วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ทาสทาน


.......
ทานมี ๓ ประเภท
หลวงพ่อ:" คำว่า ทาสทาน หมายความว่า ให้ของเลวกว่าที่เรากินเราใช้ เวลาเราใช้สอยมันก็ต้องเลวกว่าที่เขากินเขาใช้กัน ได้ก็ได้ของเลว
       ถ้าให้ของที่เสมอเรากินอยู่  หรือที่เราใช้อยู่ เขาเรียกว่า สหายทาน ผลที่เราจะได้รับ ก็เสมอกับที่เรากินเราใช้
       ถ้าให้ของที่ดีกว่าเรากินเราใช้ เขาเรียกว่า สามีทาน ..สามีทานเขาไม่ได้แปลว่า ผัวทานนะ  สามี เขาแปลว่า นาย เวลาที่จะได้รับผล เราก็จะได้ของเลิศ
       ถ้าจะถามว่า ทาสทาน มีอนิสงค์ไหม ก็ต้องดูตัวอย่าง ท่าน อาฬวิเศรษฐี เป็นมหาเศรษฐีมีทรัพย์ ๘๐ โกฏิ พระราชาตั้งเป็นมหาเศรษฐี แต่ว่าผ้าที่แกนุ่งนี่ ผ้าใหม่แกนุ่งไม่ได้ นุ่งผ้าช้ำแล้วใกล้จะขาดแกจึงจะนุ่งได้ ข้าวที่จะกินเม็ดสวย ๆก็กินไม่ได้ต้องกินข้าวหัก หรือปลายข้าวแกจึงจะกินได้ ของทุกอย่างที่แกใช้ต้องเป็นของเลว แต่อย่าลืมว่าเขาก็เป็นมหาเศรษฐีได้นะ "
      หลวงพ่อปรารภเพิ่มเติมว่า
      " การตั้งใจว่าจะใส่บาตรด้วยของดี ๆ น่ะดี แต่ว่าวันใหนมีอาหารที่เราคิดว่าไม่ดีก็ใส่บาตรได้
         การให้ทานพระพุทธเจ้าบอกว่า อย่าให้เบียดเบียนตัวเอง ถ้าเบียดเบียนตัวเองเป็น อัตตกิลมถานุโยค เป็นการทรมานตัว
        และการให้ทานพระพุทธเจ้าให้ดูอีกว่า ควรให้หรือไม่ควรให้  ถ้าให้ในเขตของคนเลวอานิสงค์ก็น้อย อาจจะไม่มีเลย  รู้ว่าคนนี้ควรให้เราก็ให้ ถ้าไม่ควรให้เราก็ไม่ให้ ให้แล้วไปกินเหล้าเมายา ไปสร้างอันตรายกับคนอื่น เราไม่ให้ดีกว่าเป็นการต่อเท้าโจร ให้พลังแก่โจร เวลาท่านจะให้ท่านวางกฏไว้ดังนี้
       ๑.ผู้ให้บริสุทธิ์  บริสุทธิ์หรือไม่ เขาจึงให้สมาทานศีลก่อน ถ้าสักแต่ว่าสมาทานนี่ซวย เวลานั้นต้องตั้งใจรักษาศีลจริง ๆ จิตตอนนั้นมันจึงจะบริสุทธิ์ คือ อยู่ในช่วงว่างจากกิเลส ถ้าตั้งใจสมาทานศีลด้วยดี จิตตอนนั้นบริสุทธิ์
      ๒.ผู้รับบริสุทธิ์  หมายความว่า ถ้าผู้รับเป็นพระก็พยายามให้เป็นพระจริง ๆ นะ  ถ้าถวายสังฆทานนี่ไม่ต้องห่วงผู้รับบริสุทธิ์แน่ พระองค์ใหนถ้าไม่บริสุทธิ์ กินแล้วตกนรก
     ๓.วัตถุทานบริสุทธิ์  ถ้าไม่ได้ฆ่าสัตว์เอามาทำบุญ ไม่ได้ขโมยสตางค์เขามาทำบุญ เป็นของที่เราหามาได้โดยชอบธรรม
       อย่างนี้ของดีก็ตาม ของเลวก็ตามมีอานิสงค์มาก อานิสงค์คือความดี ความชื่นใจมาก
        ถ้าผู้ให้บริสุทธิ์ ผู้รับบริสุทธิ์  วัตถุทานไม่บริสุทธิ์ ความดีก็ลดน้อยลงไป
       แต่ผู้ให้บริสุทธิ์  ผู้รับไม่บริสุทธิ์ วัตถุทานไม่บริสุทธิ์ ให้บาทหนึ่ง จะได้สักสตางค์หรือเปล่าก็ไม่รู้
       รวมความว่าต้องบริสุทธิ์  ๓  อย่าง ถ้าลดไปอย่างใดอย่างหนึ่งอานิสงค์ก็ลดตัวลงมา ถ้าลดเสียหมดเลยก็ไม่มี "
.......ฯลฯ..........(ยังมีต่อ)
....................
(จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๑ พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อพระมหาวีระ  ถาวโร) (ฤษีลิงดำ))

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น