วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2563

..แค่สัญญา..


สมัยก่อนมีนักวิชาการคนหนึ่ง ชอบอ่านหนังสือมาก เป็นผู้รู้ เป็นนักปราชญ์ ได้รับเชิญไปอภิปรายและบรรยายในที่ต่างๆ เขาพยายามหาคำสอนเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา ได้เท่าไรก็ยังรู้สึกว่า...มันยังไม่ใช่...มันจะต้องมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่านี้อีก...ที่เขารู้สึกอย่างนั้น ไม่ใช่เพราะคำสอนที่ได้อ่าน ได้ศึกษาแล้วยังไม่ลึกซึ้ง แต่เพราะตัวเขาเองยังเข้าไม่ถึงคำสอนนั้น และถ้าเอาแค่ระดับสัญญา ระดับความคิด มันย่อมไม่มีจุดอิ่ม

เมื่อเรากล่าวถึง “กาม” คนส่วนใหญ่จะนึกถึงกามราคะหรือความต้องการทางเพศเป็นหลัก นั่นเป็นกามระดับหยาบที่สุด การได้รับความสุขจากรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และธรรมารมณ์ ไม่ว่าจากตัวไหนก็เป็นกามทั้งนั้น กามจากความคิดก็มี ซึ่งบางทีมันลึกซึ้งและปล่อยยากกว่ากามสุขที่ได้จากรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสเสียอีก เวลาจิตเพลินไปกับความคิด ทฤษฎี ปรัชญา มันก็เหมือนกับเราเพลินกับอาหารการกิน

นักวิชาการคนนี้ก็เป็นแบบนี้ เมื่อเขาได้ข่าวว่ามีพระอาจารย์รูปหนึ่งที่บรรลุธรรม แต่มีข้อวัตรปฏิบัติแปลกๆ คืออยู่บนต้นไม้ ไม่ได้อยู่ในกุฏิหรือใต้ต้นไม้ ท่านทำกุฏิอยู่บนต้นไม้เลย การจะไปกราบท่านก็ยากแสนยาก นักวิชาการคนนี้คิดว่า นี่อาจจะเป็นปรัชญาชิ้นสุดท้ายที่จะทำให้เขาบรรลุได้ จึงเดินทางอย่างลำบากลำบนหลายเดือน ขึ้นเขาลงห้วยเข้าป่า ทรมานมาก สุดท้ายก็ไปถึงที่อยู่ของพระอาจารย์รูปนี้ เขาเข้าไปกราบที่ใต้ต้นไม้ และนิมนต์หลวงพ่อให้เทศน์ธรรมะที่สูงที่สุดที่หลวงพ่อพอจะถ่ายทอดได้ หลวงพ่อจึงสอนว่า...ให้ละบาปกรรมทั้งปวง บำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อม ชำระจิตใจ ของตนให้ขาวสะอาด...นักวิชาการคนนี้รู้สึกผิดหวังจนอดที่จะอุทานออกมาไม่ได้ว่า...คำสอนนี้ แม้แต่เด็กห้าขวบก็รู้แล้วครับ...ช่างไม่สมเกียรตินักปราชญ์อย่างเขา หลวงพ่อบอกว่า...ใช่...ถูกต้อง แม้แต่เด็กห้าขวบก็เคยได้ฟังคำสอนนี้ แต่คนอายุ ๕๐ ๖๐ ๗๐ ปี ก็ยังทำไม่ได้เลย...คือ นักปราชญ์คนนี้คิดว่า การบรรลุธรรมเหมือนเป็นจิ๊กซอว์ที่จะต้องเอาชิ้นส่วนต่างๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน แต่จิ๊กซอว์มันไม่จบเสียทีและอันนี้เรียกว่าเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย ซึ่งกลับกลายว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่เป็นเรื่องที่เขามองข้าม เขาประมาท คิดว่าฉันเป็นนักปราชญ์ อ่านหนังสือ อ่านคัมภีร์มากมาย มีความรู้บาลีสันสกฤตทุกอย่าง แต่ที่จริงแล้ว ในภาคปฏิบัติ สิ่งที่ลึกซึ้ง ก็คือสิ่งที่เรายังทำไม่ได้ เช่น ถ้าหากว่าเรายังรักษาศีลห้าไม่ได้ ศีลห้าก็เป็นเรื่องลึกซึ้งสำหรับเรา นี่แสดงว่าเรายังไม่เข้าใจ เพราะถ้าเราเข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรมแล้ว ไม่รักษาศีลห้าไม่ได้ คนที่ไม่รักษาศีลห้าแสดงว่าแม้แต่ความเข้าใจพื้นๆ เรื่องกฎแห่งกรรมก็ยังไม่มี เพราะฉะนั้น กฎแห่งกรรมระดับนี้ก็ยังเป็นเรื่องลึกซึ้งสำหรับเขา

พระอาจารย์ชยสาโร
*******
Cr.https://www.facebook.com/318196051622421/posts/2539373206171350/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น