วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2563

อโยธยาศรีรามเทพนคร

 


วันนี้ก็แวะเวียนอยู่ใกล้ ๆ บ้านนี้แหละครับ..เคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่า " อยุธยา " กับ " อโยธยา " นี่เป็นที่เดียวเรื่องเดียวกันหรือเปล่า เวลานั่งรถจากบ้านเข้าไปเกาะเมือง "กรุงศรีอยุธยา" เมืองหลวงเก่า ก่อนจะข้ามแม่น้ำป่าสักที่ตรงวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้มก็เห็นป้าย " วัดอโยธยา " แล้วอโยธยาตรงนี้เป็นมาอย่างไร...ไปพบข้อมูลจากนักวิชาการ นักประวัติศาสตร์ โบราณคดี หลายท่านได้ให้ความเห็นพอสรุปได้ว่า อโยธยา นี้เป็นอาณาจักรที่มีมานานก่อนการตั้งกรุงศรีอยุธยาของพระเจ้าอู่ทอง มีชื่อว่า อโยธยาศรีรามเทพนคร แต่อาณาจักรในี้ไม่ค่อยมีการกล่าวถึงในวิชาประศาสตร์ไทยที่เคยเรียนมาสมัยตอนเป็นนักเรียน..วันนี้ก็อยากจะชวนท่านที่ไปเี่ที่ยว "ตลาดน้ำอโยธยา " พอมีเวลาก็ลองเที่ยวชมเมืองเก่าอโยธยาศรีรามเทพนคร ได้นะครับ.....


วัดสมณโกฏฐาราม อยู่เลยตลาดน้ำอโยธยาไปหน่อย วัดนี้ว่ากันว่าเป็นวัดที่ใช้จัดงานศพของพระแม่ดุสิต มารดาพระยาโกษาปาน พระยาโกษาเหล็กและเป็นพระนมของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ยังซากโบราณสถานให้เห็นอยู่โดยเฉพาะพระอุโบสถเก่าแก่แต่สมัยโบราณ วัดนี้ยังมีพระภิกษุจำพรรษาอยู่..



วัดกุฎีดาว เป็นวัดร้าง ตามตำนานโบราณก็ว่ามีพระมหากษัตริย์สมัยโบราณเป็นผู้สร้าง มีการบูรณะในสมัยสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ แห่งกรุงศรีอยุธยา จากซากที่ปรากฏในปัจจุบัน คงจะเป็นอารามที่มีความใหญ่โตมากพอสมควร


วัดมเหยงค์ เป็นวัดที่มีพระภิกษุจำพรรษาหลายท่านคงจะคุ้นเคยโดยเฉพาะท่านที่สนใจปฏิบัติธรรมสำนักพระอาจารย์สุรศักดิ์ อยู่ที่วัดนี้ครับ..เราจะเห็นเจดีย์ช้างล้อม เช่นเดียวกับที่สุโขทัย ครับ มีตำนานเล่าว่า พระเจ้าอยู่หัวสร้างวัดกุฎีดาว พระอัครมเหสีนามว่า ยงค์ สร้างวัดมเหยงคณ์ บ้างก็บอกว่า มาจากคำว่า วัดมเหสียงค์ ใกล้ ๆ กันก็จะมีวัดร้างอีกสองวัดช้าง กับวัดสีกาสมุด 



วัดประดู่ทรงธรรม ปัจจุบันมีพระภิกษุจำพรรษา เป็นวัดที่ขุนหลวงหาวัด "เจ้าฟ้าอุทุมพร" พระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เมื่อทรงผนวชหลังจากถวายพระราชสมบัติให้พระเจ้าเอกทัตแล้ว มาจำพรรษาที่วัดนี้ ยังมีพระวิหารเก่าเหลืออยู่ ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชหลังจากสร้างกรุงธนบุรีแล้วก็ได้พระเถระผู้ใหญ่จากวัดนี้ไปสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช


วัดอโยธยา ปัจจุบันมีพระภิกษุจำพรรษา ถือว่าเป็นวัดสำคัญที่ตั้งอยู่ในเขตพระราชวังอาณาจักรอโยธยาศรีรามเทพนคร ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์วัดนี้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เจ้าพระฝางที่ตั้งตนเป็นหัวหน้าชุมนุมพระฝางหลังเสียกรุงครั้งที่สอง ก็เคยมาศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยที่วัดนี้ โบราณสถานที่เหลืออยู่มีเพียงเจดีย์และเนินดิน


วัดดุสิดาราม ปัจจุบันมีพระภิกษุจำพรรษา เป็นวัดที่เจ้าแม่ดุสิตแม่นมของสมเด็จพระนารายณ์บูรณปฏิสังขรณ์ เนื่องจากสมเด็จพระนารายณ์ทรงสร้างพระตำหนักให้เจ้าแม่ดุสิตอยู่ใกล้กับวัดนี้ ปัจจุบันยังมีโบราณสถานคือพระอุโบสถเก่าแก่ทีสร้างหันหน้าไปทางทิศตะวันตก และเจดีย์องค์ใหญ่

หากท่านเดินทางไปเที่ยวเมือง"กรุงเก่า" พอมีเวลาก็ขอแนะนำให้แวะไปเที่ยวชมได้ครับ ระยะทางแต่ละวัดอยู่ไม่ไกลกัน นอกจากวัดที่กล่าวแล้วยังวัดร้างอีกหลายวัดที่ยังคงมีซากโบราณสถานให้ได้ศึกษาเรื่องราวในอดีต.......

*******************************





 







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น