วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554

เล่าสู่กันฟัง(๕๘)...ขาประจำ..

   ประธานชลิตแจ้งข่าวว่า เนื่องจากวิกฤตน้ำท่วมขอเลื่อนพบปะในวันเสาร์ที่ ๑๕ ต.ค.๕๔ เวลา ๑๑๐๐-๑๖๐๐ น. ทีีสโมสรสัญญาบัตร นย ไปก่อน จะแจ้งวันเวลาสถานที่อีกครั้งหนึ่ง
                                                    ................................................ 

โดยปกติแล้ววันจันทร์ถึงศุกร์ผมมีภารกิจประจำอยู่ที่บ้านไม่ได้ไปใหนเพราะต้องดูแลป้า   จะพอมีเวลาว่างบ้างก็ในวันหยุดราชการ    เพราะน้อง ๆ เขาหยุดงานประจำกัน...แต่อาทิตย์นี้น้องสาวคนเล็กบอกว่ามีวันหยุดไม่ได้ไปทำงานสองวันตอนสิ้นเดือน     ก็เลยได้โอกาสแอบไปดู "ขาประจำ" ของรุ่นที่เขาจะพบกันทุกเดือนในวันสิ้นเดือน   สำหรับเดือนนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๓๐ กันยายน...สิ้นปี งบประมาณปี ๕๔  พอดี....
เดินทางสู่ "ที่เก่าเวลาเดิม"
( คลิกที่ภาพ เพื่อดูภาพใหญ่ขึ้น)
" ขาประจำ ๑ "


(ดูกันเอาเองนะครับ ใครเป็นใคร..)
" ขาประจำ ๒ "

เลขา (ยืน)  กับ เหรัญญิก (นั่ง) กำลังเคลียรค่าอาหารวันนี้....
คนละ ๗๕,๐๐๐X๓๐คน รวม ๒,๒๕๐,๐๐๐ กีบ...(ใช้เวลานานมาก....!!!??)
เพื่อน ๆ บอกว่านี่คือ อาหารประจำรุ่น..!!?? (ท่านเลขา ต้องสั่งมากินทุกครั้ง..)

 .....ก็คงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีนะครับ  บรรดา " ขาประจำ "...ผมวาสนาน้อยเดือนนี้มีโอกาสไป.. แต่พลาดไม่ได้พบกับท่านประธานชลิต...ท่านติดงานสำคัญ ...ส่วนอีกท่านหนึ่งประธานรุ่น นรจ.สส. ส่งSMS มาบอกว่าป่วย เนื่องจากเพ่งกลับจากการเดินทางไปเยี่ยมน้ำท่วมทางอีสานมาร่วมพบปะไม่ได้...ผลจากการพบปะครั้งมีข่าวสารเบื้องต้นว่า  จะมีงานเลี้ยงรุ่น นรจ.๐๙  ในวันเสาร์ที่ ๓๑  มีนาคม  ๕๕  ณ " ที่เก่าเวลาเดิม "( คงจะต้องรอประกาศเป็นทางการอีกครั้งครับ..)
      ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ..
***ฝากประชาสัมพันธ์ให้ "ขาประจำ" ทราบเดือนหน้าตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๘ ตุลาคม ๕๔ "เหมือนเคย" ครับ

วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

เล่าสู่กันฟัง(๕๗)...น้ำท่วม..

๕ ตุลาคม ๒๕๖๗




เปรียบเทียบระดีบน้ำ ปี ๕๔ (ภาพล่าง) กับ ปี ๖๗ (ภาพบน)



ตุลาคม ๕๔ น้ำขึ้นถึงระดับใต้คานบ้านหลังใหญ่(กำลังก่อสร้าง)
บ้านทรงไทยท่วมพื้นบ้าน


**********

๑๔ ต.ค.๕๔ ระดับน้ำสูงจากพื้นบ้าน ประมาณ ๕๕ ซม. สูงเกือบถึงขอบหน้าต่างบ้าน
๑๓ ต.ค.๕๔ วันนี้ระดับน้ำสูงขึ้นอีกประมาณ ๑ ซม.
๑๒ ต.ค.๕๔  ระดับน้ำเริ่มจะทรงตัว ๒๔ ชม.ที่ผ่านมา น้ำสูงขึ้นประมาณ ๕ ซม.น้ำท่วมสูงจากพื้นประมาณ ๔๕ ซม.
๑๑ ต.ค.๕๔ ระดับน้ำสูงจากพื้นบ้านประมาณ  ๔๐ ซม.


๗ ต.ค.๕๔ สุดท้ายประตูน้ำวัดกระสังข์ ก็กั้นไม่อยู่ต้องเปิดให้น้ำล้นเข้าคลองข้าวเม่า
และ" สวนอุตสาหกรรมโรจนะก็จมน้ำในเวลาต่อมา....."


ปี ๕๔ น้ำมากกว่าปี ๓๘


ภาพที่บ้านอุทัย อยุธยา เมื่อตอนเช้าวันนี้ ๖ ต.ค.๕๔  เหลือ ๖๐ ซม.จะถึงพื้นบ้าน


ระดับน้ำหน้าประตูน้ำวัดกระสังข์ เมื่อ ๐๕๑๕๓๐ ต.ค.๕๔ ถึงแนวกระสอบทรายแล้ว
(คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพใหญ่ขึ้น)


คลองอุทัย
(คลิกที่แผนที่เพื่อดูภาพขนาดใหญ่)
จ.พระนครศรีอยุธยา ได้สร้างทำนบกั้นน้ำที่ปากคลองกระมังและปากคลองหันตรา เพื่อกั้นน้ำจากแม่น้ำป่าสักไม่ให้เข้าไปในคลองอุทัย


ศูนย์ป้องกันน้ำท่วมที่วัดกระสังข์ ต.ธนู อ.อุทัย จ.อยุธยา


ประตูน้ำวัดกระสังข์ ต.ธนู อ.อุทัย จ.อยุธยา สูบน้ำออกจากคลองอุทัย
เพื่อป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่..เป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ
๑๙ กันยายน ๒๕๕๔



ถ่ายเมื่อ ๑๕ ก.ย.๕๔ เวลา ๑๕๐๐น.

      ช่วงนี้มีญาติสนิทมิตรสหายโทรมาถามข่าวน้ำท่วมที่บ้านบ่อย ๆ บอกว่าเห็นข่าวออกทางทีวีว่า อยุธยาน้ำท่วมหนัก  บ้านเราอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา มีถนนสายเอเซีย และทางรถไฟช่วยกั้นไม่ให้น้ำที่ล้นจากแม่น้ำป่าสักเข้ามา นอกจากนี้ยังมีประตูน้ำที่วัดกระสังข์ ที่จะช่วยควบคุมปริมาณของน้ำในคลองอุทัย ไม่ให้มีระดับสูงมากจนเกิดอันตรายต่อบ้านเรือนริมคลอง   ปัจจุบัน อ.อุทัย ถือได้ว่าเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญเพราะเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ 
      โดยปกติแล้วบ้านเราจะมี"หน้าน้ำ"ประมาณ ๓ เดือน ช่วงทำนาน้ำจะเข้าทุ่ง  น้ำจะเข้าท่วมใต้ถุนบ้าน ก็จะใช้เรือพาย พอลอยกระทงแล้ว  น้ำก็ลดลงเป็นปกติ  ....ปีที่น้ำท่วมมากจนเกือบจะถึงพื้นบ้านคือปี พ.ศ.๒๕๓๘  เมื่อปีที่แล้วก็ท่วมตามปกติ สำหรับปีนี้ "หน้าน้ำ" มาเร็ว น้ำเริ่มเข้าใต้ถุนบ้านตั้งแต่ปลายเดือน สิงหาคม ๕๔ แล้ว... ขณะนี้ระดับน้ำท่วมเกือบจะเท่ากับปีที่พ.ศ.๒๕๕๓ แล้ว  ก็คงจะต้องเฝ้าดูระดับน้ำต่อไป...หวังว่าคงจะไม่เป็นเหมือนปี ๓๘ นะครับ...


      โดยปกติแถวบ้านเราจะปลูกบ้านใต้ถุนสูง เพราะมี"หน้าน้ำ" พอ"หน้าแล้ง"ก็ใช้เป็น"คอกควาย"

         ขอบคุณทุกท่านที่ห่วงใยเรื่องน้ำท่วมครับ

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

เล่าสู่กันฟัง(๕๖)...ทุ่งภูเขาทอง..






         เมื่อวันแม่หลังจากได้ไปสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จสุริโยทัย ที่ทุ่งมะขามหย่องแล้วก็ขับรถกลับบ้านซึ่งจะต้องผ่านเข้าไปในเกาะเมืองอีกครั้งหนึ่ง เส้นทางนี้จะผ่านทุ่งภูเขาทองซึ่งนับว่าเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญเป็นสมรภูมิที่บรรพบุรุษของเราต้องเสียชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดินดำรงไว้ซึ่งความเป็นไท เราจะมองเห็นเจดีย์ภูเขาทองเด่นชัดมาก ใกล้กับภูเขาทอง จะมีพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชสวยเด่นสง่างามมาก เมื่อสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช แล้วก็ควรไปสักการะสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชอีก คือ วัดใหญ่ชัยมงคล วัดวรเชษฐาราม ในเกาะเมือง และวัดวรเชษฐ์ นอกเกาะเมือง....สถานที่ที่กล่าวมาแล้วอยู่ในเขต อ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางสะดวกมากครับ....


พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

หมายเหตุ  ตามข้อมูลของนักวิชาการส่วนหนึ่ง สันนิษฐานว่า บริเวณเจดีย์ภูเขาทองนี้คือ สถานที่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะต่อพระมหาอุปราชของพม่า..