วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2557

วิมุตตายตนสูตร





                                                  ******

"...การไหว้พระทำวัตรเจริญพระพุทธมนต์นี้ก็เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ได้บรรลุสมาธิ สมาบัติ มรรคผล พระนิพพานได้เหมือนกัน ดังท่านกล่าวไว้ใน วิมุตตายตนสูตร ซึ่งปรารภเหตุที่บุคคลจะได้บรรลุสามัญญผลนั้นไว้ ๕ ประการคือ
๑. บรรลุในขณะที่ฟังธรรม
๒. บรรลุในขณะที่แสดงธรรม
๓. บรรลุในขณะที่สาธยายธรรม
๔. บรรลุในขณะที่พิจารณาธรรม
๕. บรรลุด้วยอำนาจของสมาธิ
   ....เหตุทั้งห้าประการนี้เป็นปัจจัยให้ผู้ปฏิบัติธรรม  บรรลุอริยมรรค อริยผล นับตั้งแต่ขั้นพระโสดาบันขึ้นไป จนถึงพระอรหันต์ได้....."
                               ฯลฯ
       "....บรรลุในขณะที่ฟังธรรม หมายความว่า การฟังธรรม ถ้าว่าเราฟังเป็น ตั้งอกตั้งใจฟังจริงๆ และก็ส่งใจไปตามกระแสพระธรรมเทศนาที่ท่านแสดง ใคร่ครวญตริตรองพิจารณาเนื้อหาสาระของธรรมะที่ท่านแสดงนั้น ก็สามารถที่จะได้บรรลุสามัญญผลเหมือนกัน คือในขณะที่เราส่งจิต ส่งใจไปตามกระแสพระสัทธรรมเทศนา ไม่เผลอในขณะนั้น เป็นสมาธิติดต่อกันตั้งแต่ขั้นขณิกสมาธิและอุปจารสมาธิไปตามลำดับๆ ในขณะที่ใจของเราเป็นสมาธิ  จะเป็นอุปจารสมาธิหรือขณิกสมาธิ ก็ตาม ในขณะนั้นนิวรณ์ธรรมทั้ง ๕ ประการ เกิดขึ้นในจิตในใจของเราไม่ได้ จิตใจของเราก็บริสุทธิ์สะอาด เกิดความปราโมทย์ เกิดความร่าเริงบันเทิงใจ  เกิดปีติความเอิบอิ่มใจ  ความดีใจ  ความตื้นตันใจ เมื่อปีติเกิดแล้วก็เป็นเหตุให้ จิตของเราสงบ เมื่อจิตสงบแล้วก็เป็นเหตุให้เกิดความสุข เมื่อความสุขเกิดขึ้นมาแล้ว ก็เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้เกิดอุเบกขา ความวางเฉยในรูปนาม หลังจากนั้นสมาธิก็จะก่อตัวขึ้นตามลำดับๆ เป็นสมาธิที่หนักแน่นเรียกว่า สมาหิโต จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ ปริสุทโธ จิตจะบริสุทธิ์สะอาด  เมื่อจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ  บริสุทธิ์สะอาดแล้ว  ก็ปราศจากนิวรณ์ธรรมทั้ง ๕ ประการ เมื่อปราศจากนิวรณ์ธรรมทั้ง ๕ ประการแล้ว  จิตของเราก็บริสุทธิ์ เมื่อจิตของเราบริสุทธิ์แล้ว ก็จะเกิดปัญญา มีสติปัญญาว่องไวไหวพริบ ในการพิจารณาเนื้อหาสาระธรรมะที่ท่านแสดงเรียกว่า กัมมนิโย คือจิตคู่ควรแก่การงาน ว่องไวไหวพริบมีความฉลาดหลักแหลมดี ในการพิจารณาจนเห็นสังขารทั้งหลายทั้งปวงเป็นไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เมื่อนั้นก็จะเป็นเหตุให้เกิดนิพพิทา ความเบื่อหน่ายในรูปในนาม เมื่อเกิดความเบื่อหน่ายแล้ว ก็จะสิ้นกำหนัด เมื่อจิตไม่มีความกำหนัด ก็หลุดพ้น หมดจดสะอาด และผ่องใส แล้วก็ได้บรรลุมรรคผล พระนิพพาน อันนี้เรียกว่าบรรลุในขณะที่ฟังธรรม ..."
                                  ฯ ลฯ
                             (พระราชปริยัติยากร )



******
   วิปัสสนา (คลิก)

2 ความคิดเห็น: