วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2566

ละตัณหา


 ทุกข์เมื่อไร เราต้องค้นหาสมุทัย คือ เหตุของทุกข์นั้น ซึ่งเรียกว่าตัณหา

ตัณหา คือ อยากได้ อยากมี อยากเป็น ไม่อยากได้ ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น


อาการของตัณหามีมากมายก่ายกอง เช่น อยากได้ความสุขจากการเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การได้รส การได้สัมผัส การคิดปรุงแต่ง อยากได้ส่ิงที่ชอบให้มาก อยากได้คนเดียว อยากได้มากกว่าคนอื่น อยากได้เร็ว อยากได้ทันใจ อยากได้ยศ อยากได้เกียรติ อยากได้ชื่อเสียง อยากได้สิ่งที่เกินกำลังที่จะหามาได้ อยากได้สิ่งที่เกินวิสัยของมนุษย์ที่จะหามาได้หรือครอบครองได้ เช่น กายที่ไม่ต้องแก่ ไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องตาย ไม่อยากต้องมีสิ่งที่มีแล้ว ไม่อยากคบคนที่จำเป็นต้องคบ ไม่อยากอยู่ในชุมชนในสิ่งแวดล้อมของตน ไม่อยากให้ชีวิตเป็นอย่างที่มันเป็น อยากให้มันเป็นอย่างอื่น ไม่อยากให้คนรอบข้างทำอย่างนี้ พูดอย่างนี้ มองเราอย่างนี้ อยากให้เขาเป็นเหมือนที่เราคาดหวังเอาไว้ เหมือนที่เราชอบ


เราไม่ต้องกลัวว่าละตัณหาได้ชีวิตจะจืดชืด เพียงความอยากที่เร่าร้อนจางไปแล้ว ความอยากที่เป็นบุญเป็นกุศลสามารถเกิดขึ้น ทำหน้าที่ดลบันดาลใจแทนมันได้


พระอาจารย์ชยสาโร

*****

Cr.https://www.facebook.com/photo.php?fbid=689767469844507&set=a.410133041141286&type=3&mibextid=Nif5oz

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น