วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2566

สะบายดี..หลวงพระบาง (๔)

 


พระธาตุพูสี มองจากย่านกลางเมืองเก่า


พระธาตุพูสี พระราชวัง(พิพิธภัณฑ์ฯ) หอพระบาง


   ...วันนี้เรามีสองแห่งที่จะเดินไปชม คือ พระธาตุพูสี  พระราชวัง(พิพิธภัณฑ์ฯ) หอพระบาง อยู่ถัดจากย่านบ้านเจ็ก ถนนหลักกลางเมืองเก่าเส้นเดิม..เมื่อวานเย็นเข้าไปชมตลาดมืด(ตลาดกลางคืน) นิดนึง ไม่ได้เดินไปถึงแหล่งร้านอาหารเพราะช่วงบ่ายๆเดินไปดูมาแล้ว..ปกติก็ไม่ค่อยได้ทานอาหารหนักๆมื้อเย็นเลยเดินชมแค่บริเวณถนนหน้าพระราชวัง...เมื่อวานช่วงหัวค่ำครับ...








**********
      ...ย่านเมืองเก่าหลวงพระบาง มรดกโลก ค่อนข้างเงียบสงบ สบายๆ ไม่ค่อยมีเสียงรถยนต์ คาดว่าคงห้ามรถบรรทุก หรือรถขนาดใหญ่เข้ามาวิ่งภายในย่านนี้ สายไฟฟ้าลงดินหมด ถ้าเที่ยวภายในเมืองเก่าพื้นที่มรดกโลก ไม่จำเป็นต้องใช้รถเลยพื้นที่ราวๆ ๓ ตารางกิโลเมตร เดินได้สะดวกสบาย ...เราออกจากที่พักแถวๆ วัดแสนฯ เดินตามถนนหลักเส้นกลางเมืองเช่นเคย..



สถานที่ที่สำคัญที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจะมีป้ายบอกไว้



ถนนหลักกลางเมืองเก่ามีบริการตู้เอทีเอ็ม 
บู๊ทแลกเปลี่ยนเงินตรา
โต๊ะนี้หวยลาว จะออกทุกวันพุธและวันศุกร์ เวลา ๑๙๐๐
น่าจะเป็นหวยออนไลน์นะครับ 



ห้องสมุดประชาชน










สถานีวิทยุกระจายเสียง 
เดินผ่านจะไปไหว้พระธาตุพูสี ได้ยินเสียงประชาสัมพันธ์ข่าว
ของเมืองหลวงพระบาง 


      พระธาตุพูสี ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงราว ๑๐๐ เมตร สร้างในปี พ.ศ.๒๓๔๗ สมัยพระเจ้าอนุรุทธราชมาบูรณะอีกครั้งในปี พ.ศ.๒๔๕๗ โดยหุ้มพระธาตุด้วยแผ่นทองเหลืองฉาบทองคำ องค์พระธาตุกว้างด้านละ ๑๐.๕๕ เมตร สูง ๒๑ เมตร
 

พระธาตุพูสีจะอยู่ตรงกันข้ามกับพระราชวัง


พระราชวังหลวง มองจากทางขึ้นพระธาตุพูสี


มีทางขึ้นสองทาง
ทางขึ้นทางด้านทิศตะวันตก ตรงข้ามพระราชวัง
ระยะทาง ๒๗๘ เมตร(บันได ๓๒๘ ขั้น)
ทางขึ้นด้านทิศเหนือขึ้นทางวัดศรีพระพุทธบาท 
ระยะทาง ๒๙๒ เมตรและ ๓๐๘ เมตร ด้านแม่น้ำคาน


ทางขึ้นทางทิศตะวันตกจะมีวัดป่าฮวก 
วัดนี้มีประวัติเกี่ยวข้องกับไทยน่าสนใจมาก
ที่บริเวณหน้าพระประธานในโบสถ์ จะมีข้อความว่า
"วัดป่าฮวกสร้างโดยรัชกาลที่ ๕ ไทย"
ปัจจุบันวัดป่าฮวกมีเพียงพระอุโบสถเท่านั้น









อาจารย์ท่านนี้เกษียณอายุแล้วเป็นจิตอาสาดูแล
และร่วมหาทุนบูรณะอุโบสถ ขณะนี้กำลังหาทุนเพื่อ
บูรณะภาพฝาผนังในโบสถ


ท่านเล่าว่า...
คนไทยทางภาคเหนือเป็นผู้อุปถัมภ์ทุกครั้งที่คนไทยกลุ่มนี้
มาหลวงพระบางจะมาไหว้พระที่โบสถแห่งนี้



จุดเช็คอินก่อนขึ้นไปไหว้พระธาตุพูสี
พอขี้นบันไดไปได้ ๑๒๘ ขั้น ก็จะถึงจุดจำหน่วยบัตร
คนละ ๒๐,๐๐๐ กีบ





เดินไป..พักไป..


ถึงแล้ว...บนยอดเขานี้จะมองเมืองหลวงพระบาง
ได้ ๓๖๐ํ ทิศตะวันตกคือแม่น้ำโขง
ทิศตะวันออกคือแม่น้ำคาน









มีทางลงอีกทางด้านทิศเหนือ ระยะทาง ๓๐๘ เมตร 
และ ๒๙๒ เมตร ด้านวัดศรีพระพุทธบาท




รอยพระพุทธบาทที่วัดศรีพระพุทธบาท 
(รอยพระพุทธบาทอีกแห่งหนึ่งอยู่ที่วัดพระพุทธบาทใต้ ริมแม่น้ำโขง)


วัดป่าแค วัดป่าฝาง วัดศรีพระพุทธบาท รวมอยู่ในบริเวณเดียวกัน

 
สิมวัดป่าฝาง






วัดป่าแค ได้รับอิทธิพลจากช่างไทย
ใบเสมาโดยทั่วไปจะไม่มีรอบสิมของวัดในหลวงพระบาง


หลังจากไหว้พระธาตุพูสีแล้ว เราจะเข้าชมพระราชวัง..

****************
......ลงจากพระธาตุพูสี เรายังเข้าชมพระราชวังไม่ได้เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเที่ยง พระราชวังจะเปิดให้ชมสองช่วงเวลาคือช่วงเช้ากับช่วงบ่าย..


บัตรเข้าชม คนละ ๓๐,๐๐๐ กีบ




        พระราชวังหลวง ปัจจุบันคือหอพิพิธภัณฑ์เมืองหลวงพระบาง พระราชวังหลวงแต่เดิมเคยเป็นที่พำนักของเจ้ามหาชีวิต ก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๗ ในสมัยพระเจ้าสักกะริน มาแล้วเสร็จใน พ.ศ.๒๔๕๒ ในสมัยพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘  ลาวมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง รัฐบาลลาวได้ใช้พระราชวังหลวงเป็นหอพิพิธภัณฑ์ เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๙


อนุสาวรีย์พระเจ้าศรีสว่างวงศ์ (ครองราชย์ พ.ศ.๒๔๔๘ - ๒๕๐๒)
พระมหากษัตริย์ผู้พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก พ.ศ.๒๔๙๐ให้แก่ประเทศลาว
(อนุสาวรีย์อยู่ทางซ้ายมือของประตูทางเข้า)


หอพระบาง
(อยู่ทางขวามือของประตูทางเข้า)


อาคารพระราชวัง
สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างตะวันออกกับตะวันตก
อาคารด้านล่างเป็นตึกฝรั่ง ด้านบนเป็นมณฑปตามแบบตะวันออก
คล้ายกับพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
จุดเด่นคือแนวต้นตาลขนาบซ้ายและขวา ตามประวัติเล่าว่าพระเจ้าศรีสว่างวงศ์
โปรดให้ปลูกขึ้นเพื่อให้สอดรับกับมุมมองจากท้องพระโรงไปยังพูสี
การเข้าชมจะต้องฝากกระเป๋าไว้ที่อาคารด้านหน้า
และห้ามถ่ายรูปภายในพระราชวัง


เมื่อเดินเข้าไปแล้วจะมีลูกศรบอกให้เดินไปตามห้องต่างๆ 
สำหรับท่านที่ไปเยือนหลวงพระบาทแล้วไม่ควรพลาดเข้าชมครับ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ

**************













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น