วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2565

บุญติดจรวด..

 Cr.Fwd line

*****

"บุญ" ติดจรวด เรื่องนี้จะบอกว่า “ให้สิ่งใด ได้สิ่งนั้น” (บุญกรรมไม่ไปไหนเสีย)


....

ตะวันจะเริ่มโพล้เพล้  แต่ยังไม่มืดเกินไปเขาจะสังเกตเห็นหญิงสูงอายุแต่งกายดีคนนั้น ยืนอยู่ข้างทางรอความช่วยเหลือ


เขาจึงเบี่ยงรถเข้าจอดหน้ารถเมอซีเดสเบ๊นส์คันงามของเธอ  และลงจากรถ 


ขณะที่เขาเดินเข้าไปหาเธอ รถของเขาทั้งสั่นทั้งคราง เขาระบายยิ้มได้เต็มหน้า แต่เธอยังคงเต็มไปด้วยแววกังวล


...ไม่มีใครยอมหยุดมาช่วยเราเลย ตั้งชั่วโมงกว่าแล้ว


เขาจะทำร้ายฉันไหมหนอ ...เขาดูไม่น่าเชื่อถือเลย... ดูซกมกและหิวโซอีกต่างหาก...”


เขาพอมองออกว่าเธอกลัวเขา ยืนอยู่เดียวดายท่ามกลางความหนาวเย็น เข้าใจดีว่าเธอรู้สึกอย่างไร


มันเป็นความหนาวสั่นที่มาพร้อมกับความกลัวเชียวหละ


“ผมมาช่วยครับคุณผู้หญิง ทำไมไม่เข้าไปนั่งสบาย ๆ ในรถที่อบอุ่นกว่าละครับ...


เออ! ผมชื่อ ไบรอัน แอนเดอร์สัน ครับ”


ที่จริงรถเธอแค่ยางแตก แต่นั่นก็หนักหนาพอแล้วสำหรับเธอ


ไบรอันก้มลงมองใต้รถหาที่สำหรับค้ำแม่แรง ถลกแขนเสื้อและขยับแขน 2-3ครั้ง


ในไม่ช้าเขาก็เริ่มเปลี่ยนยางได้ แต่ก็ต้องแลกกับความมอมแมม และเจ็บมือเล็กน้อยตอนที่ขันน๊อตล้อตัวสุดท้าย 


เธอหมุนกระจกรถลงและเริ่มคุยกับเขา


เธอเล่าว่า เธอมาจากเซ็นต์หลุยส์และผ่านมาทางนี้ ไม่รู้จะขอบคุณอย่างไรดี ที่อุตส่าห์มาช่วย


ไบรอันแค่ยิ้มให้แล้วปิดกระโปรงหลังรถเมื่อเก็บเครื่องมือเสร็จ


หญิงผู้สูงศักดิ์ถามว่าเธอต้องจ่ายให้เขาเท่าไหร่ เธอพร้อมจะจ่าย ไม่ว่าเท่าไหร่


เพราะเธอตระหนักดีว่า หากเขาไม่มาช่วย เหตุการณ์อาจจะเลวร้ายก็ได้


ไบรอันไม่เคยคิดถึงเรื่องเงินเลย


นี่ไม่ใช่งานหนักอะไรสำหรับเขา


มันแค่เป็นการช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือเท่านั้นเอง


ที่ผ่านมา เขาก็เคยได้รับการช่วยเหลือเช่นนี้จากผู้อื่นเช่นกัน 


เขาถือคตินี้เสมอมา และไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย


เขาบอกเธอว่า หากเธอต้องการจะชดใช้ให้เขาจริง ๆ ละก็ ครั้งหน้าที่เธอเห็นใครที่ต้องการความช่วยเหลือ จงช่วยคนนั้นแหละ...


“ให้คิดถึงผมด้วยก็แล้วกันครับ”


เขายืนมองเธอติดเครื่องและขับหายไป


...มันช่างเป็นวันที่หนาวและห่อเหี่ยว แต่เขากลับรู้สึกดี และมีความสุข ขณะที่ขับรถกลับบ้านกลางแสงตะวันยามเย็น


ห่างมาไม่กี่ไมล์ หญิงผู้สูงศักดิ์เห็นข้างทางมีร้านกาแฟเล็ก ๆ ร้านหนึ่ง


หวังเพียงแวะเข้าไปหาอะไรรองท้องและหลบหนาวสักพักก่อนที่จะเดินทางต่อ


ในร้านค่อนข้างมืด และสกปรก  ข้างนอกมีเพียงเครื่องเติมน้ำมันเก่า ๆ สองเครื่อง.. 


เป็นภาพที่ไม่โสภาเลยสำหรับเธอ


สาวเสิร์ฟคนหนึ่งเดินมาหาเธอ  ใช้ผ้าขนหนูที่สะอาดซับผมที่เปียกปอนให้เธอ


เธอยิ้มหวานมาก หวานซะจนความเมื่อยล้าจากการยืนมาแล้วทั้งวัน ไม่สามารถลบรอยยิ้มนั้นออกได้


หญิงผู้สูงศักดิ์สังเกตเห็นเธอผู้นั้นน่าจะท้องได้สักราวแปดเดือนแล้ว


แต่เธอไม่เคยปล่อยให้ความเครียดและความเจ็บ เมื่อยล้ามาเปลี่ยนทัศนคติของเธอ


หญิงสูงศักดิ์ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า จะมีคนที่มีต้นทุนเพียงน้อยนิด แต่สามารถให้ผู้อื่นได้มากขนาดนั้น 


โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนแปลกหน้าเช่นเธอ


...แล้วเธอก็นึกถึงไบรอันหลังจากเธอรับประทานอิ่ม เธอจ่ายด้วยเงินใบละร้อยดอลล์ ขณะที่สาวเสิร์ฟเข้าไปเอาเงินมาทอน หญิงผู้สูงศักดิ์ได้หลบออกนอกร้านไปทันที


เมื่อสาวเสิร์ฟกลับมาพร้อมตังค์ทอนจึงไม่เห็นเธอ ขณะที่กำลังฉงนใจ


เธอสังเกตเห็นบางสิ่งเขียนอยู่บนผ้ารองจาน พอเธอได้อ่าน นัยน์ตาเธอเอ่อไปด้วยน้ำตา


หญิงสูงศักดิ์เขียนว่า “เธอไม่ได้ค้างอะไรฉันเลย ฉันเคยเป็นเช่นนั้นมาก่อน มีบางคนเคยช่วยฉัน เหมือนที่ฉันกำลังช่วยเธอ


หากเธอจะตอบแทนฉันจริงละก้อ จงช่วยผู้อื่นต่อไป อย่าให้โซ่ของความรักนี้ ขาดช่วงลงที่เธอนะ”


ใต้ผ้ารองจานผืนนั้น ยังมีใบละร้อยดอลล์อยู่อีกสี่ใบ


ยังมีโต๊ะที่ต้องเช็ด ถ้วยน้ำตาลที่ต้องเติม ลูกค้าที่ต้องบริการอีกมาก เธอยังคงต้องทำงานต่อไปจนดึก


คืนนั้น เธอกลับถึงบ้าน ปีนขึ้นเตียงนอน พร้อมกับหวลคิดถึงเงินและสิ่งที่หญิงผู้สูงศักดิ์ผู้นั้นเขียน


.....เธอรู้ได้อย่างไรนะ ว่าเราและสามีกำลังต้องการมันมากทีเดียว


อีกเดือนเดียวลูกก็จะคลอดแล้ว  มันจะลำบากยิ่งขึ้น หากเราไม่มีเงิน


..เธอทราบดีว่าสามีกลุ้มใจเรื่องนี้มาก ดังนั้น ตอนที่สามีเธอล้มตัวลงนอนข้างเธอ เธอจุมพิตเขาเบา ๆ และกระซิบค่อย ๆ ว่า

“ไม่ต้องกังวลอีกแล้วนะ ฉันรักคุณค่ะ ไบรอัน แอน

เดอร์สัน ที่รัก"


”โบราณว่า ให้สิ่งใดได้สิ่งนั้น”


วันนี้ส่งเรื่องนี้ให้ ขอให้ส่งต่อไปให้เพื่อน ๆ เพื่อให้แสงสว่างแห่งความรัก”ส่องแสง”ต่อไปเรื่อย ๆ

...................


นี่ไม่ใช่จดหมายลูกโซ่ ไม่มีการคาดโทษใด ๆ ถ้าไม่ทำอะไรต่อไป


เพื่อนที่ดีเหมือนดวงดาว...อาจไม่เห็นเขาตลอดเวลา แต่รู้ว่า ความดีแบบของเขาจะอยู่ที่นั่นเสมอ


... การให้น่าจะเป็นสิ่งที่ดีนะ ยิ่งให้ยิ่งได้ และยิ่งมีเพิ่มขึ้นได้..


Cr : คุณวรินทร์ ชิ้นสุวรรณ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น