น้ำมัน CBD คืออะไร ?
                                               แคนนาบิไดอัล

หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักน้ำกันกัญชาว่ามันคืออะไร ทำอะไรได้ และช่วยชีวิตคนเราได้ยังไงบ้าง ซึ่งนี่คือหนึ่งในนวัตกรรมที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกไปอย่างสิ้นเชิง และไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ตอนนี้เราจะมองว่าน้ำมัน CBD (cannabidiol) หรือน้ำมันกัญชานั้นเป็นสารประกอบที่น่าเชื่อถือและน่าสนใจมากๆ ในด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์ เนื่องจากในปีที่ผ่านๆ มานี้ น้ำมัน CBD ก็ได้ทำชื่อเสียงออกมาในทางบวกอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่น่าสนใจของคนทั้งโลกอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น ก็ยังคงมีการเข้าใจผิดและสับสนเกี่ยวกับตัวน้ำมัน CBD อยู่บ้างเหมือนกันครับ เนื่องจากมีการนำข่าวสารข้อมูลของสารประกอบตัวนี้ปล่อยออกมาอยู่เรื่อยๆ ไม่หยุดไม่หย่อน ทั้งเรื่องจริงบ้าง และไม่ใช่เรื่องจริงบ้าง ส่งผลให้เกิดความสับสนกับผู้คนที่ทำการศึกษาว่า สรุปแล้วเจ้าน้ำมันกัญชาตัวนี้ คือสิ่งที่ควรจะยุ่งเกี่ยวกับมันจริงๆ รึเปล่า ดังนั้นทางที่ดีเราไปดูกันแบบเจาะลึกดีกว่าว่าสาร CBD สามารถทำอะไรได้บ้าง

CBD ย่อมาจากอะไร ? (WHAT DOES CBD STAND FOR?)
น้ำมัน CBD หรือ “cannabidiol” เป็นโมเลกุลตระกูล cannabinoid ที่เป็นสารสกัดจากพืชตระกูลกัญชา และเป็นที่รู้ๆ กันดีอยู่แล้วว่ากัญชามีสาร THC เป็นส่วนประกอบอยู่เยอะมาก ซึ่งสารตัวนี้จะมีความสามารถในการทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย หรือ “high” ได้ (แต่ CBD ไม่มีผลข้างเคียงแบบนี้นะ) ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าร่างกายของเรานั้นมีระบบ “endocannabinoid” ซึ่งเป็นระบบโมเลกุลสำคัญที่ร่างกายของเราผลิตมา เพื่อใช้ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ โดยวิธีการก็คือ สาร CBD จะทำปฏิกิริยาผูกเข้ากับตัวรับความรู้สึกในระบบร่างกายของเราโดยอัตโนมัติ เพราะร่างกายของเราถูกออกแบบมาให้เชื่อมต่อกับตัว cannabinoid ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งสรุปได้ว่า จริงๆ แล้ว ตัวเราเองนี่แหละครับที่เป็นคนผลิตสารนี้ออกมาโดยธรรมชาติ เพราะฉะนั้นในเรื่องของความปลอดภัยนี้ไม่ต้องห่วงเลย มันปลอดภัยแน่นอน 100%

เกร็ดข้อมูลน้ำมัน CBD (CANNABIDIOL (CBDFACTS)
-CBD ไม่ทำให้เรารู้สึก “high
-เป็นสารสกัดจากกัญชา
-มีประสิทธิภาพเป็นยารักษาอาการกังวลหรือบรรเทาอาการปวด
-ไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กับสาร CB1 และ CB2 โดยตรง
-น้ำมัน CBD ซื้อและครอบครองได้ไม่ผิดกฎหมาย

น้ำมัน CBD ทำงานยังไง? (HOW DOES CBD WORK?)
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจเกิดคำถาม สงสัยขึ้นมาว่า แล้วเจ้าตัวน้ำมัน CBD นี้มันทำงานยังไงกันแน่นะ ซึ่งอย่างที่บอกไปแล้วนั่นเองครับว่า ร่างกายของคนเรามีระบบ endocannabinoid อยู่ ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อการทำงานในส่วนต่างๆ ในร่างกายเรา และในระบบนั้นเองก็จะมี “ตัวรับความรู้สึก” อยู่เป็นจำนวนมากที่รอสาร cannabinoid มาทำปฏิกิริยา

เมื่อ cannabinoid เข้ามาใกล้ปุ๊บ ตัวรับจะผูกตัวเองเข้ากับ cannabinoid ทันที โดยการทำปฏิกิริยาเคมีซึ่งจุดนี้เองที่วงการวิทยาศาสตร์อาจจะยังไม่เข้าใจมากนัก เมื่อทำปฏิกิริยาเรียบร้อยแล้ว CBD จะไม่ส่งผลถึงอาการ high หรือล่องลอยเหมือนที่ THC ทำ ไม่มึนเมานั่นเอง แต่ถึงแม้ว่า CBD จะไม่ได้ส่งผลกระทบกับร่างกายเราเช่นนั้น แต่มันก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีสารเคมีอะไรแทรกซ้อนอยู่ในตัวมันเลยนะครับ เพราะเราจะเห็นได้ชัดมากว่ามันมีผลกระทบทางเคมีอยู่พอสมควรเช่นกัน

สรุปได้ว่าระบบ endocannabinoid นั้นจะพบเจอได้ในทุกส่วนของร่างกาย มันสามารถส่งผลต่อแทบจะทุกกระบวนการทำงานเลยก็ว่าได้ (โดยเฉพาะการรักษาภาวะในร่างกายให้คงที่ยิ่งแล้วใหญ่) เพราะแบบนี้แหละเราจึงมองออกได้ยากว่า เจ้าตัว CBD นี้กำลังทำกระบวนการอะไรเมื่อมันกำลังทำปฏิกิริยาผูกติดอยู่ ซึ่งก็ยังคงเป็นเรื่องที่วงการวิทยาศาสตร์กำลังทำการหาคำตอบอยู่นั่นเองครับ

                                                 




ถึงแม้ว่าทั้งสองสารจะมาจากต้นกำเนิดพืชชนิดเดียวกัน (กัญชา) แต่ความแตกต่างของ CBD และ THC ก็มีอยู่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลกระทบที่ส่งออกมาหรือเรื่องของการทำปฏิกิริยากับร่างกายของเรา ทำให้มาจนถึงตอนนี้ น้ำมัน CBD อาจจะยังไม่เป็นที่ยอมรับมากนักในวงการแพทย์ หรืออีกนัยนึงก็คือ พูดง่ายๆ ว่าสาเหตุที่ทำให้ตัวมันเองไม่เป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ก็มาจากการที่สาร CBD อาจมีสารเคมีชนิดเดียวกับ THC ปนอยู่ด้วยนั่นเอง (สารที่ทำให้มีอาการเมาหรือ “high”)

ข่าวสารเกี่ยวกับข้อดีของน้ำมัน CBD (NEWS ABOUT CBD POTENTIAL BENEFITS)
ต้องบอกเลยว่าแนวโน้มในเรื่องของน้ำมันกัญชาเนี่ยเป็นอะไรที่มาแรงมากๆ เพราะทุกวันนี้น้ำมันกัญชาถูกพูดถึงในข่าวแทบจะทุกอาทิตย์เลยล่ะครับ มีคนให้ความสนใจเยอะมาก โดยเฉพาะพวกสื่อต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นการบอกให้ผู้คนเห็นถึงข้อดีที่น้ำมันกัญชาสามารถช่วยรักษาโรคต่างๆ ได้มากมาย ซึ่งนี่ก็เป็นเพียงเสี้ยวประโยชน์ของมันเท่านั้นเอง

อีก 2 ด้านหลักๆ ที่เจ้าน้ำมันกัญชาสามารถช่วยได้ก็คือ มันจะช่วยลดอาการปวด อาการเครียด และความกังวลได้แบบมีประสิทธิภาพมากที่สุดเลยทีเดียว ซึ่งหน้าที่หลักตรงนี้เองที่ทุกคนควรจะรู้ไว้ เพราะน้ำมันกัญชานั้นยังเปรียบเสมือนยาสามัญประจำบ้านที่หยิบยกเอามาใช้ได้ตลอดเวลาที่ต้องการ บรรเทาอาการที่หลากหลายได้อย่างแท้จริง

ซึ่งตัวอย่างข่าวสารที่พูดถึง CBD นั้นมีอะไรบ้าง? ยกตัวอย่างเช่น ข่าวของไกด์ปีนเขาอายุ 70 ปี ในนิตยสารปีนเขา ที่มีอาการดีขึ้นจากโรคข้ออักเสบเมื่อใช้สาร CBD หรือข่าวสารรายงานผลการศึกษาจาก Neuropsychopharmacology ที่เผยให้เห็นถึงกลุ่มคนที่มีอาการวิตกกังวลลดลง เมื่อต้องพูดในที่สาธารณะ หลังจากได้รับสาร CBD เข้าไปในร่างกาย มากไปกว่านั้นคือเรื่องของ World Health Organinzation (WHO) ที่ยังได้แสดงผลรายงานเมื่อปี 2017 เกี่ยวกับสุขภาพของผู้คนที่ดีขึ้นได้ด้วยสาร CBD ให้เราได้เห็นอีกด้วย แค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะครับที่จะบอกว่า น้ำมันกัญชานั้นมีส่วนช่วยในการรักษา รวมถึงช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันของเราทุกคนราบรื่นขึ้น

น้ำมันกัญชาใช้เพื่ออะไร ? (WHAT IS CBD OIL USED FOR?)
ก่อนที่เราจะพูดถึงประโยชน์ของน้ำมันกัญชา มาไขข้อกระจ่างกันก่อนดีกว่าว่าจริงๆ แล้วมันคือน้ำมันอะไรกันแน่ ? น้ำมัน CBD (น้ำมันกัญชา) เป็นน้ำมันสกัดจากธรรมชาติที่ได้มาจากกัญชง พืชที่มีถิ่นกำเนิดเดียวกับสายพันธุ์กัญชาแต่ไม่ส่งผลกระทบอะไรทางจิตประสาท แต่ถึงอย่างนั้นน้ำมัน CBD ก็สามารถสกัดออกมาจากสายพันธุ์พืชที่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาทได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งด้วยเหตุนี้แหละครับที่อาจจะทำให้มันมีสาร THC เจือปนอยู่ด้วย และนั่นก็คงไม่ดีต่อผู้ใช้น้ำมัน CBD สักเท่าไหร่

ระบบ endocannabinoid ของมนุษย์เราจะทำปฏิกิริยาโดยตรงกับสาร CBD ซึ่งมีความสามารถในการส่งผลต่อระบบการทำงานที่หลากหลายในร่างกาย เพราะฉะนั้นแล้วน้ำมัน CBD จึงเป็นเหมือนตัวช่วยของผู้คนทั่วโลกในการต่อสู้กับโรคร้ายและอาการผิดปกติต่างๆ ให้ดีขึ้นได้

จริงๆ แล้วมีการศึกษาและทำวิจัยเกี่ยวกับการทำงานของ CBD เกิดขึ้นทุกวันเลยล่ะครับ และถึงแม้เราจะยังไม่รู้แน่ชัดว่าการทำงานของมันเป็นยังไง แต่เชื่อได้เลยว่ามันกำลังส่งผลอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องแน่นอน เพราะภาคเศรษฐกิจการเงินเองก็กำลังมีการคาดเดาว่า น้ำมันกัญชาจะเป็นที่นิยมมากขึ้นในอนาคต และเกิดความต้องการที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ดูได้จากข่าวล่าสุดของ Forbes ที่ประมาณมูลค่าตลาดของน้ำมัน CBD ว่าจะเติบโตถึง 700% ในปี 2020 เลยทีเดียว

คำถาม
CBD ถูกกฎหมายหรือไม่?
เป็นอีกหนึ่งคำถามที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะครับ กับคำถามที่ว่า CBD นั้นเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายหรือไม่ คำตอบคือ ถูกกฎหมายแน่นอนครับ เพราะถึงแม้ว่าจะถูกสกัดออกมาจากกัญชาแต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบในเชิงจิตประสาทเหมือนที่ THC ทำ และถึงแม้ว่ามันอาจจะมีร่องรอยของสาร THC อยู่บ้างในผลิตภัณฑ์ CBD แต่มันก็มีเปอร์เซ็นต์น้อยมากที่จะส่งผลกระทบในด้านลบออกมา เพราะฉะนั้นผลิตภัณฑ์ CBD จึงถูกกฎหมายที่จะซื้อและครอบครองทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาแบบสบายๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนจับเลย เราสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ CBD ได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งสิ้น (และที่ Siam-CBD ก็ได้ชี้แจงและอธิบายให้เราได้รู้ว่ามีอะไรเป็นส่วนประกอบในแต่ละผลิตภัณฑ์อีกด้วย)

ผลข้างเคียงของ CBD มีอะไรบ้าง?
เรื่องนี้เองก็นับเป็นประเด็นหลักที่ต้องมีการศึกษาวิจัยกันอย่างจริงจัง และจากผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ สาร CBD นั้นมีความปลอดภัยอย่างมากที่จะถูกส่งผ่านเข้าไปในร่างกายของเรา ข้อมูลทางคลินิกการแพทย์ถูกเผยแพร่ออกมาโดย Current Pharmaceutical Design ทำให้เห็นว่า CBD มีความปลอดภัยสูงมากถึงแม้ว่าจะได้รับเข้าไปในปริมาณที่มากก็ตาม

ซึ่งผู้ใช้บางคนก็ได้พูดถึงผลข้างเคียงที่แตกต่างออกไป เพราะ CBD จะส่งผลกระทบกับแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทางที่ดีเราควรจะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนเสมอ เพราะถึงแม้ว่าจะเพิ่งเริ่มต้นใช้สาร CBD เราก็ควรที่จะใช้ในปริมาณน้อยๆ ดูก่อนเพื่อให้เราเข้าใจว่า CBD จะส่งผลกระทบกับร่างกายเราอย่างไรบ้าง เหมือนกับการรับยาหรือสารต่างๆ เข้าสู่ร่างกายปกติเลยครับ

ส่วนใหญ่แล้วผลกระทบที่ไม่ดีมักจะเกิดจากผู้ใช้ที่เสพสาร CBD ไปเป็นจำนวนมากเกินจำเป็น ซึ่งก็จะทำให้เกิดสิ่งแปลกปลอม หรือภาวะผิดปกติต่างๆ ขึ้น เช่น อาการง่วงซึมหรือเวียนหัวมักจะเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนจะใช้ผลิตภัณฑ์ CBD ก็คือ เราควรจะต้องตรวจสอบให้ดีก่อนว่ามันมีผลกระทบกับยาอื่นๆ ที่เรากำลังใช้อยู่หรือเปล่า ทางที่ดีควรปรึกษาและสอบถามแพทย์ให้มั่นใจก่อนจะดีที่สุดครับว่าเราเหมาะสมกับการใช้ยาตัวนี้มั้ย หรือยาตัวไหนที่เรากำลังทานต่อเนื่องเป็นประจำและมันมีปฏิกิริยากับ CBD บ้าง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทุกคนนั่นเอง

CBD ทำให้เรามีอาการ “high” หรือเปล่า?
คำถามข้อนี้ก็มีข้อมูลที่เราได้ตอบกันไปแล้วเบื้องต้น ซึ่งคำตอบคือ ไม่ เพราะสาร CBD จะไม่ส่งผลให้เรามีอาการมึนเมาเหมือนกับสารเคมีอื่นๆ ที่พบในกัญชาอย่าง THC แต่ยังไงก็ตามถึงแม้ว่ามันจะไม่ก่อให้เกิดอาการมึนเมาหรือล่องลอย แต่ก็ไม่ได้แปลว่า CBD จะไม่แสดงผลกระทบในด้านอื่นๆ นะครับ ผลการรายงานส่วนใหญ่ชี้ว่า CBD จะช่วยส่งผลให้อาการกังวลนั้นลดลงหรือทำให้คนเราสงบนิ่งและโฟกัสมากขึ้นเสียมากกว่า อย่างไรก็ตามมันไม่ได้มีสารพิษมาเกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นสบายใจได้ ใช้งานได้แบบไม่ต้องกลัวอันตราย หรือผลกระทบต่อร่างกายเลย ซึ่งทาง The World Health Organization การันตีว่าไม่มีการก่อให้เกิดผลในด้านลบจากการใช้สาร CBD แน่นอน

CBD ส่งผลให้เรารู้สึกยังไง?
เรื่องของผลข้างเคียงนั้นเราอาจจะไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าแต่ละคนจะรู้สึกยังไงหลังจากได้รับ CBD เข้าไป เพราะสาร CBD ส่งผลต่อแต่ละคนในทางที่ต่างกันไป ไม่ต้องกังวลว่าจะรู้สึกมึนเมาหรือล่องลอยเหมือนที่สาร THC ทำ เพราะ CBD มันไม่ได้ทำงานแบบนั้น การทำงานของ THC จะผูกติดกับตัวรับ CB1 และ CB2 โดยตรง ในทางกลับกัน CBD จะไม่ได้ทำปฏิกิริยาผูกติดกับตัวรับ cannabinoid โดยตรง ทำให้เราไม่ได้รับผลกระทบข้างเคียงอะไรจากการรับสาร CBD เข้าไปในร่างกายเลย

ส่วนมากผู้ใช้หลายๆ คนก็บอกเหมือนกันนะครับว่า พวกเขามักจะรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อได้รับสาร CBD เข้าไปในร่างกาย นอกจากนั้นยังรู้สึกว่าหลับสบายมากขึ้นและมีอารมณ์หงุดหงิดน้อยลงด้วย แถมยังคอนเฟิร์มอีกว่า CBD มีส่วนช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดและอักเสบต่างๆ ได้ดีอีกต่างหาก ซึ่งเรื่องผลกระทบนี้ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวบุคคลแต่ละคนแตกต่างกันออกไป แต่มั่นใจได้เลยว่าผลลัพธ์ของมันนั้นมีแต่ข้อดีให้เราได้สัมผัสแน่นอน

โครงสร้างโมเลกุล CBD มีลักษณะแบบไหน?
สูตรโครงสร้างโมเลกุลของ CBD คือ C21H30O2 มีน้ำหนัก 314.469 กรัม/โมเลกุล CBD เป็น cannabinoid ที่พบในพืช (โดยเฉพาะพืชตระกูลกัญชา) มีความสามารถในการบรรเทาอาการปวด ต่อต้านอาการอักเสบ รวมไปถึงมีสารต้านมะเร็งและยับยั้งการเกิดมะเร็งเป็นส่วนประกอบ (อ้างอิง PubChem, National Institute of Health)

จากที่บอกไปข้างต้น เรายังไม่เห็นภาพโมเลกุลของ CBD แน่ชัดนัก เพราะเมื่อ THC ผูกติดโดยตรงกับตัวรับ CB1 และ CB2 แต่ CBD อาจจะไม่ได้ทำเช่นเดียวกัน เรารู้แค่ว่ามันจะไปกระตุ้นร่างแหเอนโดพลาซึมและยับยั้งสัญญาณการทำงานของ AKT/mTOR ซึ่งแปลว่า CBD น่าจะมีส่วนช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ที่ตายไปแล้วให้กลับมาใช้ใหม่ได้ กระบวนการนี้เรียกว่า “autophagy และ apoptosis”

 CBD ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง?

+ บรรเทาอาการปวดและอักเสบ
ผลการวิจัยที่เข้าข่ายที่สุดของ CBD ตอนนี้คือ มันมีความสามารถในการลดอาการเจ็บปวด เหมือนกับว่าสาร CBD ได้เข้าไปทำลายตัวรับความเจ็บปวดโดยกระตุ้นให้ปล่อยสาร dopamine และ serotonin ออกมาแทน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหลักฐานชี้ว่าหลักการนี้ของ CBD สามารถใช้ได้กับผู้ป่วยที่มีข้อจำกัดในการรับยาต่างๆ อีกด้วย ทำให้ในอนาคตไม่แน่ว่า CBD อาจเป็นยาทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยทุกคนด้วยก็ได้

+ บรรเทาความวิตกกังวล
หนึ่งในเหตุผลที่คนนิยมซื้อสินค้าจาก Siam-CBD.com (อ้างอิงจากรายงานข้อมูลผู้ใช้) ก็เพราะว่า CBD มีทีท่าว่าจะส่งผลได้ดีกว่า THC ในหลายๆ ด้าน เช่นเรื่องบรรเทาอาการต่างๆ อย่างอาการหวาดระแวง อาการเครียด หรือความกังวล ผลการศึกษาหลายๆ แห่งได้เผยถึงผลลัพธ์ที่ CBD ช่วยลดอาการเครียดได้จริงๆ โดยการวัดจากวิธีการพูดต่อหน้าสาธารณชนที่ดีขึ้นหลังจากได้ทดลองยา

ยับยั้งอาการคลื่นไส้
เมื่อทำปฏิกิริยาผูกติดกับสารอะโกนิสต์ 5-HT(1A) สาร CBD แสดงให้เราเห็นถึงความสามารถในการเจือจางและบรรเทาอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน (อ้างอิงจากผลการศึกษาในปี 2012) สาร CBD สามารถกระตุ้นตัวรับเซลล์ประสาทในราฟีนิวคลีไอ (raphe nucleus) เซลล์ที่มีประสิทธิภาพในช่วยลดผลข้างเคียงจากอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนนั่นเอง ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับคนที่ต้องเผชิญกับอาการเหล่านี้มาโดยตลอด

+ ต่อต้านอาการทางจิต
นอกจากนี้ CBD ถูกการันตีจากหลายๆ แหล่งว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาอาการทางจิตได้ในอนาคต ส่วนประกอบของมันแสดงให้เห็นถึงสารที่ช่วยให้ความสงบนิ่งและสารต่อต้านโรคทางจิตเวชได้ทั้งในมนุษย์และสัตว์เลย

+ บำรุงผิว
ถ้าให้พูดถึงเรื่องการรักษาผิวหนังหรือสิวบนใบหน้า บอกได้เลยว่าน้ำมัน CBD กำลังมาแรงมากในตอนนี้ เพราะความสามารถในการรักษาอาการอักเสบของ CBD สามารถส่งผลกระทบในการฟื้นฟูผิวและช่วยฟื้นสภาพผิวให้ดีขึ้นได้นั่นเอง เรียกได้ว่าตัวเดียวครบจบทุกความต้องการ ครอบจักวาลจริงๆ

+ รักษาอาการนอนไม่หลับ
CBD อาจส่งผลกระทบทางการกล่อมประสาทอยู่พอสมควร ถ้าใครที่เคยเผชิญปัญหากับอาการนอนไม่ค่อยหลับหรือพบเจอกับเหล่าอากาารที่ยับยั้งการนอน ทุกคนน่าจะรู้กันอยู่แล้วว่าการผ่อนคลายนี่แหละที่จะช่วยให้เรานอนหลับได้ง่ายขึ้น ซึ่ง CBD ก็มีสรรพคุณในการช่วยให้เรารีแลกซ์มากขึ้นได้แบบเห็นผลทันที คล้ายกับการใช้กัญชา แต่ต่างกันตรงที่ CBD ไม่มีโทษหรือผลเสียตามมา และเป็นการใช้อย่างถูกต้อง ถูกกฎหมายด้วยนั่นเอง


.........................

Cr.https://www.medibis.shop/post/cbd-vs-cannabis-oil



...........................

https://www.billionmindset.com/how-thc-cbd-difference/


................................