วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เยี่ยมบ้านเกิดนายขนมต้ม




                   ศาลปู่ขนมต้ม ตั้งอยู่ที่หน้าโรงเรียนวัดจุฬามณี บางบาล อยุธยา

           ห่างจากทุ่งมะขามหย่อง ประมาณ ๖ กม.ตามเส้นทางหลวงหมายเลข ๓๔๗ ขึ้นทางเหนือแล้วเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข ๓๐๙ ไปทางอ.ป่าไมก ก็จะถึงทางแยกทางซ้ายมือเข้าวัดจุฬามณี ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของชุมชน"บ้านกุ่ม"บ้านเกิดของนายขนมต้ม   สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี 
           ตามประวัติที่เล่าต่อกันมามีว่า  นายขนมต้ม เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๒๙๓  ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ แห่งกรุงศรีอยุธยา ที่บ้านกุ่ม  มีพี่สาวคนหนี่งชื่อ เอื้อย นายขนมต้มต้องมาอยู่วัดปีกกาหรือวัดจุฬามณี  ตั้งแต่อายุ ๑๐ ขวบ เนื่องจากพ่อ แม่ และพี่สาวถูกพม่าฆ่าตายหมด เริ่มฝึกชกมวยมาตั้งแต่เป็นหนุ่ม พอเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง พ.ศ.๒๓๑๐ ก็ถูกพม่ากวาดต้อนไปพม่า

รูปปั้นนายขนมต้มภายในศาล

            ในพงศาวดารมีข้อความตอนหนึ่งว่า..."เมื่อพระเจ้ามังระโปรดให้ปฏิสังขรณ์และก่อเสริมพระเจดีย์ชเวดากองในเมืองย่างกุ้งเป็นการใหญ่นั้น ครั้นงานสำเร็จลงในปี พ.ศ.2317 พอถึงวันฤกษ์งามยามดี คือวันที่ 17 มีนาคม จึงโปรดให้ทำพิธียกฉัตรใหญ่ขึ้นไว้บนยอดเป็นปฐมฤกษ์ แล้วได้ทรงเปิดงานมหกรรมฉลองอย่างมโหฬาร ขุนนางพม่ากราบทูลว่า "นักมวยไทยมีฝีมือดียิ่งนัก" พระเจ้ามังระจึงตรัสสั่งให้เอาตัวนายขนมต้ม นักมวยดีมีฝีมือตั้งแต่ครั้งกรุงเก่ามาถวาย พระเจ้ามังระได้ให้จัดมวยพม่าเข้ามาเปรียบ
กับนายขนมต้ม โดยจัดให้ชกต่อหน้าพระที่นั่ง ปรากฏว่านายขนมต้มชกพม่าไม่ทันถึงยกก็แพ้ถึงเก้าคนสิบคนก็สู้ไม่ได้ พระเจ้ามังระทอดพระเนตรยกพระหัตถ์ตบพระอุระ

ตรัสสรรเสริญนายขนมต้มว่า “คนไทยนี้มีพิษสงรอบตัว แม้มือเปล่ายังเอาชนะคนได้ถึงเก้าคนสิบคน นี่หากว่ามีเจ้านายดี มีความสามัคคีกัน ไม่ขัดขากันเอง และไม่เห็นแก่

ความสุขส่วนตัว และโคตรตระกูลแล้ว ไฉนเลยกรุงศรีอยุธยาจะเสียทีแก่ข้าศึก ดั่งที่เห็นอยู่ทุกวันนี้.."




อนุสาวรีย์นายขนมต้มที่สร้างขึ้นใหม่ใกล้ๆ กับศาลเดิม ที่หน้าโรงเรียนวัดจุฬามณี

(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)




แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าวัดจุฬามณี


              ลูกหลานนายขนมต้ม"สายเลือดนักสู้"แห่งบ้านกุ่ม บางบาล ปัจจุบันยังถือเป็นชุมชน"นักสู้แห่งสายน้ำ"หากเอ่ยชื่อเรือยาว "เรือศรีอยุธยา" และ"เรือศรีสุริโยทัย" เป็นที่รู้จักของสนามแข่งเรือยาวทุกภาคของประเทศไทย   เรือยาวทั้งสองลำเป็นของวัดจุฬามณี ชุมชนถิ่นกำเนิดของนายขนมต้น  
               หากท่านมีโอกาศไปอยุธยาอย่าลืมแวะไปเยี่ยมบ้านเกิดนายขนมต้มนะครับ..ถ้าจะเข้าไปไหว้พระทำบุญ ที่วัดจุฬามณีด้วย ก็จะเป็นสิริมงคลเป็นอย่างยิ่ง...ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ...
.................................
หากยังพอมีเวลาก็ขอแนะนำไปไหว้  ศาลเจ้าแม่ช่อมะขาม  "คู่ใจ" นายขนมต้ม ที่อ.ป่าโมก อ่างทองด้วยนะครับ  ศาลเจ้าแม่ช่อมะขาม อยู่ที่วัดป่าโมกวรวิหาร  ครับ



ขอบคุณมากครับ


วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ทุ่งมะขามหย่อง

             สองวันมานี้ญาติสนิทมิตรสหายหลายท่านถามข่าวว่าไปรับเสด็จในหลวงที่ทุ่งมะขามหย่องหรือเปล่า...ก็เลยขออนุญาตบันทึกความรู้สึกที่ได้มีโอกาสไปพบเห็นมาเมื่อ  ๒๕ พ.ค.๕๕...เนื่องจากผมอยู่ไม่ไกลจากทุ่งมะขามหย่อง  พอวันที่ ๒๔ พ.ค.๕๕ ก็เลยถือโอกาสขับรถเข้าไปดูสถานที่พร้อมกับสำรวจเส้นทางก่อนเพื่อความแน่ใจ.. ทั้งๆที่เมื่อวันแม่ปีที่แล้วผมก็เข้าไปสักการะพระราชาสาวรีย์สุริโยทัยมาครั้งหนึ่งแล้ว (http://navy09.blogspot.com/2011/08/blog-post_25.html)..เพราะกลัวจะพลาด...




        เช้าวันที่ ๒๕ พ.ค.ผมขับรถไปจอดไว้ที่ภูเขาทอง แล้วนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปที่ทุ่งมะขามหย่อง ผมไปถึงประมาณเก้าโมงเช้าครับ ปรากฏว่าบริเวณตั้งแต่ประตูทางเข้าตามเส้นทางเสด็จจนถึงพลับพลาที่ประทับมีประชาชนจับจองที่นั่งเต็มหมดแล้ว ก็จะเหลือพื้นที่ริมบึงซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดแสดง  แต่บริเวณนี้ก็สงวนไว้ให้เจ้าหน้าที่และผู้ร่วมแสดงจากอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดอยุธยา..เราเปลี่ยนสถานที่นั่งไปสามครั้ง..สุดท้ายเราก็ได้รับอนุญาตให้นั่งที่ริมบึงน้ำนี้ได้เมื่อเวลาประมาณเที่ยงวัน จากนี้ไปประมาณเจ็ดชั่วโมงผมไม่ได้ลุกจากที่นั่งไปใหนเลยจนกระทั่งพระองค์ท่านเสด็จกลับ..



            ช่วงเวลารอรับเสด็จนี้ทางผู้กำกับการแสดงแสงสีเสียง ได้ซักซ้อมชุดการแสดงขบวนช้างทรงและขบวนทหารกองเกียรติยศ ชุดเพลงเรือ ชุดแผ่นดินทอง ตลาดน้ำ..ทำให้ได้ภาพในช่วงที่ยังมีแสงสว่าง ดูสวยงามชัดเจนอีกแบบหนึ่ง ..ในเวลาแสดงจริงนั้นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว....ขณะที่นั่งรออยู่นี้ผมก็สังเกตสภาพอากาศไปด้วย เพราะทางการแจ้งเตือนว่าภาคกลางจะมีฝนตก ก็เตรียมร่มกันไปกันฝนและยังมีหมวกกับผ้าขาวม้าไปอีกผืนหนึ่ง..แต่ปรากฏว่าช่วงบ่ายอากาศค่อนข้างร้อนไม่มีเมฆฝนเลย  เอาผ้าขาวม้าคลุมหัวไว้ตอนมีการซักซ้อมแสดง(เกรงใจคนข้างหลังเขาอยากได้ภาพสวย ๆกลัวร่มจะไปบังกล้องครับ)..ประมาณห้าโมงเย็นครับลมแรงขึ้นเมฆฝนครึ้มทางทิศ ตะวันออกฟ้ามืด(ทราบภายหลังจากพี่สาวที่ อ.อุทัยบอกว่าฝนตกหนัก)   แต่ผมสังเกตว่าทิศทางลมที่พัดแรงนั้นเคลื่อนตัวขึ้นไปทางเหนือ ท้องฟ้าทางทิศใต้และทิศตะวันตกของทุ่งมะขามหย่องยังไม่มีเมฆฝนเลย...





            เวลาประมาณหกโมงเย็น เสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีก็ดังขึ้น ในหลวงเสด็จถึงทุ่งมะขามหย่องแล้วทุกคนยืนตรงพร้อมกับโบกธง  รถพระที่นั่งเคลื่อนที่อย่างช้าๆ ทุกท่านคงจะได้เห็นภาพที่ถ่ายทอดทางโทรทัศน์แล้วนะครับ..ช่วงนี้เริ่มมีลมจากทิศตะวันออกพัดแรงขึ้น   ขณะที่รถพระที่นั่งวิ่งวนออกมาจากราชานุสาวรีย์สุริโยทัยเพื่อไปพลับพลาที่ประทับนั้นมีละอองน้ำฝนพรมลงมาเล็กน้อยแล้วก็หายไป(ช่วงเวลานี้ฝนตกหนักทางทิศตะวันออกของทุ่งมะขามหย่องบริเวณ อ.อุทัย นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ)...พอพระองค์เสด็จถึงพลับพลาที่ประทับทอดพระเนตรชุดการแสดงต่าง ๆ  สภาพอากาศตอนนี้เย็นสบายไม่มีฝนจนกระทั่งจบการแสดง

                                                                             


       พอเสียงสรรเสริญพระบารมีดังขึ้นอีกครั้งประชาชนยืนตรงส่งเสด็จพระองค์  รถพระที่นั่งกำลังเคลื่อนออกจากบริเวณพลับพลาที่ประทับ...ช่วงเวลานี้ลมกระโชกแรงขึ้นคราวนี้มีฝนพรมลงมาอีกครั้งช่วงเวลาสั้นๆ  พอผมคิดว่าจะหยิบร่มขึ้นกางฝนก็หายไป..
       ผมเดินออกจากทุ่งมะขามหย่อมมาขึ้นรถตุ๊กเพื่อไปที่จอดรถที่ภูเขาทอง จากนั้นก็ขับรถผ่านเข้าไปในเกาะเมืองอยุธยามีฝนตกบ้างแต่ไม่มาก ไปส่งหลานชายที่ อ.อุทัย เห็นบนถนนมีน้ำฝนเปียกโชกอยู่...ฝนหายตกแล้ว...เรื่องราวรายละเอียดของ"ทุ่งมะขามหย่อง"เมื่อ ๒๕ พ.ค.๕๕ คนไทยทุกคนคงได้ชมทางโทรทัศน์แล้ว.."บารมีพระมากพ้น  รำพัน"....ครับ....



...........................

วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

พ่อของแผ่นดิน


เส้นทางสู่ทุ่งมะขามหย่อง ๒๔ พ.ค.๕๕












ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญ




วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

บางปะอิน


หอเหมมณเฑียรเทวราช
         ชวนไปเที่ยวบางปะอิน ใกล้ ๆ กรุงเทพ..การเดินทางสะดวกครับ..มีทั้งวังและวัดที่สวยงามมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของไทย...
เทวรูปพระเจ้าปราสาททอง


..สภาคารราชประยูร.. ร.๕ ทรงตั้งสำนักงานที่ดินกรุงเก่าเป็นแห่งแรกในประเทศไทย เรียกว่า หอทะเบียนกรุงเก่า


พระที่นั่งวโรภาษพิมาน ร.๕ ทรงใช้เป็นท้องพระโรงเสด็จฯออกว่าราชการ และเป็นสถานที่ประกอบพิธีพระราชทานโฉนดที่ดินฉบับแรกของประเทศไทย  ในรัชสมัย ร.๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดการพระราชพิธีอภิเษกสมรสพระราชทานแด่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในขณะทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา กับหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี สวัสดิวัฒน์


                                              พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์



                                            พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร




                                    พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร ถ่ายจากบนหอวิฑูรทัศนา  





หอวิฑูรทัศนา


          ประตูเทวราชครรไล  เป็นอาคารโค้งครึ่งวงกลมเป็นที่จ้ดนิทรรศการ รถม้าพระที่นั่ง





แพทรงบาตร ภายในเขตพระราชฐานชั้นใน


                                


สะพานตุ๊กตา

                                อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์


                                             อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์


ชมภาพเพิ่มเติมที่นี่  https://picasaweb.google.com/105654572951991109415/VGVWqG

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม....