วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ความเงียบที่น่ายกย่อง

 


Cr.ภาพ https://thai.china.com/china/blog/expert2/1775/20141202/223684.html

"ความเงียบที่น่ายกย่อง"


"เบื้องหลังของความเงียบ

มันประกอบไปด้วยความอบอุ่นและความน่ายกย่อง

จากประสบการณ์ที่ได้สัมผัสด้วยตัวเราเองในประเทศเยอรมัน"


ในตอนเย็นวันหนึ่งของฤดูหนาว

เรากำลังเข้าแถวรอรถประจำทาง

มีคนรออยู่ในแถวห้าหกคน

ทุกคนล้วนยืนรอด้วยความสงบและเป็นระเบียบ


ในเวลาเดียวกัน มีคนจูงสุนัขเดินมาแต่ไกล

พอทั้งคู่เดินใกล้เข้ามา

ภาพที่ได้เห็นคือ 

ชายหนุ่มสูงใหญ่ หลังตรงงามสง่า

มีสุนัขที่เดินนำหน้า เป็นสุนัขที่ถูกฝึกมาเป็นพิเศษ

มันถูกฝึกมาสำหรับคนพิการทางสายตาโดยเฉพาะ

สังเกตเห็นได้จากสายรัดคอของสุนัข

เป็นสายรัดที่มีสัญลักษณ์โดยเฉพาะ


เขาเป็นชายหนุ่มที่พิการทางสายตา

ชายหนุ่มค่อยๆเดินตรงมายังป้ายรถประจำทาง

แล้วก็หยุดยืนอยู่ห่างจากแถวพวกเราเล็กน้อย


ไม่มีใครทักทายให้เสียงกับชายหนุ่มคนนั้น

เรากำลังคิดจะเดินไปนำพาเขามาเข้าแถว

แต่คุณผู้ชายวัยกลางคนที่อยู่หัวแถว

รีบเก็บพับหนังสือเล่มที่กำลังอ่าน

แล้วเดินตรงไปยืนอยู่หลังชายหนุ่ม

คนอื่นๆที่อยู่ในแถว ก็ทยอยเดินไปต่อแถวกันใหม่

ไม่มีเสียงแม้แต่นิดเดียว 


หญิงสาวผมสั้นสีแดงที่ยืนติดกับเรา

มองหน้าสุนัขอย่างครุ่นคิด

คงเกรงว่ากลิ่นบุหรี่จะไปรบกวนโสตประสาทการดมกลิ่นของสุนัข

เธอลังเลอยู่แป๊บหนึ่ง

ก่อนจะดับบุหรี่ที่เพิ่งจุด

แล้วก็เดินตามกันไปต่อแถวใหม่


แถวใหม่เกิดขึ้นอย่างเรียบร้อย

เป็นแถวที่ชายหนุ่มกับสุนัขของเขาอยู่หัวแถว

เป็นการร่วมกันกระทำของกลุ่มคนแปลกหน้า

เป็นการกระทำที่ไม่ได้นัดแนะ 

เป็นการกระทำที่ไม่ต้องใช้เสียง

ทุกคนทำเหมือนเป็นหน้าที่

เรารู้สึกทึ่งอย่างบอกไม่ถูก


ทุกคนยังคงรอคอยด้วยความเงียบสงบ

แล้วรถประจำทางก็มาถึง

"รอสักครู่ ผมจะลงไปรับ......"

พนักงานขับรถกำลังขยับตัวจะลุกจากที่นั่งคนขับ

"ขอบคุณครับ ไม่ต้องรบกวนหรอกครับ"

ชายหนุ่มรีบปฏิเสธด้วยน้ำเสียงสุภาพ

ภายใต้การนำของสุนัขฝึกหัดตัวนั้น

ทั้งสองค่อยๆก้าวขึ้นรถไป


เวลานั้นเป็นเวลาหลังเลิกงาน

ผู้โดยสารก็เต็มคันรถอยู่แล้ว

แต่พอชายหนุ่มกำลังก้าวขึ้นรถ

ทุกคนรีบขยับตัวถอยร่นไปข้างหลัง

ทำให้มีพื้นที่ว่างที่บริเวณทางขึ้นทันที


ที่นั่งหลังคนขับ

มีเด็กผู้ชายอายุ 6-7 ขวบนั่งอยู่

คุณแม่รีบสะกิดลูกชายให้ลุกขึ้น

เพื่อสละที่นั่งให้ชายหนุ่ม

การกระทำที่ค่อนข้างกระทันหันของคุณแม่

ไม่ได้ทำให้เด็กผู้ชายงอแง

หนูน้อยรีบลุกขึ้นด้วยความเต็มใจ


สุนัขเห็นมีที่นั่งว่างอยู่

จึงนำพาเจ้าของเดินไปยังที่นั่ง

ส่วนตัวสุนัขเองก็นั่งตัวตรงอยู่ข้างๆบนทางเดิน

เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น

ชายหนุ่มไม่มีสิทธิ์ได้รับรู้ใดๆทั้งสิ้น


"สวัสดีครับ จะไปลงรถที่ไหนครับ"

"สวัสดีครับ ผมจะไปถนนมอร์ครับ"

"พะยะค่ะ ฝ่าบาท......"

ทุกคนหัวเราะในคำหยอกล้อด้วยอารมณ์ขันของคนขับ

แล้วรถประจำทางก็นำพาผู้คนเดินทางต่อไปด้วยบรรยากาศของความสดใส


ทุกคนบนรถเฝ้าสังเกตดูท่าทีอันสง่างามของสุนัข

แม้เวลาเลี้ยวรถ

สุนัขก็จะพยายามเอี้ยวตัวเพื่อรักษาการทรงตัวของตน

สายตาเพ่งมองไปข้างหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ

คงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับสุนัขที่เลี้ยงดูกันตามบ้าน


ไม่มีใครคิดจะยื่นมือไปลูบหัวสุนัข

ไม่มีใครนำเอามือถือออกมาถ่ายรูป

เด็กน้อยที่คิดจะยื่นขนมปังครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่ในมือไปป้อนเขา

ก็ถูกคุณแม่ดึงมือกลับ

กระซิบข้างหูเด็กน้อยแบบเบาๆ

"เขากำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ มีงานต้องรับผิดชอบ อย่าไปรบกวน"

พอได้ยินคำว่า "ปฏิบัติหน้าที่"

เด็กน้อยพยักหน้าด้วยความเข้าใจ


เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ

ไม่นานนักก็มาถึงจุดหมาย

เมื่ออำลากับคนขับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็ก้าวลงจากรถไป

ภายใต้การนำทางของสุนัขฝึกของเขา


รถประจำทางเดินทางต่อไป

แต่ความเงียบสงบยังคงครอบครองอยู่เต็มคันรถ

เราได้รับรู้ถึงความรักและความห่วงใยที่เกิดขึ้นภายใต้ความเงียบ

เป็นความน่ายกย่องที่รับรู้ได้ด้วยความรู้สึก

ภายนอกรถ ลมหนาวเย็นยะเยือก

แต่ภายในใจ เต็มไปด้วยความอบอุ่น


เรื่องราวที่น่าประทับใจนี้

คงไม่ใช่เพียงเพราะผู้คนเดินไปต่อแถวใหม่หลังชายหนุ่ม

คงไม่ใช่เพียงเพราะผู้คนรีบขยับถอยร่นให้มีพื้นที่ว่างเกิดขึ้น

และก็ไม่ใช่เพียงเพราะเด็กน้อยสละที่นั่งให้

แต่สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือ

เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น

เป็นการกระทำที่ไร้เสียงแบบน่ายกย่องที่สุด


ความรัก ความห่วงใย ความเอื้ออาทรที่มีให้กับผู้อื่น

ไม่มีความจำเป็นต้องไปป่าวประกาศ

ไปเที่ยวบอกให้ผู้คนรับรู้ว่า

"พวกเรารักคุณ ห่วงใยคุณ"

บางเวลา

รักหรือห่วงใย ก็เป็นเรื่องเรียบๆง่ายๆ

แต่เป็นสิ่งที่เราสัมผัสได้ด้วยด้วยใจ ด้วยความรู้สึก


ความก้าวหน้าของประเทศ

คงไม่ได้วัดกันด้วยสภาพทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว

แต่ยังมีวัฒนธรรมของสังคม

ที่จะช่วยชี้วัดความน่ายกย่องด้านจิตวิญญาณ.......

จิตวิญญาณอันสูงส่งของมวลมนุษยชาตินั้นๆ


ขจรศักดิ์  แปลและเรียบเรียง

Cr. FB ภูษิต ไล้ทอง


https://www.facebook.com/344628519049864/posts/1039942982851744/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น