วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565
วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2565
กำลังใจ
Cr.fwd line
วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2565
วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2565
วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2565
วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2565
วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2565
วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2565
วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2565
วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2565
วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2565
ชามใบนั้น...
Cr.fwd line
*****
#บทความชวนอ่าน
"ชามใบนั้นในชีวิตคุณ"
ชายหนุ่มตั้งใจจะไปซื้อชาม พอไปถึงร้าน เขาก็หยิบเอาชามขึ้นมาใบหนึ่ง และแล้วเขาก็นำเอาชามใบนั้นไปกระทบกับชามใบอื่นแบบเบา ๆ ก็ปรากฏว่าได้ยินเสียงทึบ ๆ ที่ไม่ใสดังออกมา ชายหนุ่มหยิบเอาชามใบอื่น ๆ มากระทบ ใบแล้วใบเล่า แต่ก็ไม่มีใบไหนที่ให้เสียงออกมาแบบที่เขาพอใจ แม้เจ้าของร้านจะนำเอาชามชั้นดีของร้านมาให้เขาลองดู แต่เขาก็ยังไม่พอใจอยู่ดี
เจ้าของร้านเกิดความสงสัย ถามเขาว่าทำไมเอาแต่ชามที่อยู่กับมือไปกระทบกับใบอื่น ๆ ชายหนุ่มตอบอย่างภูมิใจว่า มีผู้ใหญ่สอนเคล็ดลับในการเลือกซื้อชามให้เขา พอเอาชามสองใบกระทบกันเบา ๆ ถ้าเสียงที่เปล่งออกมาเป็นเสียงใสเสนาะหู แสดงว่าเนื้อชามใบนั้นเป็นชามคุณภาพสูง หลังเจ้าของร้านเข้าใจเรื่องทั้งหมดที่ชายหนุ่มอธิบายแล้ว เจ้าของร้านก็หยิบเอาชามใบใหม่ให้เขาพร้อมบอกว่า "พ่อหนุ่มเอ้ย ลองเอาชามใบใหม่นี้ไปกระทบกับชามใบอื่น ๆ ดู รับรองคุณจะได้เจอใบที่คุณถูกใจแน่นอน" ชายหนุ่มไม่ค่อยอยากเชื่อ แต่ก็ยอมทำตามที่เจ้าของร้านแนะนำ ไม่น่าเชื่อ คราวนี้เขาได้ยินแต่เสียงใสเสนาะหูแทบทุกครั้งที่กระทบ เขาไม่เข้าใจ จึงขอคำอธิบายจากเจ้าของร้าน "เหตุผลง่าย ๆ ก็คือ ชามใบแรกที่คุณหยิบติดมือมาลองไปทั่วร้านนั้น เป็นชามที่มีเนื้อชามคุณภาพระดับล่าง ไม่ว่าคุณจะนำมันไปกระทบกับชามคุณภาพดีเด่นแค่ไหน เสียงมันก็จะไม่มีทางออกมาแบบใสแจ๋ว จะสรรหาชามดี ๆ ก่อนอื่นนั้น คุณต้องแน่ใจว่าชามใบแรกในมือของคุณต้องเป็นชามดีมีคุณภาพก่อน"
*************
แท้จริงแล้ว คุณสามารถค้นหาผู้คนคุณภาพที่คุณจะคบหาด้วยตัวคุณเองได้ไม่ยาก
ก่อนอื่นคุณควรเป็นคนดีสำหรับคนอื่นก่อน
เมื่อคุณหยิบยื่นความจริงใจออกไป คุณจะได้รับความเชื่อถือกลับมา
เมื่อคุณหยิบยื่นความหวังดีออกไป คุณจะได้รับความนับถือเป็นของตอบแทน
ในทางตรงกันข้าม
หากคุณเป็นคนเสแสร้ง ขี้สงสัยหรือขี้อิจฉา
สิ่งที่คนอื่นจะยื่นให้คุณนั้น น่าจะเป็นกำแพงหนา ๆ และความรู้สึกที่เย็นชาเป็นของแลกเปลี่ยน
คนทุกคนย่อมมีชามใบหนึ่งในชีวิตเขา ชามใบนั้นอาจบรรจุความดี ความน่าเชื่อถือ จิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความจริงใจและการให้อภัย
แต่ก็อาจบรรจุความเสแสร้ง จิตใจที่คับแคบ ขี้สงสัย เห็นแก่ตัวอยู่ด้วย
จงกำจัดขยะไร้ค่าเหล่านั้นออกไปจากชามของคุณก่อน
แล้วชามใบนั้นของคุณจะกลายเป็นชามที่มีคุณภาพ
พร้อมยิ้มรับที่จะกระทบกับชามใบอื่น ๆ แล้วพวกคุณจะได้ยินเสียงหัวเราะที่สดใสและเบิกบานของพวกคุณแน่นอน
จงทำตัวให้ดีก่อน แล้วจะได้เจอกับคนดีคนอื่น ๆ อีกมากหลาย
"ขจรศักดิ์"
แปลและเรียบเรียง
28/3/17
ห้องสมุดฟลิ้นท์
#สายธารแห่งปัญญา
วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2565
วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2565
วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2565
วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2565
บุญติดจรวด..
Cr.Fwd line
*****
"บุญ" ติดจรวด เรื่องนี้จะบอกว่า “ให้สิ่งใด ได้สิ่งนั้น” (บุญกรรมไม่ไปไหนเสีย)
....
ตะวันจะเริ่มโพล้เพล้ แต่ยังไม่มืดเกินไปเขาจะสังเกตเห็นหญิงสูงอายุแต่งกายดีคนนั้น ยืนอยู่ข้างทางรอความช่วยเหลือ
เขาจึงเบี่ยงรถเข้าจอดหน้ารถเมอซีเดสเบ๊นส์คันงามของเธอ และลงจากรถ
ขณะที่เขาเดินเข้าไปหาเธอ รถของเขาทั้งสั่นทั้งคราง เขาระบายยิ้มได้เต็มหน้า แต่เธอยังคงเต็มไปด้วยแววกังวล
...ไม่มีใครยอมหยุดมาช่วยเราเลย ตั้งชั่วโมงกว่าแล้ว
เขาจะทำร้ายฉันไหมหนอ ...เขาดูไม่น่าเชื่อถือเลย... ดูซกมกและหิวโซอีกต่างหาก...”
เขาพอมองออกว่าเธอกลัวเขา ยืนอยู่เดียวดายท่ามกลางความหนาวเย็น เข้าใจดีว่าเธอรู้สึกอย่างไร
มันเป็นความหนาวสั่นที่มาพร้อมกับความกลัวเชียวหละ
“ผมมาช่วยครับคุณผู้หญิง ทำไมไม่เข้าไปนั่งสบาย ๆ ในรถที่อบอุ่นกว่าละครับ...
เออ! ผมชื่อ ไบรอัน แอนเดอร์สัน ครับ”
ที่จริงรถเธอแค่ยางแตก แต่นั่นก็หนักหนาพอแล้วสำหรับเธอ
ไบรอันก้มลงมองใต้รถหาที่สำหรับค้ำแม่แรง ถลกแขนเสื้อและขยับแขน 2-3ครั้ง
ในไม่ช้าเขาก็เริ่มเปลี่ยนยางได้ แต่ก็ต้องแลกกับความมอมแมม และเจ็บมือเล็กน้อยตอนที่ขันน๊อตล้อตัวสุดท้าย
เธอหมุนกระจกรถลงและเริ่มคุยกับเขา
เธอเล่าว่า เธอมาจากเซ็นต์หลุยส์และผ่านมาทางนี้ ไม่รู้จะขอบคุณอย่างไรดี ที่อุตส่าห์มาช่วย
ไบรอันแค่ยิ้มให้แล้วปิดกระโปรงหลังรถเมื่อเก็บเครื่องมือเสร็จ
หญิงผู้สูงศักดิ์ถามว่าเธอต้องจ่ายให้เขาเท่าไหร่ เธอพร้อมจะจ่าย ไม่ว่าเท่าไหร่
เพราะเธอตระหนักดีว่า หากเขาไม่มาช่วย เหตุการณ์อาจจะเลวร้ายก็ได้
ไบรอันไม่เคยคิดถึงเรื่องเงินเลย
นี่ไม่ใช่งานหนักอะไรสำหรับเขา
มันแค่เป็นการช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือเท่านั้นเอง
ที่ผ่านมา เขาก็เคยได้รับการช่วยเหลือเช่นนี้จากผู้อื่นเช่นกัน
เขาถือคตินี้เสมอมา และไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย
เขาบอกเธอว่า หากเธอต้องการจะชดใช้ให้เขาจริง ๆ ละก็ ครั้งหน้าที่เธอเห็นใครที่ต้องการความช่วยเหลือ จงช่วยคนนั้นแหละ...
“ให้คิดถึงผมด้วยก็แล้วกันครับ”
เขายืนมองเธอติดเครื่องและขับหายไป
...มันช่างเป็นวันที่หนาวและห่อเหี่ยว แต่เขากลับรู้สึกดี และมีความสุข ขณะที่ขับรถกลับบ้านกลางแสงตะวันยามเย็น
ห่างมาไม่กี่ไมล์ หญิงผู้สูงศักดิ์เห็นข้างทางมีร้านกาแฟเล็ก ๆ ร้านหนึ่ง
หวังเพียงแวะเข้าไปหาอะไรรองท้องและหลบหนาวสักพักก่อนที่จะเดินทางต่อ
ในร้านค่อนข้างมืด และสกปรก ข้างนอกมีเพียงเครื่องเติมน้ำมันเก่า ๆ สองเครื่อง..
เป็นภาพที่ไม่โสภาเลยสำหรับเธอ
สาวเสิร์ฟคนหนึ่งเดินมาหาเธอ ใช้ผ้าขนหนูที่สะอาดซับผมที่เปียกปอนให้เธอ
เธอยิ้มหวานมาก หวานซะจนความเมื่อยล้าจากการยืนมาแล้วทั้งวัน ไม่สามารถลบรอยยิ้มนั้นออกได้
หญิงผู้สูงศักดิ์สังเกตเห็นเธอผู้นั้นน่าจะท้องได้สักราวแปดเดือนแล้ว
แต่เธอไม่เคยปล่อยให้ความเครียดและความเจ็บ เมื่อยล้ามาเปลี่ยนทัศนคติของเธอ
หญิงสูงศักดิ์ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า จะมีคนที่มีต้นทุนเพียงน้อยนิด แต่สามารถให้ผู้อื่นได้มากขนาดนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนแปลกหน้าเช่นเธอ
...แล้วเธอก็นึกถึงไบรอันหลังจากเธอรับประทานอิ่ม เธอจ่ายด้วยเงินใบละร้อยดอลล์ ขณะที่สาวเสิร์ฟเข้าไปเอาเงินมาทอน หญิงผู้สูงศักดิ์ได้หลบออกนอกร้านไปทันที
เมื่อสาวเสิร์ฟกลับมาพร้อมตังค์ทอนจึงไม่เห็นเธอ ขณะที่กำลังฉงนใจ
เธอสังเกตเห็นบางสิ่งเขียนอยู่บนผ้ารองจาน พอเธอได้อ่าน นัยน์ตาเธอเอ่อไปด้วยน้ำตา
หญิงสูงศักดิ์เขียนว่า “เธอไม่ได้ค้างอะไรฉันเลย ฉันเคยเป็นเช่นนั้นมาก่อน มีบางคนเคยช่วยฉัน เหมือนที่ฉันกำลังช่วยเธอ
หากเธอจะตอบแทนฉันจริงละก้อ จงช่วยผู้อื่นต่อไป อย่าให้โซ่ของความรักนี้ ขาดช่วงลงที่เธอนะ”
ใต้ผ้ารองจานผืนนั้น ยังมีใบละร้อยดอลล์อยู่อีกสี่ใบ
ยังมีโต๊ะที่ต้องเช็ด ถ้วยน้ำตาลที่ต้องเติม ลูกค้าที่ต้องบริการอีกมาก เธอยังคงต้องทำงานต่อไปจนดึก
คืนนั้น เธอกลับถึงบ้าน ปีนขึ้นเตียงนอน พร้อมกับหวลคิดถึงเงินและสิ่งที่หญิงผู้สูงศักดิ์ผู้นั้นเขียน
.....เธอรู้ได้อย่างไรนะ ว่าเราและสามีกำลังต้องการมันมากทีเดียว
อีกเดือนเดียวลูกก็จะคลอดแล้ว มันจะลำบากยิ่งขึ้น หากเราไม่มีเงิน
..เธอทราบดีว่าสามีกลุ้มใจเรื่องนี้มาก ดังนั้น ตอนที่สามีเธอล้มตัวลงนอนข้างเธอ เธอจุมพิตเขาเบา ๆ และกระซิบค่อย ๆ ว่า
“ไม่ต้องกังวลอีกแล้วนะ ฉันรักคุณค่ะ ไบรอัน แอน
เดอร์สัน ที่รัก"
”โบราณว่า ให้สิ่งใดได้สิ่งนั้น”
วันนี้ส่งเรื่องนี้ให้ ขอให้ส่งต่อไปให้เพื่อน ๆ เพื่อให้แสงสว่างแห่งความรัก”ส่องแสง”ต่อไปเรื่อย ๆ
...................
นี่ไม่ใช่จดหมายลูกโซ่ ไม่มีการคาดโทษใด ๆ ถ้าไม่ทำอะไรต่อไป
เพื่อนที่ดีเหมือนดวงดาว...อาจไม่เห็นเขาตลอดเวลา แต่รู้ว่า ความดีแบบของเขาจะอยู่ที่นั่นเสมอ
... การให้น่าจะเป็นสิ่งที่ดีนะ ยิ่งให้ยิ่งได้ และยิ่งมีเพิ่มขึ้นได้..
Cr : คุณวรินทร์ ชิ้นสุวรรณ
วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2565
วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2565
๑๐ กันยายน
วันนี้..เมื่อ ๕๔ ปี ที่ผ่านมา..วันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๑๑ เป็นวันที่พวกเราเข้ารับการประดับยศ จ่าโท และบรรจุเข้ารับราชการในกองทัพเรือ...จากวันนั้นมาจนถึงวันนี้พวกเรามีเรื่องราวมากมาย..เก็บไว้เป็นความทรงจำ...
...ภาพหมู่จ่าใหม่ (คลิกที่นี่)
...รายนามประธานรุ่น(คลิกที่นี่)
...เพื่อนเราที่จากไปแล้ว(คลิกที่นี่)
...เพื่อนช่วยเพื่อน(คลิกที่นี่)
...เพื่อนช่วยเพื่อน(คลิกที่นี่)
ฯลฯ
มีกิจกรรมอีกหลายกิจกรรมในแต่ละปี..ได้บันทึกไว้ในfacebook ชื่อเพจ"เรารุ่นเดียวกัน"และเพจ"นรจ.๐๙ old sharks"
......
ขอบคุณเรื่องราวและข้อมูลต่างๆ..จากเพื่อนๆ ๐๙๑๑๕๘ ทุกท่าน..
ขอบคุณภาพจากเพื่อน วันชัย จ.
(จากซ้ายไปขวา สัญชัย ป.วันชัย จ.สมเพชร พ.ประสิทธ์ ค.)
วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2565
วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2565
วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2565
วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2565
วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2565
เล่าสู่กันฟัง
วิเชียร มามีเกตุ
เล่าสู่กันฟัง
..เมื่อวันก่อนได้รับโทรศัพท์จากเพื่อน(9417)ทวงถามต้นฉบับ "เล่าสู่กันฟัง" ว่าเขียนเสร็จหรือยัง?!!..จริงๆ ตั้งใจมานานแล้ว ว่าจะเขียนแต่ก็มีเหตุจำเป็นไม่ได้ลงปากกาเสียที.. พอดีนึกได้ว่าเมื่อวันที่ 10 เดือนกันยายน พ.ศ.2511 นั้นเป็นวันที่พวกเรา นรจ.รุ่น 09 ได้รับคำสั่งให้ติดยศ จ่าโท ... ผ่านมาแล้ว 54 ปี จากนั้นพวกเราต่างสวมคอนเวิร์ส “ทางใคร ทางมัน” ดำเนินชีวิตไปตามเส้นทาง..ผมเองรับใช้ ทร. มาระยะเวลาหนึ่ง ปี 2525 ชะตาชีวิตเปลี่ยน ออกจาก ทร. แต่ก็ยังคงติดต่อกับเพื่อนๆ อยู่เสมอตามโอกาส และมาใกล้ชิดเพื่อนๆ มากขึ้น... เมื่อปี 54 ประธานรุ่นชลิต เกิดชื่น ได้สร้างความเป็นปึกแผ่นของรุ่น 09 หลังเกษียณ มั่นคงเป็นต้นมา โดยมีเพื่อน ๆ รับเป็นประธานสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันตามลำดับ :-
- ชลิต เกิดชื่น ปี 54-55
- วิติ บัวศรี ปี 56-57
- สุรเดช กันเกตุ ปี 58-59
- จิระชัย กันตะสุวรรณ ปี 60-61
- ชาญณรงค์ ไวทยะพัธน์ ปี 62-64 (โควิดระบาด)
- สมศักดิ์ ยศศรี ปี 65 - ?
มีเพื่อนๆ ถามบ่อยๆ ว่า เมื่อไหร่ผมจะรับหน้าที่ประธาน? ... ขอตอบว่า ถ้าอยากให้ผมทำงานเพื่อรุ่นต่อไป ก็อย่าให้ผมทำหน้าที่ประธาน เพราะหลังจากเป็นประธานแล้ว ทุกท่านจะ “ลอยนวล” ...555 (ล้อเล่นครับ)
...เผลอนิดเดียว ปีนี้ 65 ก็ราว 11 ปีแล้ว ดีใจที่พวกเราได้ร่วมจิต ร่วมคิด ร่วมทำ สิ่งดีๆสำหรับพวกเราเพื่อนร่วมรุ่นมาโดยตลอด โดยเฉพาะโครงการ "เพื่อนช่วยเพื่อน" ที่ได้ประธานฯ “โก๋” ชาญณรงค์ฯ ปลุกปั้นและผลักดันโครงการด้วยความเสียสละอย่างยิ่งยวด จนกระทั่งวันนี้ โครงการ “เพื่อนช่วยเพื่อน” ประสบความสำเร็จ อย่างมั่นคงยิ่ง .. พวกเราได้ช่วยกันอย่างพร้อมเพรียงทำให้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้เพื่อนได้ส่วนหนึ่ง นับเป็นกิจกรรมที่ประธาน ต้องใช้ความอดทน มานะบากบั่น ขยันพยายาม พูดง่ายๆ ว่า ต้องทุ่มทั้งตัว ไม่ใช่งานง่ายๆ ครับท่าน ...
อีกงานหนึ่งคืองานเลี้ยงรุ่น ที่พวกเราได้มาพบปะกัน ผลของการพบปะนอกจากพวกเราจะได้มาเห็นหน้าเห็นตาพูดคุยกันแล้ว..ยังได้มีเงินกองทุนสวัสดิการของรุ่น เพิ่มพูนและมั่นคงตามที่เพื่อนสำราญ <เหรัญญิกหิน> "เล่าสู่กันฟัง" ไปแล้ว กิจกรรมที่ประทับใจอีกอันหนึ่งคือ "ขาประจำ "ที่เก่าเวลาเดิม ซึ่งมีมาตลอดตั้งแต่จบออกรับราชการจากกลุ่มเล็กๆ จนถือได้ว่าเป็นวันที่พวกเราตั้งตาคอยกันทุกเดือนที่จะได้มาพบกันตามประสา สว.คุยเรื่องเก่าเล่าความหลัง ช่วงโควิดมาเยือนทำให้พวกเราห่างหายไม่ได้พบหน้าพบตากันแต่เราก็ยังมีช่องทางที่ติดต่อถึงกันทางเฟสบุค บ้างไลน์กลุ่มบ้าง..ทำให้พวกเราได้รู้สึกใกล้ชิดเหมือนเมื่อครั้งเป็น นรจ. ทีเดียว.. ขอให้เพื่อน นรจ. 09 สมัครสมานสามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจนวันตาย...
.
"เล่าสูกันฟัง" นะเพื่อน..ตามคำขอของเพื่อน(9417) ท่านขุน ....
*******