วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2563

เข้าถึงธรรม..



อยากรู้ว่าตนเองก็ดี
ฆารวาส หรือ พระ ก็ดี
ที่ปฏิบัติถึงแล้วให้สังเกตุดู

๑.อารมณ์ดีๆ มีเมตตา
ยิ้มในจิตออกมาข้างนอกนิด ๆ

๒.หน้าตาแจ่มใส ใสๆ สว่าง ๆ ภายใน มาภายนอก
เป็นปกติ ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ ว่างเฉยได้ ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย
เมื่อถึงที่สุดในเหตุการณ์ ก็ปล่อยไปตามเหตุปัจจัย ทำใจได้

๓.ความโลภ ความโกรธ ความหลง ไม่มี เบาบาง
จิตไม่อยาก ทะเยอทะยาน จิตใจมั่งคง คงที่ ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวง่าย

๔.จิตของอริยบุคคล ทุกอิริยบถ เดิน ยืน นั่ง นอน
รู้ตัว รู้กาย รู้ใจ มีสติสม่ำเสมอ มีความว่าง อิสระ
มีกระแสเย็น ๆ สงบๆ นิ่งๆ อยู่ใกล้แล้วใจสบาย
ไม่อึดอัด

๕.รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธัมมารมณ์
เข้าทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เห็นเป็นเช่นนั้นเอง
เห็นเป็นธรรมชาติของมัน ไม่มีอุปทาน เข้าไปยึดมั่นสิ่งนั้น

๖. มีเมตตาในจิตอยู่เสมอ ไม่เลือกหน้า
ทุกสรรพชีวิต ทุกภพ ทุกชาติ มนุษย์ เดรัจฉาน เทวดา อื่นๆ

๗.อยู่กับตนเองได้ มีใจน้อมไปในวิเวก ทั้งวิเวกกาย วิเวกจิต
ชอบสันโดษ ในปัจจัย ๔ เสื้อผ้า อาหาร ยา ทีอยู่อาศัย

๘.มีทานบารมีเป็นพื้นฐาน ชอบให้ ชอบเสียสละ

๙.ไม่ชอบเบียดเบียนตนเอง และคนอื่น
เกรงใจ ชอบทำงานและสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง
รับผิดชอบตนเอง เรื่องส่วนตัวและส่วนรวม

๑๐.เข้าใจสมมุติ เหนือสมมุติ แล้วไม่แบ่งแยก

๑๑.มีความละเอียด รอบครอบในการทำสิ่งต่างๆ
 ทั้ง คิด พูด ทำ

๑๒. มีความปกติ กาย วาจา ใจ
เข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น
คิดถึงตนเอง และคิดถึงผู้อื่น
เวลาอยู่ร่วมกัน ทำงานร่วมกัน
เอาใจเค้า มาใส่ใจเรา

สรุป อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร มีทางเดียว
ตนเองต้องปฏิบัติ แล้วจะพบคำตอบ
หมดคำถาม เลิกสงสัย ใจมั่นคง ตรงต่อธรรม

ภูริทัตตา
******
Cr.https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=293077534395347&id=100010793084544

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น