วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

เก็บมาฝาก


 Never explain yourself 


to anyone. Because the person who likes you doesn't need it. And the person who dislikes you won't believe it. It's a waste of time and energy to justify your actions or feelings to those who don't truly understand or care. Focus your efforts on building relationships with people who appreciate you for who you are, without needing explanations. Remember, your worth isn't determined by the opinions of others. Trust your instincts and live authentically, without feeling the pressure to explain every decision or action. Your energy is valuable; don't squander it on those who don't deserve it.

******

Cr.https://www.facebook.com/share/p/MMTeypfG8TGhn1S6/?mibextid=oFDknk

******

อย่าอธิบายตัวเองให้ใคร


ฟังเลย เพราะคนที่ชอบคุณ ไม่ต้องการมัน และคนที่ ไม่ชอบคุณก็จะไม่เชื่อคุณ การอธิบายการกระทำหรือ ความรู้สึกของคุณให้คนที่ไม่ เข้าใจหรือไม่สนใจคุณจริงๆ เป็นการเสียเวลาและพลังงาน โดยเปล่าประโยชน์ จงมุ่ง ความพยายามของคุณไปที่ การสร้างความสัมพันธ์กับคน ที่ชื่นชมคุณในแบบที่คุณเป็น โดยไม่ต้องการคำอธิบาย จำ ไว้ว่าคุณค่าของคุณไม่ได้ถูก กำหนดโดยความคิดเห็นของ คนอื่น เชื่อสัญชาตญาณของ คุณและใช้ชีวิตอย่างเป็นตัว ของตัวเอง โดยไม่รู้สึกกดดัน ที่จะต้องอธิบายการตัดสิน ใจหรือการกระทำทุกอย่าง พลังงานของคุณมีค่า อย่าใช้มันไปกับคนที่ไม่สมควรได้รับ

****



รู้จักดี


 คิดเร็ว ระวัง อย่ารำคาญคนที่คิดช้า

พูดคล่อง ระวัง อย่าหงุดหงิดคนที่พูดตะกุกตะกัก

ทำอะไรเก่ง ระวัง อย่าดูหมิ่นคนที่ทำไม่เก่ง

ถือศีล ระวัง อย่าดูแคลนคนทุศีล

จิตสงบ ระวัง อย่าประมาทคนฟุ้งซ่าน

จะดีได้ ดีจริง ดีนานก็เพราะรู้จักดี

รู้จักป้องกันความดีของตน

ไม่ให้กิเลสเกิดเป็นเงาตามตัวของมัน


พระอาจารย์ชยสาโร

*****

Cr.https://www.facebook.com/share/VnxQbfA6d1S61Lg5/?mibextid=oFDknk

The spirit of volunteering

 

จิตวิญญาณของอาสาสมัครคือการมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน การแสดงออกถึงความเมตตา ความเอื้อเฟื้อ และความรับผิดชอบต่อสังคม การทำงานอาสาสมัครเกิดจากความรักในการทำดี ความปรารถนาที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น การมีจิตวิญญาณนี้ทำให้อาสาสมัครสามารถทนทานต่อความยากลำบากและความท้าทายได้ เพราะพวกเขามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในการสร้างผลกระทบที่ดีต่อสังคมและผู้คนรอบตัว

The spirit of volunteering

is the commitment to

help others without

expecting anything

in return, showing

kindness, generosity,

and social responsibility.

Volunteering comes

from the love of doing

good, the desire to

see changes for the

better. Having this

spirit makes volunteers

resilient to hardships

and challenges because

they have a great goal to

create a positive impact

on society and the

people around them.

*****

มูลนิธิทานบารมี(มทบ)(คลิก)

Volunteer (click)

วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

วันอาสาฬหบูชา


 วันอาสาฬหบูชาเป็นวันที่เราระลึกถึงคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงใน ‘ธัมมจักกัปปวัตนสูตร’ อันเป็นปฐมเทศนา และเป็นพระสูตรที่ ‘ยังธรรมจักรให้หมุนไป’


ในพระสูตรนี้ พระพุทธองค์ทรงแสดงอริยสัจสี่อันเป็นแก่นของธรรมะ แต่ไม่ได้ทรงสอนเป็นหลักปรัชญา หากเป็นสิ่งชักชวนให้น้อมนำมาปฏิบัติ   ทรงสอนว่า เราพึงพยายามกำหนดรู้ทุกข์ อันเป็นธรรมดาของสัตว์โลกทั้งหลาย  เราพึงพยายามละตัณหาซึ่งคอยหล่อเลี้ยงทุกข์  เราพึงพยายามเข้าถึงความหลุดพ้นที่จะบังเกิดขึ้น เมื่อทุกข์ดับ  เราพึงเจริญในอริยมรรคอันเป็นหนทางสู่การบรรลุเป้าหมายคือความพ้นทุกข์


ในพระสูตรนี้ พระพุทธองค์ทรงอธิบายด้วยว่าคำสอนของพระองค์เป็นทางสายกลาง ระหว่างการแสวงหาความสุขในกามและการทรมานตนให้ลำบากโดยผิดๆ  ตามคำสอนนี้ พระองค์มิได้ทรงหมายถึงว่า ทางสายกลางอยู่ระหว่างข้อปฏิบัติสุดโต่งทั้งสองข้างแบบเท่ากันเป๊ะ  แต่เป็นข้อปฏิบัติที่เข้าใกล้การบำเพ็ญเพียรมากกว่าการหลงใหลในกามสุข  


เราจะเข้าใจว่าตัณหาเชื่อมโยงกับทุกข์อย่างไร ก็ต่อเมื่อทวนกระแสของตัณหาเท่านั้น  การปฏิบัติเช่นนี้ย่อมต้องเจอความลำบากอยู่บ้าง แต่ก็คุ้มค่า  การบำเพ็ญเพียรบางอย่างที่รอบคอบ มีเหตุมีผล ประกอบด้วยปัญญา และมีเป้าหมายที่ชัดเจน ส่งผลให้เกิดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม


ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร

แปลถอดความ โดย ศิษย์ทีมสื่อดิจิทัลฯ

******

Cr.https://www.facebook.com/share/pcqg4sodiNW8zRa5/?mibextid=oFDknk

วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

Path to a happy life


 

วันอาสาฬหบูชา


 วันเพ็ญเดือนแปด คือ วันอาสาฬหบูชา เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนระลึกถึงโอกาสที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา ธัมมจักกัปปวัตนสูตร แก่ปัญจวัคคีย์ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน


ข้อสังเกตของธัมมจักกัปปวัตนสูตร คือ พระพุทธองค์ไม่ได้แสดงธรรมโดยใช้ภาษาสูง หรือพูดในระดับอภิปรัชญา พระพุทธองค์เริ่มต้นด้วยการชี้แจงความคิดผิดของผู้ฟัง คือ ปัญจวัคคีย์ยังเชื่อว่าการปฏิบัติที่ถูกต้อง คือการทรมานกายเพื่อทำลายความยึดติดในกาย และผู้ที่ไม่ปฏิบัติอย่างนี้มีทางเลือกเหลืออยู่ทางเดียว คือ หลงอยู่ในกาม


พระพุทธองค์จึงทรงเริ่มด้วยการยืนยันว่าปัญจวัคคีย์คิดแบบสุดโต่ง ที่จริงทางเลือกที่สามมีอยู่ และเป็นทางอันประเสริฐที่พระองค์ทรงตั้งชื่อว่า ทางสายกลาง พระพุทธองค์คงทรงทำให้ปัญจวัคคีย์สะดุ้งตั้งแต่ประโยคแรก เพราะพระพุทธองค์ทรงทราบดีว่าก่อนที่ใครจะรับความคิดใหม่ต้องวางของเก่าเสียก่อน เช่นเดียวกับการที่จะต้องซักผ้าก่อนที่จะย้อมสีได้


ข้อสังเกตข้อที่สอง คือ เนื้อหาในธัมมจักกัปปวัตนสูตรมุ่งที่แนวทางปฏิบัติ ไม่ใช่หลักความเชื่อในอริยสัจสี่ พระพุทธองค์จึงเน้นที่การปฏิบัติต่ออริยสัจแต่ละข้อ คือ ทุกข์เป็นสิ่งที่ต้องกำหนดรู้ สมุทัยเป็นสิ่งที่ต้องละ นิโรธเป็นสิ่งที่ต้องทำให้แจ้ง และมรรคเป็นสิ่งที่ต้องทำให้เกิดมี


ข้อที่สาม ความรู้ที่เกิดขึ้นในจิตใจของพระอัญญาโกณฑัญญะ ซึ่งทำให้ได้บรรลุเป็นพระโสดาบันเป็นการพิสูจน์ให้พระพุทธเจ้าทรงทราบแน่ได้ว่าทางไปสู่มรรค ผล นิพพาน ถ่ายทอดได้ (ถ้าใช้ภาษาชาวบ้าน  คือพระพุทธองค์ทรงได้กำลังใจในการเผยแผ่คำสอน)


ข้อที่สี่ พระอัญญาโกณฑัญญะสรุปความรู้ที่ได้ในการบรรลุธรรมว่า สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา ซึ่งเป็นการเตือนสติว่า การพ้นทุกข์ไม่ได้อยู่ที่ความคิดสลับซับซ้อน หากอยู่ที่การกำหนดรู้ความเป็นจริงของกายและใจ ด้วยจิตที่ไม่เศร้าหมอง


พระอาจารย์ชยสาโร

*****

Cr.https://www.facebook.com/share/19N2evVjhZWMxZCz/?mibextid=oFDknk


วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

Zjef volunteer from Belgium




    "Hello everybody, my name is Zjef Peeters, Im 19 years old and Im from the small Belgium.
I love life and I want to do as much as I can!
When I was 17 I finished college and then in Belgium (like everywhere) its really common to study further. So I tried it, but after a couple weeks I felt it was not made for me, I could not sit and listen to a teacher the whole day... So after one more month I quitted... Ofcourse my family found it pity, which I did understand, but I could not do it anymore, I was not happy there. So I took a gapyear... in the beginning it was not easy, I worked a bit and I learned languages on my own. Life was okay, but I still did not find something that made my hear beat faster. Then in the summer I started with a summerbar in the nature, where I created a lot of events. And this was really nice, a lot of people came and it became something big in my city. It was really nice to do it, I earned some money with it but unfortunately at some point the summer ended, so that means it was time to close the bar. After that I felt again bit in a down cause I tought, what now? Whats next? I was overthinking and didn't took action. But after a week I thought now I have enough, I took a plane to Portugal on my own, and try to start a new life. And to be honest that changed my life, from there I traveled a lot, met inspirational people an created unbelievable experiences, I learned that you need to go out of your comfort zone to experience the most beautiful things in life. If you ask me now what is your purpose I would say: TRAVEL and see as much different type of cultures, cause I learn so much from it. For me it is the world university."


 

เหตุปัจจัย


 ทางพุทธศาสนาสอนว่าอยากได้ผลต้องสร้างเหตุ บางศาสนาสอนว่าสร้างเหตุยังไม่พอ ยังจะต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์โปรดปรานจึงจะได้ผล บางศาสนาสอนว่าไม่ต้องสร้างเหตุก็ได้ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์โปรดปรานอย่างเดียวก็พอ


ทางพุทธเราบอกว่าไม่ต้องเถียงในระดับปรัชญาก็ได้ เอาของรอบตัวที่เป็นรูปธรรมเป็นเครื่องพิสูจน์ เช่น ต้องการน้ำร้อน พุทธศาสนาสอนว่าจุดไฟ ตั้งกา น้ำเย็นก็จะกลายเป็นน้ำร้อนโดยไม่ต้องอ้อนวอนใคร แต่ถ้าไม่ตั้งกาไว้เลย อ้อนวอนเท่าไรมันก็ไม่ร้อน


พระอาจารย์ชยสาโร

*****

Cr.https://www.facebook.com/share/Jn42dTMPqAAcwZZ5/?mibextid=oFDknk

วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

Sandra volunteer from Spain



    " Hey this is Sandra! I’m an innovative, hardworking, and responsible person who loves socializing with people. I easily get along with everyone since I’m friendly, polite, and open minded ready for new experiences !!
My purpose in life is to be happy, have fun with my family and friends, and explore the world.
I love nature, doing crafts, painting and doing sports. All of these inspire me, making me feel alive, creative and good with myself.
For me, traveling is a form of living where you get to do what makes you feel best and a way to discover new forms to understand the world, see new landscapes, and get new experiences. It allows me to disconnect from my routines and meet lots of interesting people, as well as to learn new things in a fun way." Sandra





























...จนกว่าจะพบกันอีก...
..Till we meet again...