วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อริยสัจในปฏิจจสมุปบาท


...พระพุทธเจ้าได้ทรงปฏิบัติมาในมรรคมีองค์ ๘ นี้ ที่ตรัสเรียกว่า มัชฌิมาปฏิปทา ข้อปฏิบัติที่เป็นหนทางกลางสมบูรณ์ ทรงกำหนดรู้ทุกข์ได้แล้ว ทรงละสมุทัยได้หมดแล้ว ทรงทำให้แจ้งนิโรธได้แล้ว ทรงปฏิบัติในมรรคมีองค์ ๘ ได้สมบูรณ์แล้ว จักษุ คือดวงตา ญาณ คือความหยั่งรู้ ปัญญา คือความรู้รอบ วิชชา คือความรู้จริง อาโลกคือความสว่างผุดขึ้นในอริยสัจจ์ทั้ง ๔ กิเลสและกองทุกข์ดับไปหมดสิ้น จึงทรงเป็นพุทโธคือเป็นผู้ตรัสรู้แล้ว  และความตรัสรู้ของพระองค์ในอริยสัจจ์ทั้ง ๔ นี้ เมื่อแสดงโดยพิสดารตามที่ตรัสไว้ก็คือ ปฏิจจสมุปบาทธรรมะที่อาศัยกันบังเกิดขึ้น ซึ่งมีอวิชชาอาสวะเป็นต้น มาจนถึง ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ เป็นต้น ซึ่งเป็นปัจจัยกันโดยลำดับ นี้เป็นฝ่ายสมุทัยวาร คือเป็นฝ่ายเกิด หรือเป็นฝ่ายก่อทุกข์ พระพุทธเจ้าเมื่อได้ตรัสรู้แล้ว ก็ได้ทรงพิจารณาอริยสัจจ์ทางปฏิจจสมุปบาทนี้ แล้วก็ได้ทรงเปล่งอุทานขึ้น ซึ่งแปลความว่า เมื่อใดธรรมทั้งหลายปรากฏแก่พราหมณ์ ผู้มีเพียรเพ่งอยู่ เมื่อนั้นความสงสัยของพราหมณ์นั้นย่อมสิ้นไป เพราะมารู้ธรรมะว่าเกิดจากเหตุ หรือรู้ธรรมะพร้อมทั้งเหตุ หรือรู้ธรรมะว่ามีเหตุที่เป็นปัจจัยสืบต่อกันไป จึงทำให้เกิดทุกข์...(สมเด็จพระญาณสังวร)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น