วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

เรียกสติ

 


   อาจารย์เฒ่าเล่าว่า...ขึ้นชื่อว่าคนแล้ว มีแต่เรื่องยุ่ง ที่ยุ่งเพราะมันมี "ปัญหา" ที่มีปัญหาเพราะมันมี"ตัณหา" คนศึกษาธรรมะมักไม่ค่อยมีปัญหา แต่บ่อยครั้งต้องคอยแก้ปัญหาให้ผู้อื่น จึงต้องมี"สัมมาทิฐิ" ความเห็นชอบเป็นตัวนำ คือ "หาสาเหตุให้พบก่อน" แล้วจึงค่อยแก้ ไม่เช่นนั้นบางทียิ่งแก้มันยิ่งยุ่งไปกันใหญ่ เลยต้องพึ่งพาผีสางเทวดา เจ้าพ่อเจ้าแม่ ทำพิธีแก้กันวุ่นวายเสียเงินเสียทองโดยใช่เหตุ ถูกหลอกลวงก็เยอะแยะ...แย่(ซวย)ซ้ำสอง
    คนมีปัญหากลุ้มใจคิดไม่ตกจะกินยาตาย จะผูกคอตาย เป็นเพราะ"ขาดสติ" อารมณ์จึงครอบงำจิตให้คิดผิด ต้องแก้ด้วย"พุทธวิธี" เป็นอันดับแรกก็คือการ"เรียกสติ" กลับคืนมาก่อน เมื่อเริ่มมีสติมันจึงจะคุยกันรู้เรื่องหาสาเหตุได้ถูก จึงจะแก้ได้ตก
     "พุทธวิธี" สำหรับพระในนิกายเซ็นหรือเต๋ามัก"เรียกสติ" ลูกศิษย์ที่นั่นเหม่อตามอารมณ์ด้วยการตบหลัง ตบขาแรงๆ ให้สดุ้งตื่นจากอารมณ์..สติโผล่!!! คนอกหักบ่นเพ้อร่ำไรในความรักที่มีต่อคนรักมากมาย อาจเรียกสติด้วยการถามย้อนถาม เช่น...เธอรักและทำดีต่อเขามากใช่ไหม? (...ใช่...) เธอคบเขามา ๕ - ๖ ปี ใช่ไหม? (...ใช่...) แล้วเธอคบพ่อแม่ของเธอมายี่สิบกว่าปีแล้ว...เคยรักและทำความดีให้ท่านบ้างหรือยัง?  (...งง...) สติเริ่มโผล่...ก็เปลี่ยนเรื่อง...ชวนคุยเรื่องพ่อแม่ของเธอซะเลย...อย่างคนจะกินยาตาย ถ้าเราพอมองหรือเดาออก เราก็แกล้งชวนคุยถกปัญหาว่า จะฆ่าตัวตายวิธีไหนดี...วิธีนี้ทรมานยังไง...ตายแล้ววิญญาณจะไปเจออะไรต่อ...เจอผี...พญายมหรือยมฑูต? ก็ว่าไปเรื่อยๆ...เดี๋ยวเขาเริ่มมองว่าเราบ้า...นี่เขาเริ่มสติแล้ว !  บางคนคิดมาก...บ่นว่าคิดไม่ตก..ๆ...ๆ...เราอาจแหย่เล่นว่า..."ผม(กู)ว่า..คุณ(มึง) คิดจนตกเหวไปแล้วละ(ว่ะ)..!"  แล้วเขาอาจจะยัอนด่ากลับมาว่า "กวน"...ก็ลองๆ ดู  ช่วยคนบางทีก็ต้องยอมถูกด่าหน่อยถือว่าสร้างบารมี...สนุกดี...พอมีสติมาแล้วก็คุยหาสาเหตุและทางแก้ไขกันต่อไปนะ...สนุกดี...โชคดี..ๆ..

****************
Cr. จากหนังสือคู่มือการดับทุกข์ อนุสรณ์งานฌาปนกิจ คุณแม่ประเสริฐ พันธ์สอาด วันอาทิตย์ที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น