วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560

อฐิษฐาน


ถาม  เวลาทำบุญแล้วต้องอธิษฐานจิตหรือไม่
                     
ตอบ เวลาทำบุญทำทานไม่ว่าจะอธิษฐาน
หรือว่าไม่อธิษฐานก็ตาม บุญย่อมส่งผลอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ย่อมส่งผลแน่นอน
         
มีท่านอาจารย์ผู้รู้เคยกล่าวไว้ว่า

อธิษฐาน คือ การตั้งจิตเจตนาขึ้นมาในใจ
โดยอาศัยบุญมาช่วยสนับสนุน ช่วยให้เกิดความสำเร็จขึ้นมา

เช่น จะสร้างบ้านสักหลังหนึ่ง
คนมีปัญญา มีความรู้ จะเขียนแบบบ้านจะสร้าง
เป็นแบบพิมพ์เขียวขึ้นมาก่อน
 หลังจากนั้นก็แก้ไขแล้วแก้ไขอีก
จนกระทั่งได้แบบที่ถูกใจ
จึงสร้างจริง เมื่อได้แบบบ้านแล้ว เตรียมงบประมาณ
และไปหาช่างมาสร้างบ้านตามแบบที่ได้เตรียมเอาไว้
ใช้เวลาในการก่อสร้างไม่มาก วัสดุที่ใช้ก็ไม่เสียหาย
ไม่เปลืองงบประมาณ กำหนดเวลาได้ชัดเจน

คนบางคน คนไม่มีปัญญา ไม่มีความรู้
ไม่ได้เขียนแบบบ้านที่จะสร้างออกมาก่อน
แค่นึกๆ อยู่ในใจก็ลงมือสร้างเลย
ปรากฏว่ากว่าจะสร้างบ้างเสร็จ ต้องสร้างไป
รื้อไป ปรับไป เปลี่ยนไป อยู่ตลอดเวลา
ทำให้เสียเวลา แล้วก็เปลืองงบประมาณด้วย

เหมือนกัน ในการทำความดี
ทาน ศีล ภาวนา อ่อนน้อม ขยัน ฟังธรรม แสดงธรรม
เห็นถูกต้องตามจริง มีปัญญา ศึกษาธรรมะ สมาถะ วิปัสสนา
หรือความดีอื่นๆก็ตามไม่ว่าจะอธิษฐาน หรือว่าไม่อธิษฐานก็ตาม  บุญส่งผลอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว

เหมือนกับการปลูกต้นไม้ เช่น
เมื่อปลูกต้นกล้วยลงไป แล้วรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย
ถึงเวลาต้นกล้วยนั้นก็จะออกใบ ออกปลี
แล้วก็กลายเป็นผลให้เรากินในที่สุด
ในการทำความดีต่างๆ ก็เหมือนกัน
เมื่อเราปลูกพืชแห่งความดีลงไปแล้ว
ถึงเวลาผลแห่งความดีก็จะออกมา
แต่ว่าถ้าเราไม่ได้อธิษฐานจิตไว้ให้ดี
พอบุญส่งผล บางทีบุญที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ไปต่อบุญ
แต่ไปต่อบาปเข้าก็ได้

เช่น เคยทำทานเอาไว้ ถึงคราวบุญส่งผล
ทำให้กลายเป็นคนรวยขึ้นมา
ซึ่งอาจจะรวยในชาตินี้ หรือว่าชาติไหนๆ ก็ตาม
แต่เนื่องจากไม่ได้วางแผนเอาไว้ว่าจะใช้เงินอย่างไร
พอดีมีเพื่อนมาชวนไปดื่มเหล้า หรือมาชวนไปเล่นไพ่
เราก็ไปกับเขาทันทีเพราะฉะนั้น เงินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรง
ด้วยหยาดเหงื่อของเราเองกลับกลายมาเป็นอุปกรณ์
พาเราลงนรก  เพราะว่าเราใช้เงินไม่เป็น

ส่วนใครที่ทำบุญแล้วอธิฐานจิต เอาบุญไปต่อบุญ
คนๆ นั้นย่อมมีโอกาสที่จะเจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป
การให้ผลของบุญในชาติปัจจุบัน ถ้าทำบุญถูกเนื้อนาบุญเต็มที่
เช่น ทำบุญกับพระอรหันต์หรือว่าทำบุญกับพระภิกษุผู้ทรงศีลทรงธรรม บุญนั้นก็สามารถออกผลได้ในปัจจุบันชาตินี้
อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ว่าถ้าทำไม่ค่อยถูกเนื้อนาบุญ
แล้วใจของเราเองก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจนัก
หรือทำบุญไม่ค่อยจะถูกวิธีสักเท่าไร
ผลบุญแม้จะออกมาในชาตินี้เหมือนกัน
แต่ว่าไม่ค่อยจะเต็มที่เท่าที่ควร จนบางครั้งทำให้เรารู้สึกว่า
ทำไมบุญไม่ส่งผลสักที ถ้าจะต้องไปรอผลบุญในชาติหน้าเสียแล้ว
ซึ่งความจริงบุญส่งผลตั้งแต่วินาทีแรก
ที่เราทำบุญนั่นแหละ เพียงแต่ว่าจะมากหรือน้อยเท่านั้น

เช่น การปลูกกล้วยอีกเหมือนกัน
เราปลูกกล้วยวันนี้ สิ่งแรกที่ได้รับในขณะนั้นก็คือ
ได้ความชื่นใจว่าฉันปลูกกล้วยถูกต้องตามฤดูกาลแล้ว
ครั้นรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย ไปเรื่อยๆ
ผลก็จะเกิดขึ้นมาตามลำดับ
ตั้งแต่ได้ใบตองมาห่อขนม ได้ปลีกล้วยมาจิ้มน้ำพริก
จนกระทั่งได้ผลกล้วยมากินยังไม่หมด
ถึงเวลาแม้กล้วยต้นนี้จะตายไป
ก็ยังมีหน่อใหม่แตกออกมาอีก
และหน่อใหม่ที่แตกออกมานี้
 ก็จะให้ผลเป็นทอดๆ ต่อไป

การทำบุญก็เหมือนกัน ทำบุญในชาตินี้
บุญก็ส่งผลตั้งแต่ชาตินี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะอธิษฐาน
หรือไม่ได้อธิษฐานก็ตาม
ยิ่งกว่านั้นผลบุญยังตามข้ามภพข้ามชาติต่อไปได้อีกด้วย
ตามไปจนกว่ากำลังบุญที่ทำไว้จะหมดนั่นแหละ

หลักในการอธิษฐาน
จะอธิษฐานอะไรก็อธิษฐานไปเถอะ
เช่น ด้วยบุญที่ข้าพเจ้าทำดีแล้วนี้
ไม่ว่าบุญจากการทำทาน

รักษาศีล ภาวนาก็ตาม

๑. ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ที่บริสุทธิ์ด้วย กาย วาจา ใจ
๒. ตราบใดที่ข้าพเจ้ายังต้องเวียนว่ายตายเกิด ขอให้เกิดในที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง
๓. ขอให้ข้าพเจ้าขยันที่จะทำทาน รักษาศีล ทำสมาธิเจริญภาวนาให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
๔. ขอให้ข้าพเจ้ามีโภคทรัพย์ อริยทรัพย์ สมบูรณ์พร้อม
๕. เดินทางไปที่ใดขอให้เป็นที่ต้อนรับของมนุษย์และเทวา
๖. ขอให้ข้าพเจ้าเกิดในครอบครัวสัมมาทิฐิ และมีเพื่อนเป็นกัลยาณมิตร  เป็นต้น
*******
cr.จากไลน์ ภูริทัตตา สามเณรี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น