วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แอ่วเมืองเหนือ(๔)


...หลังจากแวะพักทานข้าวกลางวันกันที่กาแลเชิงดอย เราก็มุ่งหน้าไป อ.แม่ริม  จุดหมายปลายทางคือ พระตำหนักดาราภิรมย์ ครับ...พระตำหนักดาราภิรมย์ สร้างขึ้นหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ทรงย้ายกลับมาประทับที่เชียงใหม่หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต เจ้าดารารัศมีทรงใช้พระตำหนักหลังนี้ปฏิบัติพระกรณียกิจอันเป็นคุณูปการทั้งทางด้านการเกษตร และศิลปวัฒนธรรม อาทิ ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ทรงฟื้นฟูศิลปหัตถกรรมล้านนาให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาของชาวเหนือ ทรงสร้างสวนทดลองการเกษตรชื่อ “สวนเจ้าสบาย” เนื่องจากทรงสนพระทัยในการเกษตรและทรงหวังที่จะช่วยการกสิกรรมของภาคเหนือ ทรงทดลองปลูกดอกกุหลาบพันธุ์ใหม่ ๆ ที่ทรงได้มาจากสมาคมกุหลาบแห่งอังกฤษที่ทรงเป็นสมาชิก และพันธุ์ที่โปรดที่สุดเป็นดอกกุหลาบดอกใหญ่สีชมพู กลิ่นหอมเย็น จึงทรงตั้งชื่อถวายเป็นพระบรมราชานุสรณ์แด่พระบรมราชสวามีว่า “จุฬาลงกรณ์” เจ้าดารารัศมีเป็นเจ้าจอมที่เป็นที่โปรดปรานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมากองค์หนึ่ง เพราะนอกจากจะทรงมีพระอัธยาศัยอันงดงามแล้ว ยังทรงเป็นผู้เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างพระบรมราชวงศ์จักรีกับดินแดนล้านนา ซึ่งทำให้สถานการณ์ทางการเมืองแปรเปลี่ยนไปในทางที่ดียังประโยชน์แก่อาณาจักรสยามเป็นอย่างยิ่ง ..(ข้อมูลจากเอกสารแจกผู้เข้าพิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์) 

....ทางเข้าถนนค่อนข้างแคบต้องสังเกตหน่อยนะครับ ...

                             ..........

.......ทางพิพิธภัณฑ์ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพภายในของชั้นบนพระตำหนัก ฯ...

.......สำหรับภาพภายในทั้งหมดนี้มาจาก http://www.facebook.com/media/set/?set=a.184404728245164.43038.184371251581845&type=1

..กุหลาบดอกใหญ่ สีชมพู กลิ่นหอมเย็น " จุฬาลงกรณ์ "...

..พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้สถาปนาพระอิสริยยศเจ้าดารารัศมีจากเจ้าจอมมารดาขึ้นเป็นพระราชชายาเจ้าดารารัศมี เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต พระราชชายา ฯ ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเสด็จกลับนครเชียงใหม่ ทรงดำรงค์พระชนม์อย่างสงบสุข ณ พระตำหนักดาราภิรมย์อยู่หลายปี จนสิ้นพระชนม์ เมื่อ  ๙  ธันวาคม ๒๔๗๖ ณ คุ้มรินแก้ว รวมสิริพระชันษาได้ ๖๐ ปี พระอัฐิส่วนหนึ่งบรรจุไว้ที่พระกู่วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทรงสร้างขึ้นด้วยพระองค์เอง อีกส่วนหนึ่งอัญเชิญไปบรรจุไว้ ณ สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม.....

   .....เราใช้เวลาชื่นชมความความงามของพระตำหนักและเรื่องราวในอดีตที่น่าประทับใจของขัตติยนารีแห่งดินแดนล้านนา  จนถึงประมาณสี่โมงเย็น จึงได้เดินทางกลับเพื่อมาพบกับกัลยาณมิตรแห่งโกทูโนสองท่านซึ่งนัดหมายไว้ว่าจะพาไปไหว้พระที่วัดพร้อมกับชมสีสันของถนนคนเดินยามค่ำในเชียงใหม่...

               ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้าอ่านครับ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น