วันพุธที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

อยู่กับปัจจุบัน


 ธรรมะอรุณสวัสดิ์...รับวันใหม่ 

.............................

วิปัสสนาไม่ใช่ความนึกคิด 

ไม่ใช่เราคิดมาก ๆ เหมือนปัญญาทางโลก 

ที่คิดมาก หาเหตุหาผลข้อมูลอะไรมาคิดมาก 


แต่ว่าวิปัสสนาเป็นเรื่องของความรู้แจ้ง 

มันต้องรู้จริง ๆ 

มันต้องรู้สิ่งที่ปรากฏให้รู้ให้เห็นแจ่มแจ้งในสิ่งที่เป็นปัจจุบัน 

ถ้าเราคิดไป มันจะทิ้งปัจจุบันหมด 

เวลาคิดนึกไป จิตเราจะไหลไปสู่เรื่องอดีตอนาคต  

สิ่งที่เป็นปัจจุบันปรากฏอยู่เฉพาะหน้ามันจะมองไม่เห็น  


ฉะนั้นเรื่องการปฏิบัติ ให้วางความคิด 

วางความคิดถึงเรื่องต่าง ๆ อดีต อนาคต 

ให้กำหนดอยู่กับปัจจุบัน 


ปัจจุบันคืออะไร? 

ปัจจุบันก็คือสิ่งที่กำลังปรากฏ 

แล้วสิ่งที่เป็นปัจจุบันนั้นก็ต้องเป็นสภาวะด้วย 

ปรมัตถธรรมหรือสภาวธรรมที่กำลังปรากฏ 


เช่น ทางกาย กำลังรู้สึกเย็น กำลังรู้สึกร้อน 

รู้สึกอ่อน แข็ง รู้สึกหย่อน ตึง 

มันกำลังรู้สึกอยู่ ที่เป็นปัจจุบัน 

เย็นมากระทบ รู้สึกเย็น มันต้องรู้ตรงขณะที่กำลังปรากฏ 


เวลามันเกิดการผัสสะ มันมีประสาทกาย เป็นเครื่องรับ 

และมันก็มีโผฏฐัพพารมณ์เป็นเครื่องกระทบ 

แล้วมันก็มีธาตุรู้ขึ้นมา 

ถ้าว่าโดยธาตุแล้ว มันจะมีธาตุรับ ธาตุกระทบ แล้วก็ธาตุรู้ 

จึงเรียกว่าผัสสะ 

เวลามันประกอบประชุมกัน มีประสาทกายเป็นเครื่องรับ 

ประสาทกายมันก็อยู่ทั่วสรีระร่างกาย 

ที่มันสามารถจะรับโผฏฐัพพารมณ์ได้ รับสัมผัสโผฏฐัพพารมณ์ 

โผฏฐัพพารมณ์ก็เป็นเครื่องกระทบกาย 

ที่มันเย็น ร้อน อ่อน แข็ง หย่อน ตึง 

พอมากระทบ มันก็จะเกิดธาตุรู้ตรงนั้นตรงที่มันกระทบกัน 

เรียกว่าผัสสะ กายสัมผัส คือการผัสสะขึ้นทางกาย 


การเจริญสติต้องระลึกรู้ตรงนั้น ตรงที่มันรู้สึกผัสสะขึ้นมาตรงนั้น 

เช่น มันรู้สึกสัมผัสเย็นที่แขน ก็ต้องรู้ตรงที่แขน 

สัมผัสเย็นที่ข้อศอก ก็รู้กันตรงที่ข้อศอก 

สัมผัสเย็นที่ใบหน้า ก็รู้กันตรงที่ใบหน้า 

ตรงนั้น … ตรงที่มันกำลังรู้สึกสัมผัส … เป็นปัจจุบัน  

รู้ก็รู้เฉย ๆ ไม่ต้องไปยินดีร้าย 


เวลาที่มันมีความแข็งกระทบ รู้สึกแข็ง 

มีไหม แข็ง ๆ ตึง ๆ? 

อย่างนั่งอยู่ก็จะมีความตึง ความแข็ง ความไหว 

ทรวงอกหน้าท้อง อย่างเวลาหายใจเข้าไป 

หายใจเข้า สังเกตว่าท้องเป็นอย่างไร? 

ทรวงอกหน้าท้องตึงหรือหย่อน? 

หายใจออก รู้สึกหย่อนหรือตึง? 


ความรู้สึกที่มันตึง ๆ หย่อน ๆ ไหว ๆ คือสภาวะ 

วิปัสสนาต้องระลึกรู้สภาวะ 

แล้วต้องคิดอะไรไหม? ต้องคิดต้องนึกอะไรไหม? 

มันไม่ต้องคิดอะไร 

เพียงมีสติหยั่งรู้มา มันก็เจอความไหว ๆ 

ไม่ต้องคิดอะไร 


เวลาเย็นมากระทบแขน รู้สึกเย็น 

ใส่ใจลงไป แล้วก็สังเกตความรู้สึกเย็น ๆ 

ต้องคิดอะไรไหม? 

เจริญวิปัสสนาไม่ต้องคิด 

คิดให้ลำบากอีก 


วิปัสสนาที่จริงไม่ใช่เป็นเรื่องลำบาก 

แค่สังเกต แค่ระลึกรู้ หยั่งรู้ สังเกตความรู้สึก รู้สึก 

ไม่ต้องคิดอะไร 

แค่ไปรับรู้ความรู้สึกต่าง ๆ ที่ปรากฏ  

.............................

ธัมโมวาท โดยหลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี

เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา

*****

Cr.https://www.facebook.com/100050180992815/posts/pfbid0zobtpLzR9dXGfi2APRzU3fmY5KbK2bbMn4SurZNodm3kuqrdBeeGyUdJ9ZziVj7rl/?mibextid=Nif5oz

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น