....ฯลฯ....
******
" อานันทะ ดูก่อน อานนท์ เธอนึกถึงความตายวันละกี่ครั้ง ? " องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกล่าวกับพระอานนท์
" ข้าพระพุทธเจ้านึกถึงความตายประมาณวันละ ๗ ครั้ง พระเจ้าข้า " พระอานนท์ทูลตอบ
" อานันทะ ดูก่อน อานนท์ มันยังไกลเกินไป สำหรับตถาคตนี้นึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออก "
******
มรณานุสสติกรรมฐานนี้เป็นกรรมฐานสำหรับบุคคลที่มีจริตเป็น พุทธจริต คือ เป็นบุคคลฉลาด บุคคลที่มีความฉลาดแล้วย่อมไม่กลัวความตาย รู้จักสภาวะปกติของขันธ์ ๕ คือร่างกาย ว่ามันมีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น มีความแปรปรวนในท่ามกลาง และก็ตายในที่สุด
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแนะนำว่า คนที่นึกถึงความตายเป็นปกติ เป็นคนดีไม่มีความประมาท...เมื่อเรารู้ว่าจะตายสภาวะความตายไม่ใช่สภาวะสูญ ถ้าเรายังไม่หมดกิเลส...ความเกิดก็ปรากฏ...เมื่อตายแล้วก็เกิด ไม่ไช่หมายความว่าจะเกิดเป็นคนเสมอไป...
ถ้าทำกรรมชั่วไว้จิตใจสั่งสมอยู่ในอารมณ์ชั่วก็ไปเกิดเป็นสัตว์นรกบ้าง เป็นเปรตบ้าง เป็นอสุรกายบ้าง เป็นสัตว์เดรัจฉานบ้าง นี่เป็นปัจจัยของความชั่วที่เราเรียกว่า บาป...
คนที่มีความดีมีศีล ๕ กรรมบถ ๑๐ บริสุทธิ์ก็เกิดเป็นมนุษย์ได้ แล้วก็เกิดเป็นมนุษย์ชั้นดี หากมีการภาวนาอยู่บ้าง มีศีลมีทานเป็นปกติ เกิดเป็นเทวดาก็ได้ ถ้ามีกำลังใจเป็นฌาณสมาบัติทรงความดีไว้เป็นปกติ ทรงอยู่แต่เฉพาะในอารมณ์ที่เป็นกุศล เวลาจะตายจิตก็ทรงอยู่ตามนั้น อย่างนี้ตายแล้วเกิดเป็นพรหม ถ้าตัดกิเลส เป็นสมุจเฉทปหาน(การละกิเลสได้เด็ดขาดอย่างพระอรหันต์)ได้ เราก็ไปนิพพาน...
การแสวงหาความดีไว้เป็นปกติ จะเอาความดีกันทางไหนล่ะ เรารู้ตัวอยู่ว่าเราจะตาย เราก็เลือกทางเอา ถ้าเราต้องการเกิดเป็นมนุษย์ ก็พยายามรักษาศีลให้บริสุทธิ์ พยายามรักษากรรมบถ ๑๐ ให้บริสุทธิ์ เราพยายามคุมอารมณ์ศีลให้เป็นปกติ อย่างนี้ตายแล้วเป็นมนุษย์ได้สบาย ๆ แล้วก็เป็นมุษย์ชั้นดี ตามพระบาลีว่า สีเลนะ สุคติง ยันติ เวลาตายแล้วคนมีศีลจะไปสู่สุคติ มีความสุขสมบูรณ์ สีเลนะ โภคสัมปทา เราจะมีโภคทรัพย์ มากมาย สีเลนะ นิพพุติง ยันดิ ย่อมเป็นปัจจัยให้ถึงพระนิพพานได้โดยง่าย.....
....ฯลฯ....
(จากหนังสือ มรณานุสสติ โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น