วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

..เทศนาสามกาล..(๒)


...ฯลฯ...
ข.มัชฌิมโพธิกาล  ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ในชุมชนพระอรหันต์ ๑,๒๕๐ องค์ ณ พระราชอุทยานเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน กรุงราชคฤห์ ใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า อธิจิตฺเต จ อาโยโค เอตํ พุทฺธาน สาสนํ พึงเป็นผู้ทำจิตให้ยิ่ง การที่จะเป็นผู้ทำจิตให้ยิ่งได้ต้องเป็นผู้สงบระงับ อิจฺฉา โลภ สมาปนฺโน สมโณ กึ ภวิสฺสติ เมื่อประกอบด้วยความอยากดิ้นรนโลภหลงอยู่แล้วจักเป็นผู้สงบระงับได้อย่างไร
     ต้องเป็นผู้ปฏิบัติ คือ ปฏิบัติพระวินัยเป็นเบื้องต้น และเจริญกรรมฐาน ตั้งต้นแต่การเดินจงกรม นั่งสมาธิ ทำให้มาก เจริญให้มาก
     ในการพิจารณามหาสติปัฏฐาน มีกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เป็นเบื้องแรก พึงพิจารณาส่วนแห่งร่างกาย โดยอาการแห่งบริกรรมสวนะ คือพิจารณาโดยอาการคาดคะเน ว่าส่วนนั้นเป็นอย่างนั้นด้วยการมีสติสัมปชัญญะไปเสียก่อน เพราะเมื่อพิจารณาเช่นนี้ ใจไม่ห่างจากกายทำให้รวมง่าย
     เมื่อทำให้มากในบริกรรมสวนะแล้ว จักเกิดขึ้นซึ่งอุคคหนิมิตให้ชำนาญ ในที่นั้นจนเป็นปฏิภาค ชำนาญในปฏิภาคโดยยิ่งแล้วจักเป็นวิปัสสนา
     เจริญวิปัสสนาจนเป็นวิปัสสนาอย่างอุกฤษฏ์ ทำจิตเข้าถึง ฐีติภูตํ ดังกล่าวแล้วในอุบายแห่งวิปัสสนาชื่อว่า ปฏิบัติ เมื่อปฏิบัติแล้ว โมกฺขํ จึงจะข้ามพ้น จึงพ้นจากโลกชื่อว่าโลกุตตระธรรม เขมํ จึงเกษมจากโยคะ(เครื่องร้อย)
    ฉะนั้น เนื้อความในมัชฌิมเทศนาจึงสำคัญเพราะเล็งถึงวิมุตติธรรม ด้วยประการฉะนี้แล ฯ
ค.ปัจฉิมโพธิกาล....  (ยังมีต่อ)
*****
(จากหนังสือ มุตโตทัย จัดพิมพ์ครั้งที่ ๔ เพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทาน เนื่องในงานอุปสมบทของคุณ วิทิต วรรณวิทยาภา )

..เทศนาสามกาล..(๑)  (คลิก)
...เทศนาสามกาล..(๓)  (คลิก)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น