วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช


(ศาลพระเจ้าตากสิน ที่พระราชวังเดิม ธนบุรี)
 ๒๘ ธันวาคม ๒๓๑๐  พระยาวชิรปราการ ( พระเจ้าตากสิน) ทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี
พระองค์ทรงครองราชย์เป็นเวลา ๑๕ ปี
ทรงสวรรคตเมื่อ พ.ศ.๒๓๒๕ สิริพระชนมายุได้ ๔๘ พรรษา
พระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระองค์ได้แก่การกู้เอกราชหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง
การสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี และทรงทำนุบำรุงบ้านเมือง
พร้อมทั้งอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่เมืองหลวง
ชาวไทยพร้อมใจกันขนานพระนามว่า "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช"

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ภาพในอดีต(๒๐)....


พ.ศ.๒๕๐๙..หน้า บก.รร.ชพ.ทร.(หลังเก่า ตึกรูปเพชร)

..................................!!???

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554

พาป้ากลับบ้าน...



..........ป้าเปรยเติบโตมากับท้องทุ่งท้องนา สายน้ำลำคลอง มีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร จนสุดท้ายของชีวิตก็จากไปอย่างสงบพร้อมกับสายน้ำที่หลากท่วมลุ่มเจ้าพระยา  สายน้ำที่ฉ่ำเย็นแม้จะสร้างความเสียหายให้กับผู้คน แต่ที่บ้านชายสิงห์  อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทุกปีน้ำก็ยังหลากทุ่งท่วมเป็นธรรมชาติของถิ่นนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันจนเป็นวิถีชีวิตของคนที่นี่  เพียงแต่ปีนี้น้ำมากกว่าเดิมทำให้ชีวิตไม่เป็นปกติเหมือนที่เคยอยู่เคยเป็น  จนทำให้ป้าเปรยต้องจากไกลไปจากบ้าน ป้าเปรยซึ่งเติบโตมากับสายน้ำและย่อมเข้าใจวิถีชีวิตนี้เป็นอย่างดี น้ำหลากมาก็ต้องหลากไปมีน้ำขึ้นก็ต้องมีน้ำลงไม่มีอะไรมั่นคงถาวร เหมือนชีวิตคนที่เกิดมาก็ต้องดับไปในที่สุด  ป้าเปรยก็ดุจเดียวกับสายน้ำแต่เป็นสายน้ำที่ให้ความฉ่ำเย็นหล่อเลี้ยงหลานๆ ให้พบแต่ความสุขดับความเดือดร้อนทุกข์ยากในสมัยเยาว์วัย จนในวันนี้ทุกคนเติบโตมีสัมมาอาชีพที่มั่งคง  และเมื่อสายน้ำนี้ก็ไหลจากไป  หลานๆ ทุกคนจะจดจำความฉ่ำเย็นนี้ไว้ในจิตใจตลอดไปไม่เสื่อมคลาย และด้วยบุญกุศลที่ป้าเปรยได้ทำมาชั่วชีวิต อีกทั้งที่หลานทุกคนได้ประกอบกรรมดีมา ขอให้สายน้ำที่หลากทุ่งชายเคืองนี้เปรียบประดุจแม่พระคงคา ได้นำพาป้าเปรยไปสู่สวรรค์ชั้นฟ้า สถิตอยู่ยังสัมปรายภพที่ดีด้วยเทอญ

                                                 ดาราวรรณ  สุภานันท์ 


จะพาป้ากลับบ้านหลังน้ำลด  http://navy09.blogspot.com/2011/10/blog-post_16.html


พี่ทองดีหลานสาวคนโตและน้อง ๆ พาป้ากลับมาที่บ้าน......
**************
๒๔ ธันวาคม ๕๔,๑๓๐๐ ลอยอังคาร กลางอ่าวดงตาล สัตหีบ..


*********


*********

*********

*********




วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เก็บมาฝาก(๙)...


(คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพใหญ่ขึ้น)
.....ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านครับ.....

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ภาพในอดีต(๑๙)...มาอีกแล้ว..ใครเ่อ่ย ?


ภาพนี้ประมาณปี ๒๕๑๒  มีสมาชิก นรจ.๐๙ อยู่  ๒  คน..
ทายซิมีใครบ้าง....

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เก็บมาฝาก(๖)...วันใหนวันดีบานคลี่พร้อมอยู่..

ขอเชิญ นรจ.รุ่น ๐๙ ร่วมงานสังสรรค์
"สานสัมพันธ์ ๔๗ ปี นาวี ๐๙ "
วันเสาร์ที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๖ 
ณ ร้าน ๓๓ ซีฟู้ด(Sound of the Sea)
ชายหาดกัปตันยุทธ หลังกองพันต่อสู้อากาศยานที่ ๑๒ 
บางพระ ชลบุรี




ในภาพ เมื่อมนุษย์กบเจอกับ อดีตมนุษย์กบทหารเรือเป็นผู้ประสบภัย จึง เป่านกหวีดเรือแสดงความเคารพทหารเรือเก่าท่านนี้ ตามประเพณีทหารเรือ นับเป็นการให้เกียรติอย่างสูง น่าปลื้มใจ ถึงเกษียณออกไปนานแค่ไหนก็ยังมีเลือดทหารเรืออยู่เสมอ แม้น้ำจะเสมอขอบหน้าต่าง ก็ยังติดธงราชนาวีเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจ.....
ภาพที่ไม่ต้องบรรยายใด ๆ
(ขอบคุณข้อมูลจาก คุณ เรารักทหารไทย ใน  Facebook)


วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ภาพในอดีต (๑๘)...ใครเ่อ่ย..


ภาพนี้ประมาณปี ๒๕๑๕ มีสมาชิก นรจ.๐๙ สองคนอยู่ในภาพ...
จำกันได้ใหมครับ..

วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ภาพในอดีต(๑๗)..ใครเ่อ่ย ?..


ภาพนี้ใครทำอะไร ที่ใหน เมื่อใร...ท่านใดทราบบ้าง..?
(คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพใหญ่ขึ้น)

วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

อาลัยเพื่อน นรจ.๐๙ ธวัชชัย ทองเจริญ




       เนื่องด้วยเพื่อนร่วมรุ่น นรจ.๐๙  ธวัชชัย ทองเจริญ ได้เสียชีวิตแล้ว  ขณะนี้ตั้งศพสวดพระอภิธรรมอยู่ที่วัดสุคันธาราม ใกล้กับโรงพักดุสิต กทม. วันที ๑๔ พย.๕๔ นรจ.รุ่น 09 จะเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรม  และกำหนดฌาปนกิจใน 15 พย.๕๔ เวลา ๑๖๐๐ น. (...ขอบคุณ วิจิตร  อิ่มใจ ผู้ส่งข่าว)

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เก็บมาฝาก...น้องโย..

น้องโย
View more presentations from taweesak supanan
(คลิกที่ X มุมขวาล่าง เพื่อดูภาพใหญ่ขึ้น)

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่าน

วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554

เล่าสู่กันฟัง(๕๘)...ขาประจำ..

   ประธานชลิตแจ้งข่าวว่า เนื่องจากวิกฤตน้ำท่วมขอเลื่อนพบปะในวันเสาร์ที่ ๑๕ ต.ค.๕๔ เวลา ๑๑๐๐-๑๖๐๐ น. ทีีสโมสรสัญญาบัตร นย ไปก่อน จะแจ้งวันเวลาสถานที่อีกครั้งหนึ่ง
                                                    ................................................ 

โดยปกติแล้ววันจันทร์ถึงศุกร์ผมมีภารกิจประจำอยู่ที่บ้านไม่ได้ไปใหนเพราะต้องดูแลป้า   จะพอมีเวลาว่างบ้างก็ในวันหยุดราชการ    เพราะน้อง ๆ เขาหยุดงานประจำกัน...แต่อาทิตย์นี้น้องสาวคนเล็กบอกว่ามีวันหยุดไม่ได้ไปทำงานสองวันตอนสิ้นเดือน     ก็เลยได้โอกาสแอบไปดู "ขาประจำ" ของรุ่นที่เขาจะพบกันทุกเดือนในวันสิ้นเดือน   สำหรับเดือนนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๓๐ กันยายน...สิ้นปี งบประมาณปี ๕๔  พอดี....
เดินทางสู่ "ที่เก่าเวลาเดิม"
( คลิกที่ภาพ เพื่อดูภาพใหญ่ขึ้น)
" ขาประจำ ๑ "


(ดูกันเอาเองนะครับ ใครเป็นใคร..)
" ขาประจำ ๒ "

เลขา (ยืน)  กับ เหรัญญิก (นั่ง) กำลังเคลียรค่าอาหารวันนี้....
คนละ ๗๕,๐๐๐X๓๐คน รวม ๒,๒๕๐,๐๐๐ กีบ...(ใช้เวลานานมาก....!!!??)
เพื่อน ๆ บอกว่านี่คือ อาหารประจำรุ่น..!!?? (ท่านเลขา ต้องสั่งมากินทุกครั้ง..)

 .....ก็คงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีนะครับ  บรรดา " ขาประจำ "...ผมวาสนาน้อยเดือนนี้มีโอกาสไป.. แต่พลาดไม่ได้พบกับท่านประธานชลิต...ท่านติดงานสำคัญ ...ส่วนอีกท่านหนึ่งประธานรุ่น นรจ.สส. ส่งSMS มาบอกว่าป่วย เนื่องจากเพ่งกลับจากการเดินทางไปเยี่ยมน้ำท่วมทางอีสานมาร่วมพบปะไม่ได้...ผลจากการพบปะครั้งมีข่าวสารเบื้องต้นว่า  จะมีงานเลี้ยงรุ่น นรจ.๐๙  ในวันเสาร์ที่ ๓๑  มีนาคม  ๕๕  ณ " ที่เก่าเวลาเดิม "( คงจะต้องรอประกาศเป็นทางการอีกครั้งครับ..)
      ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ..
***ฝากประชาสัมพันธ์ให้ "ขาประจำ" ทราบเดือนหน้าตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๘ ตุลาคม ๕๔ "เหมือนเคย" ครับ

วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

เล่าสู่กันฟัง(๕๗)...น้ำท่วม..

๕ ตุลาคม ๒๕๖๗




เปรียบเทียบระดีบน้ำ ปี ๕๔ (ภาพล่าง) กับ ปี ๖๗ (ภาพบน)



ตุลาคม ๕๔ น้ำขึ้นถึงระดับใต้คานบ้านหลังใหญ่(กำลังก่อสร้าง)
บ้านทรงไทยท่วมพื้นบ้าน


**********

๑๔ ต.ค.๕๔ ระดับน้ำสูงจากพื้นบ้าน ประมาณ ๕๕ ซม. สูงเกือบถึงขอบหน้าต่างบ้าน
๑๓ ต.ค.๕๔ วันนี้ระดับน้ำสูงขึ้นอีกประมาณ ๑ ซม.
๑๒ ต.ค.๕๔  ระดับน้ำเริ่มจะทรงตัว ๒๔ ชม.ที่ผ่านมา น้ำสูงขึ้นประมาณ ๕ ซม.น้ำท่วมสูงจากพื้นประมาณ ๔๕ ซม.
๑๑ ต.ค.๕๔ ระดับน้ำสูงจากพื้นบ้านประมาณ  ๔๐ ซม.


๗ ต.ค.๕๔ สุดท้ายประตูน้ำวัดกระสังข์ ก็กั้นไม่อยู่ต้องเปิดให้น้ำล้นเข้าคลองข้าวเม่า
และ" สวนอุตสาหกรรมโรจนะก็จมน้ำในเวลาต่อมา....."


ปี ๕๔ น้ำมากกว่าปี ๓๘


ภาพที่บ้านอุทัย อยุธยา เมื่อตอนเช้าวันนี้ ๖ ต.ค.๕๔  เหลือ ๖๐ ซม.จะถึงพื้นบ้าน


ระดับน้ำหน้าประตูน้ำวัดกระสังข์ เมื่อ ๐๕๑๕๓๐ ต.ค.๕๔ ถึงแนวกระสอบทรายแล้ว
(คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพใหญ่ขึ้น)


คลองอุทัย
(คลิกที่แผนที่เพื่อดูภาพขนาดใหญ่)
จ.พระนครศรีอยุธยา ได้สร้างทำนบกั้นน้ำที่ปากคลองกระมังและปากคลองหันตรา เพื่อกั้นน้ำจากแม่น้ำป่าสักไม่ให้เข้าไปในคลองอุทัย


ศูนย์ป้องกันน้ำท่วมที่วัดกระสังข์ ต.ธนู อ.อุทัย จ.อยุธยา


ประตูน้ำวัดกระสังข์ ต.ธนู อ.อุทัย จ.อยุธยา สูบน้ำออกจากคลองอุทัย
เพื่อป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่..เป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ
๑๙ กันยายน ๒๕๕๔



ถ่ายเมื่อ ๑๕ ก.ย.๕๔ เวลา ๑๕๐๐น.

      ช่วงนี้มีญาติสนิทมิตรสหายโทรมาถามข่าวน้ำท่วมที่บ้านบ่อย ๆ บอกว่าเห็นข่าวออกทางทีวีว่า อยุธยาน้ำท่วมหนัก  บ้านเราอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา มีถนนสายเอเซีย และทางรถไฟช่วยกั้นไม่ให้น้ำที่ล้นจากแม่น้ำป่าสักเข้ามา นอกจากนี้ยังมีประตูน้ำที่วัดกระสังข์ ที่จะช่วยควบคุมปริมาณของน้ำในคลองอุทัย ไม่ให้มีระดับสูงมากจนเกิดอันตรายต่อบ้านเรือนริมคลอง   ปัจจุบัน อ.อุทัย ถือได้ว่าเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญเพราะเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ 
      โดยปกติแล้วบ้านเราจะมี"หน้าน้ำ"ประมาณ ๓ เดือน ช่วงทำนาน้ำจะเข้าทุ่ง  น้ำจะเข้าท่วมใต้ถุนบ้าน ก็จะใช้เรือพาย พอลอยกระทงแล้ว  น้ำก็ลดลงเป็นปกติ  ....ปีที่น้ำท่วมมากจนเกือบจะถึงพื้นบ้านคือปี พ.ศ.๒๕๓๘  เมื่อปีที่แล้วก็ท่วมตามปกติ สำหรับปีนี้ "หน้าน้ำ" มาเร็ว น้ำเริ่มเข้าใต้ถุนบ้านตั้งแต่ปลายเดือน สิงหาคม ๕๔ แล้ว... ขณะนี้ระดับน้ำท่วมเกือบจะเท่ากับปีที่พ.ศ.๒๕๕๓ แล้ว  ก็คงจะต้องเฝ้าดูระดับน้ำต่อไป...หวังว่าคงจะไม่เป็นเหมือนปี ๓๘ นะครับ...


      โดยปกติแถวบ้านเราจะปลูกบ้านใต้ถุนสูง เพราะมี"หน้าน้ำ" พอ"หน้าแล้ง"ก็ใช้เป็น"คอกควาย"

         ขอบคุณทุกท่านที่ห่วงใยเรื่องน้ำท่วมครับ

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

เล่าสู่กันฟัง(๕๖)...ทุ่งภูเขาทอง..






         เมื่อวันแม่หลังจากได้ไปสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จสุริโยทัย ที่ทุ่งมะขามหย่องแล้วก็ขับรถกลับบ้านซึ่งจะต้องผ่านเข้าไปในเกาะเมืองอีกครั้งหนึ่ง เส้นทางนี้จะผ่านทุ่งภูเขาทองซึ่งนับว่าเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญเป็นสมรภูมิที่บรรพบุรุษของเราต้องเสียชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดินดำรงไว้ซึ่งความเป็นไท เราจะมองเห็นเจดีย์ภูเขาทองเด่นชัดมาก ใกล้กับภูเขาทอง จะมีพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชสวยเด่นสง่างามมาก เมื่อสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช แล้วก็ควรไปสักการะสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชอีก คือ วัดใหญ่ชัยมงคล วัดวรเชษฐาราม ในเกาะเมือง และวัดวรเชษฐ์ นอกเกาะเมือง....สถานที่ที่กล่าวมาแล้วอยู่ในเขต อ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางสะดวกมากครับ....


พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

หมายเหตุ  ตามข้อมูลของนักวิชาการส่วนหนึ่ง สันนิษฐานว่า บริเวณเจดีย์ภูเขาทองนี้คือ สถานที่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะต่อพระมหาอุปราชของพม่า..






วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เก็บมาฝาก(๓)

เก็บมาฝาก(3)
(คลิกที่ X มุมขวาล่างเพื่อดูภาพขยาย)
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ...

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เล่าสู่กันฟัง(๕๕)...ความเศร้าของสงคราม..



..เมื่อวันแม่ที่ผ่านมา หลังจากทำบุญคล้ายวันที่แม่เสียชีวิตแล้ว ถือโอกาสไปสักการะ"แม่ของแผ่นดิน"บ้านเกิด..นครประวัติศาสตร์..พระนครศรีอยุธยา..



..ขอขอบคุณ บทเพลง ความเศร้าของสงคราม ขับร้องโดย ธีรนัยน์ ณ หนองคาย...

วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เล่าสู่กันฟัง(๕๔)..ฉันจะบิน...

...เขาไปกันหมดแล้ว...

หลังจากเจ้าตัวพี่ปีกกล้าขาแข็งบินจากรังไปแล้วเมื่อวานซืน...วันนี้ก็ถึงเวลาเจ้าน้องคนเล็กที่จะต้องจากรังไปเช่นเดียวกัน...


ขอบคุณที่เข้ามาให้กำลังใจเจ้านกน้อยครับ..