  สิ่งเสพติดทั้งหลายเช่น สุรา ยาเสพติด ฯลฯ
****

Cr.Fwd.line

วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ความมืดมาอย่างช้าๆ......

 Cr.Fwd line



7ฉากของชีวิตที่จะเกิดกับชีวิตของพวกเรา......🎯 ไม่ทราบใครแปลมา แต่ชอบมาก เรื่อง ความมืดมาอย่างช้าๆ เตรียมรับมือกับจุดจบของชีวิตร่วมกัน 


 ☀ ... หากคุณอายุ 60 ปีแล้ว แนะนำให้อดทนอ่านบทความเรื่อง ความมืดมาอย่างช้าๆ จะทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนไป และเผชิญหน้ากับชีวิตในแง่ดี ไม่เชื่อ ก็อ่านบทความต่อไปนี้


  ☀   Zhou Da xin ผู้ชนะรางวัล Mao Dun Literature Prize ที่เพิ่งตีพิมพ์นวนิยายเรื่องล่าสุดของเขา เขาบรรยายชีวิตของผู้สูงอายุได้อย่างจับใจมาก


🎯 ผู้คนเมื่อเข้าสู่อายุ 60 จนถึงเวลาที่ชีวิตปิดสนิทลง ในช่วงเวลานี้มี *บางฉาก* ที่ควรใส่ใจ คุณจะรู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง แล้วคุณจะไม่ตื่นตระหนก เมื่อเวลานั้นมาถึง


       🌹1️⃣ *ฉากแรก* คือ ...

คนที่อยู่รอบข้างจะน้อยลงเรื่อยๆ คนรุ่นพ่อ ปู่ย่าตายายของคุณ ส่วนใหญ่จะจากคุณไปแล้ว เพื่อนๆ รุ่นเดียวกันส่วนใหญ่ยุ่งกับเรื่องดูแลตนเอง คนรุ่นลูกหลานก็ยุ่งอยู่กับงานตัวเอง ภรรยาหรือสามีบางคน อาจลาจากไปก่อนแล้วด้วย เหลือแต่วันว่างๆ เท่านั้นเป็นเพื่อนอยู่กับคุณ  


🎯  คุณต้องเรียนรู้ที่จะเคยชินกับการอยู่คนเดียว ลิ้มรส และเผชิญกับความเหงาตัวเอง 


      🌹2️⃣  *ฉากที่สอง* คือ ... สังคมจะสนใจในตัวคุณ ลดน้อยลงเรื่อยๆ ไม่ว่าอาชีพการงานของคุณจะสดใสแค่ไหนในอดีต มีชื่อเสียงแค่ไหน เมื่ออายุมากขึ้น จะเปลี่ยนคุณเป็นชายชราและหญิงชราธรรมดา และสปอตไลท์ จะไม่ส่องที่ตัวคุณอีกต่อไป คุณต้องเรียนรู้ที่จะหลบอยู่มุมเงียบๆ เพื่อชื่นชม ตื่นเต้นกับสถานภาพคนรุ่นหลัง แทนเกิดความอิจฉาหรือตำหนิพวกเขา 


        🌹3️⃣ *ฉากที่สาม* คือ ... อันตรายเกิดขึ้นตลอดในอนาคตข้างหน้า กระดูกหัก, หลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดอุดตัน, สมองลีบ, มะเร็ง, ฯลฯ โรคภัย ไข้เจ็บ ทั้งหลายอาจมาเยี่ยมเยือนคุณ แม้คุณไม่อยากต้อนรับ  


🎯 คุณต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับโรคพวกนี้ เหมือนเป็นเพื่อนกันเลย และเลิกเพ้อฝันถึงชีวิตที่มั่นคง โดยปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องรักษาทัศนคติที่ดี และ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และคุณต้องให้กำลังใจตัวเองให้เดินหน้าต่อไป 


    🌹4️⃣ *ฉากที่สี่* คือ ... การเตรียมตัวนอนบนเตียงและหวนคืนสู่วัยเด็ก แม่ให้กำเนิดเรามาในโลกครั้งแรกนั้นเราอยู่บนเตียง หลังจากต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักและคดเคี้ยวมาทั้งชีวิต สุดท้ายก็กลับคืนสู่ต้นกำเนิดของชีวิต อยู่บนเตียงเพื่อรับการดูแลของผู้อื่น 


🎯 ข้อแตกต่างคือตอนแรกที่เรามา แม่จะดูแลเรา แต่เมื่อเรากำลังจะจากไป เราอาจไม่จำเป็นต้องได้รับการดูแลจากญาติ แม้ว่าจะมีญาติอยู่บ้าง แต่เทียบไม่ได้กับแม่ผู้ดูแลคุณ 


🎯  อาจมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แต่ในใจกลับเบื่อที่จะทนดูแลผู้ไม่ใช่ญาติเขา  คุณต้องเจียมตัวและอดทน ขอบคุณคนเหล่านี้


        🌹5️⃣ *ฉากที่ห้า* คือ .... ตลอดเส้นทางที่เหลือจะมีคนจ้องหลอกลวงมากมาย


🎯 คนจ้องหลอกลวงเหล่านี้ รู้ดีว่าผู้สูงอายุมีเงินออมในกระเป๋า จึงพยายามโกงเงินของผู้ชรา ส่งข้อความ ส่งอีเมล ให้ลองอาหาร ลองฟัง บอกทางรวยลัด เรื่องอายุยืนยาว การปลุกเสก เรื่องทั้งหลายเพียงเพื่อต้องการเงินจากคุณ   


🎯  คุณต้องระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ถือกระเป๋าสตางค์ของคุณให้แน่น อย่าให้ถูกหลอก ต้องใช้เงินก้อนสุดท้ายของคุณให้คุ้มค่าที่สุด


     🌹6️⃣  *ฉากที่หก* คือ ...

การปฏิบัติตนให้ดีต่อคู่ชีวิต (คนอยู่รอบข้าง/คู่สมรส) ควรพูดจาสุภาพอ่อนโยน และแสดงความห่วงใยซึ่งกันและกันมากขึ้น  คุณจะคาดหวังพึ่งลูกๆ อย่างเดียวไม่ได้ ลูกๆ มีครอบครัวต้องรับผิดชอบของตัวเอง สุดท้ายคู่ชีวิตต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน  


* อายุปูนนี้ไม่ต้องกลัวว่า ใครจะนอกใจใครแล้ว มีแต่กลัวใครเสียใครไปก่อนเท่านั้น


 🌹7️⃣ *ฉากที่เจ็ด* คือ ...

ลาภ ยศ ตำแหน่ง เป็น ของสมมุติทั้งสิ้น ของที่แท้จริง คือ ความดีความชั่ว  ที่จะติดตัวไปตลอด คนจะสรรเสริญหรือจดจำก็ การประพฤติเป็นคนดี ของครอบครัวของสังคม 


🎯 ใครที่คดโกงแผ่นดินคดโกงบ้านเมือง ก็ต้องได้รับผลกรรมนั้นกับตัวเองและคนในครอบครัว  


🎯  ฉะนั้น คิดก่อนทำ ว่าทำงาน ทำตนอย่างไร ให้คนจดจำในสิ่งที่ดี  การทำความดีเริ่มจากตนเองสังคมก็จะดีไปด้วย 

              .............

🎯 *ก่อนฟ้าจะมืดลง* ในช่วงท้ายชีวิตฟ้าจะค่อยๆ มืดลง การใช้ชีวิตลำบากขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา  


🎯  ดังนั้นหลังจากอายุ 60 การมองโลกในแง่ดี ทะนุถนอมเวลา และสนุกกับชีวิตอย่างเต็มที่จึงสำคัญ


🎯 เลิกสนใจติดตามกระแสสังคม เลิกการกักขังตัวเองกับหลานๆ  


🎯 อย่าดูถูกตัวเอง อย่าอวดเก่ง พูดจาดูถูกทำร้ายผู้อื่นหรือตัวเอง  


🎯 แก่แล้วยิ่งต้องรู้จักเคารพผู้อื่น ขณะเดียวกัน ต้องเข้าใจวาระสุดท้ายชองชีวิต จิตใจเตรียมพร้อม ทำตัวสบายๆ ตามธรรมชาติ!

                ..........

*[ความมืดมาอย่างช้าๆ]*   ฉากสุดท้ายของชีวิตผู้สูงอายุ เห็นได้อย่างชัดเจน  


ทุกประโยคที่เขียนถูกใจผู้สูงอายุทั้งหลาย!  โปรดส่งต่อให้เพื่อนร่วมรุ่น และสหายเก่า และเตรียมรับมือกับจุดจบของชีวิตร่วมกัน!  .....


*************

Cr.Fwd line

อาลัยเพื่อนที่จากไป


(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)

แด่ เพื่อนผู้จากไป....

..จากที่นำรายชื่อเพื่อน ๆ แต่ละเหล่ามาลงไว้ไว้เพื่อทบทวนความจำเมื่อครั้งยังใส่เสื้อน๊อตนุ่งกางเกงขาสั้นไปแล้วเมื่อตอนก่อน .....ครั้งนี้ขอนำรายชื่อเพื่อน ๆ ที่จากพวกเราไปแล้วมาเล่าสู่กันฟัง..(ต้องขอบคุณประธานรุ่นและคณะกรรมการชุดก่อน ๆ ที่ได้รวบรวมไว้เป็นอย่างดี..)
๑.สมทรง คงธรรม
๒.วัฒชัย บุญเหมือน
๓.ทองสุข เนื้อทอง
๔.วีระ อวยชัย
๕.สุนันท์ เกษรา
๖.ทรงวุฒิ ศรีทอง
๗.ศุภมาตรา บุญเสริมศิริ
๘.สุเทพ คำหวาน
๙.บุญถึง ประยูรเรือง
๑๐.ประกอบ ขุมเพชร
๑๑.บรรจง รวยดี
๑๒.ธวัชชัย สงวนทรัพย์
๑๓.ปฐม วิสุทธิพร
๑๔.รักษ์ กลิ่นพยอม
๑๕.รังสิต น้อยเจริญ
๑๖.ประกอบ พิพิธกุล
๑๗.เกรียงศักดิ์ เกษสังข์
๑๘.อาวุธ ป้องอ้วน
๑๙.สมศักดิ์ พรหมประเสริฐ
๒๐.บุญชู วงษ์เกิด
๒๑.มานะ พึ่งเนตร
๒๒.เอนก เกิดสว่าง
๒๓.ไพศาล เกษจันทร์
๒๔.โยธิน พุ่มมาก
๒๕.ณรงค์ มีพลอย
๒๖.พอพล ทรงมณี
๒๗.สุชาติ นาคโสภณ
๒๘.ศักดิ์เดช ทับทิม
๒๙.สุรชัย ทรัพย์ประดิษฐ์
๓๐.สัญญา ช่วยนคร
๓๑.สุกิจ ศรีหิรัญ
๓๒.อนันต์ หาญชนบท
๓๓.สมบัติ แสงศิริ
๓๔.ชำนาญ จัดงูเหลือม(นพฤทธิ์ ประเสริฐธีระพงษ์)
๓๕.สมบูรณ์ จิตอุทัย
๓๖.วีระยศ แสดงพจน์
๓๗.ประสงค์ นาคสีเมฆ
๓๘.ชุมพล จันทบาล
๓๙.ไพศาล สุขกุล
๔๐.พงษ์ศักดิ์ ธิกุลวงค์
๔๑.สมเพ็ชร เพ็ชรน้อย
๔๒.ไพบูลย์ ดวงศรี
๔๓.ศิริ โชติช่วง
๔๔.สงัด ภูนาขาว
๔๕.ธีระ ทวีสวัสดิ์
๔๖.สมบุญ กาหล่ำ
๔๗.ทองพูน สวัสดิ์ราษฎร์
๔๘.ประมวล กลับเจริญ
๔๙.สมคิด ซื่อประเสริฐ
๕๐.ไพโรจน์ เหมือนประยูร
๕๑.ปรีชา หลีโป๊ (คชา กตัญญูสูตร)
๕๒.สุชาติ ทองฉิม
๕๓.สมศักดิ์ กูลสวัสดิ์
๕๔.สวิก คุ้มแสง
๕๕.สุคนธ์ สุฉันทบุตร
๕๖.ก่อเกียรติ ตันติกุล
๕๗.สันติ สนธิปัญญา
๕๘.เคลื่อน สุขวิโรจน์
๕๙.สมวงษ์ เดชปรารมย์
๖๐.ณรงค์ บุญวาที (เปลี่ยนชื่อเป็น ณพล)
๖๑.วิสูตร์ เรืองฤทธิ์
๖๒.ดำริ ทองภักดี
๖๓.ประสิทธิ์ คอนสลัด
๖๔.สุรพันธ์ สุเมธินทกุล
๖๕.สุวพล ทิพย์รอด
๖๖.ประทีป ทัศกระแส
๖๗.พงษ์ศักดิ์ รุ่งเรืองกุล
๖๘.ภุชงค์ นาควิเชตร์
๖๙.กิตติ บุญธรรม
๗๐.ศิริศักดิ์ สายบุตร
๗๑.ธวัชชัย  ทองเจริญ
๗๒.สิทธิชัย  บูรณสิน
๗๓.ทองสุข  ชมวงษ์
๗๔.มานพ  คุ้มรักษา
๗๕.เสน่ห์ รักนาค
๗๖.วีระพงษ์ พอดี
๗๗.บุญสนอง แย้มผกา
๗๘.สัจจพันธ์  น้อยวัฒน์
๗๙.ยุธยา ภู่ไพโรจน์
๘๐.วีระศักดิ์ ทองเสริม
๘๑.สมศักดิ์ ทรัพย์เสน
๘๒.รังสรรค์ บุญชัย
๘๓.อิทธิพงษ์(ลีจันทร์) ศรีปะโค
๘๔.สัญชัย  เป้ามาลา
๘๕.วินัย  พานะกิจ
๘๖.สุทธิศักดิ์  สุขพงษ์
๘๗.ศักดิ์สิทธิ์(ประคอง) บำรุง
๘๘.บุญโฉลก พลอยแก้ว
๘๙.สมชัย รัตน์ราศี
๙๐.พิรุณ โพธิ์ศรี
๙๑.วิรัตน์ คำตรี
๙๒.บุญธรรม พุกเศรษฐี     
๙๓.มงคล กลิ่นปทุม
๙๔.สมควร ศิริเขต
๙๕.สมนึก พรมมา
๙๖.อนวัช(วินัย) ประเสริฐ
๙๗.นรากร(สละ) อยู่พูล
๙๘.นิวัฒน์(ชัยวัฒน์)พงษ์สวัสดิ์
๙๙.พิชัย พันธุ์ไชยศรี
๑๐๐.จักรภพ ทองเผือก
๑๐๑.สวรรค์ ขันธ์เขตต์
๑๐๒.ประมล ศรีหะทัย
๑๐๓.อัครพนธ์(สุรีย์)  สัยนิยม
๑๐๔.โกวิท  ศรีประเสริฐ
๑๐๕.ฐานิศวร์ อัครปัญญาวี(สมชาติ ปัญญา)
๑๐๖.พนอ ควรสนอง
๑๐๗.วัฒนา  ต่างสากล
๑๐๘.จำรัส  เผือกประพันธ์
๑๐๙.อำนาจ สกุลทอง
๑๑๐.จำนง  บุญคล้อย
๑๑๑.ภุชงค์ สุวรรณพงศ์
๑๑๒.สุรศักดิ์  ศรีคล้าย
๑๑๓.สมศักดิ์ งามฉาย
๑๑๔.บุญส่ง แจ่มเที่ยงตรง
๑๑๕.ระเบียบ รอดรัตนาทูล
๑๑๖.ปกรณ์(ทองลา) แก้วดก
๑๑๗.ศักดิ์ บุญเจิม
๑๑๘.ปรีชา อิ่มฤทัย
๑๑๙.กนก ฝังนิล
๑๒๐.วิชัย แก่นสาร
๑๒๑.สกล อยู่จินดา
๑๒๒.ไชโย ข่าทิพย์พาที
๑๒๓.สัมฤทธิ์ ทวียิ่ง
๑๒๔.มานิต คงระเรื่อย
๑๒๕.ประเสริฐศักดิ์ สุวรรณโรจน์
๑๒๖.ธนวนต์ โกมารชุน
๑๒๗.กิตติศักดิ์(เชื้อ) ประทุมวงษ์
๑๒๘.พันธ์พงศ์ เลิศบุญชู
๑๒๙.อุดม ทรัพย์มณี
๑๓๐.ประเสริฐ ญาณธรรม
๑๓๑.พยุง เนื่องคำมา
๑๓๒.ณรงค์ชัย ภาคจิต
๑๓๓.เรืองยศ เอี่ยมสินธุ์
๑๓๔.วิชาญ น่วมสกนธ์
๑๓๕.วีระ  อุ่นสกุล
๑๓๖.เผด็จ สุขไพบูลย์
๑๓๗.ยงยุทธ อิงสุข
๑๓๘.สุรพล ศิริธำรงค์
๑๓๙.พิสิษฐ์(จี๊ด)อนุพันธ์
๑๔๐.บุญช่วย น่วมพิพัฒน์
๑๔๑.ชลอ อินทร์ประเสริฐ
๑๔๒.จิระชัย กันตะสุวรรณ
๑๔๓.นวพรรษ(สำเริง)แก้วกันเนตร
๑๔๔.เสน่ห์ โพธิ์กัน
๑๔๕.ประยูร พรหมอุบล
พวกเราเพื่อนร่วมรุ่นขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเพื่อนๆ ที่จากไปแล้ว..และขอให้ดวงวิญญาณของเพื่อน ๆ ไปสู่สุคติแห่งสรวงสวรรค์..ถึงแม้นว่าเพื่อนจะจากพวกเราเพื่อนร่วมรุ่นไปแล้ว ..พวกเราทุกคนยังเก็บความทรงจำดี ๆ ที่เราเคยอยู่ร่วมรุ่น สุข ทุกข์ มาด้วยกัน...หลับให้สบายเถิดเพื่อน.......
......................................
(ปรับปรุงเมื่อ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๗)

************************
ทำเนียบ นรจ.รุ่น ๐๙ (คลิก)

***************