วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557

เก็บมาฝาก...ใจ - ใจ - ใจ


 ..ธรรมะเป็นเรื่องของใจ..
  * ปฏิบัติธรรมเพื่ออะไร
            ปฏิบัติธรรมเพื่อให้ใจพ้นทุกข์ได้เท่านั้นเอง
   * ใจพ้นทุกข์นั้นเป็นอย่างไร
            ใจพ้นทุกข์ คือการทำใจให้ได้ต่อการได้ลาภ ยศ เกียรติ สรรเสริญ จิตก็ไม่หลงยินดี ไม่หลงในสิ่งที่ได้ ในขณะเดียวกันหากมีการสิ้นลาภ สิ้นยศ สิ้นเกียรติ สิ้นสรรเสริญ อีกทั้งมีคำตำหนินินนทา อันเรียกว่าโลกธรรม ๘ ใจก็ปกติ ไม่ตื่นเต้นหวั่นไหวแม้แต่นิดเดียวต่อการสูญสิ้น
             เมื่อใดทำใจไม่ได้ ก็ต้องทุกข์ใจอยู่ร่ำไป หากทำใจได้แล้วก็สบายใจ จริงไหม
  * ธรรมะแห่งพุทธะ ทั้งหมดอยู่ที่ความปล่อยวางของใจ 
     ธรรมะแห่งพุทธะ เป็นเรื่องของใจ
            หากกายไม่มีใจ เช่น ศพต่าง ๆมันก็ทำอะไรไม่ได้ เคลื่อนไหวไม่ได้ แข็งเหมือนท่อนไม้ ใครจะฝังจะเผา จะทำอะไร มันไม่ว่าอะไร ไม่ร้องว่าเจ็บว่าปวด ใช่ไหม เพราะมันคือ ธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ มารวมกันเป็นรูป ร่างกายขณะหนึ่ง แต่พอมี " ใจ " มาอาศัยอยู่ในนั้น มันก็เคลื่อนไหวได้ ทำอะไร ๆ ก็ได้ มันมีความเจ็บปวด สุข ทุกข์ ชอบ ไม่ชอบ ที่เป็นความรู้สึกเกิดขึ้นเรียกว่า " ธาตุรู้ "และธาตุรู้นี้แหละที่เรียกว่า " จิต " ก็ได้ " ใจ " ก็ได้ ตัวนี้แหละที่มันเกิดสุขและทุกข์ มันเกิดที่นี่แหละ จริงไหม
           เพราะกายแท้ ๆ ที่ไม่มีจิตใจอาศัยอยู่ เช่น ศพต่าง ๆ เป็นต้น ขณะนั้นมันไม่แสดงความทุกข์เจ็บปวดให้เห็นเลย ใช่ไหม จริงหรือไม่จริง
         * ทุกข์แท้ ๆ อยู่ตรงใหน เกิดตรงใหน
         * ทำไมมันถึงทุกข์
         * ค้นหาเอาเอง
         * ใจใครทุกข์ ก็หาที่ใจคนนั้น
         * ใจเราทุกข์ ก็หาที่ " ใจเรา " นั่นแหละ
          * จึงจะพ้นทุกข์ได้จริงในที่สุด
                                    ******
(จากหนังสือ " กตัญญูกตเวทิตาทาน " เพื่อนใจผู้ไฝ่ธรรม )

วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2557

นานไปเขาก็ลืม

(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)

"เกิดมาทั้งที มันก็ดีอยู่แต่เมื่อเป็น อีกสามร้อยปี 
ก็ไม่มีใครจะเห็น....นานไปเขาก็ลืม..." 
(เพลงเดินหน้า พระนิพนธ์ของ"เสด็จเตี่ย"กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์)
    ขออนุญาตไปต่อจากบันทึกครั้งที่แล้ว(คลิกที่นี่) มาสัตหีบเมื่อใดก็ต้องขึ้นไปไหว้ศาล"เสด็จเตี่ย"ที่แหลมปู่เจ้าในฐานทัพเรือสัตหีบ สถานที่ที่ผมเคยมาทำงานแต่ก่อนเรียกว่า สน.สส.(สถานีทหารเรือสัตหีบ) ใกล้ ๆ กับศาลยังเป็นที่ตั้งของกระโจมไฟเขตอุดมศักดิ์ ด้วย
*****
หลังจากลงมาจากเขาแหลมปู่เจ้า 
ก็แวะสักการะหลวงพ่ออี๋ ที่วัดสัตหีบ


อ่าวดงตาล ช่วงปิดเทอมมีเยาวชนมาฝึกเล่นเรือใบ
ที่สโมสรเรือใบของกองเรือยุทธการ 
นอกจากนี้แล้วฐานทัพเรือสัตหีบก็ยังมี
บริการลอยอังคารที่อ่าวดงตาลนี้ด้วยครับ

ผ่านจากอ่าวสัตหีบไปแล้ว ขับรถไปเรื่อย ๆ ทางช่องแสมสาร เดี๋ยวนี้ทหารเรือพัฒนาชายหาด
ที่ในพื้นที่รับผิดชอบให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ที่ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ครับ
"หาดน้ำหนาว"มีจุดชมวิวพร้อมสักการะศาลเสด็จเตี่ย

....พอออกจากหาดน้ำหนาวตามเส้นทางไปแสมสาร จุดหมายต่อไปคือ "พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาและทะเลไทย" 
ตั้งอยู่ที่ เขาหมาจอ ตรงข้ามกับเกาะแสมสาร

พิพิธภัณฑ์ฯเปิดทุกวัน ๐๙๐๐ - ๑๗๐๐ น.
ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
ค่าบำรุง นร.ไม่เกิน ม.๖ คนละ ๒๐ บาท
ผู้ใหญ่คนละ ๕๐ บาท
ผู้สูงอายุ นักบวช ทหารเรือในเครื่องแบบ เด็กความสูงไม่เกิน ๑๑๐ ซม.
และผู้มาสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ไม่ต้องเสียค่าบำรุง


ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

จากศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน มีทางเดินตามไหล่เขา
เพื่อชมพิพิธภัณฑ์ฯ อาคารจำนวน ๕ หลัง
      กองทัพเรือได้พิจารณาจัดตั้ง พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ที่ริมทะเลบริเวณเขาหมาจอ ตรงข้ามเกาะแสมสาร อันเนื่องมาจากพระราชดำริของ สมเด็จพระเทพรัตนสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ยังได้ฝากงานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลนี้ไว้ต่อกองทัพเรือ โดยมีพระราชกระแสต่อผู้บัญชาการทหารเรือ เมื่อ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๔ ว่า " ให้กองทัพเรือทำงานนี้เพื่อความมั่นคงของประเทศ "(จากเอกสารแผ่นพับแจกจ่ายของพิพิธภัณฑ์ฯ)

...เริ่มจากอาคารที่ ๑ เทิดพระเกียรติมหาราช อาคารที่ ๒ ปวงปราชญ์ร่วมรวมใจ แต่ละอาคารจะตั้งเรียงกันขึ้นไปตามไหล่เขา จนถึงอาคารที่ ๔  ส่วนอาคารที่ ๕ จะอยู่บนยอดเขา ห่างขึ้นไปอีกประมาณ ๔๐๐ เมตร ครับ


ทางเดินขึ้นสดวกสบาย

อาคาร ๕

จุดชมวิวบนยอดเขาที่เป็นที่ตั้งของอาคาร ๕

บนจุดชมวิวนี้จะมองเห็นบริเวณช่องแสมสาร  
เกาะแสมสาร และพื้นทะเลโดยรอบได้อย่างชัดเจน
หลังจากลงจากเขาแล้วก็เดินลงไปริมทะเลตาม
สะพานคอนกรีต เส้นทางศึกษาธรรมชาติชายฝั่งทะเล
ซึ่งจะเชื่อมต่อกับท่าเทียบเรือเขาหมาจอที่จะไปเกาะแสมสาร
เขาหมาจอมองจากท่าเทียบเรือ
จะเห็นอาคาร ๕ บนยอดเขา
กิจกรรมให้อาหารปลาที่ท่าเทียบเรือ
"คนรักปลา"
*****

เข้าท่า...กลับมาจากเกาะ


   ...คงจะต้องกลับไปที่แสมสารอีกสักครั้งเพื่อข้ามไปเที่ยวที่เกาะแสมสาร..และยังมีหาดทรายสวยงามอีกหลายหาดที่ยังไม่ได้ไปชม

...ของฝากจากแสมสารครับ...


" SEAL Thailand "

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ


วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557

สานสัมพันธ์ ๔๘ ปี นาวี ๐๙ (ต่อ)

(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)

ปี ๕๖  นี่ ท่านประธานรุ่น ไปจัดงานนอกพื้นที่สัตหีบ ครับ
จัดที่ชายทะเลบางพระ ศรีราชา



ได้แวะไปเยี่ยมเยียนทั้งที่ บางแสน และบางพระ



*****
คุณครูประสาร และคุณครูเฉลิมศักดิ์
ให้เกียรติมาร่วมงาน


ประธานชลิต ลงทุนทำเสื้อยืดแจกครับ..
เปลี่ยนเสื้อกันที่ลงทะเบียนนี่แหละ..!!!


นักร้องรับเชิญมาจากต่างประเทศ !!??  ครับ

*****
สำหรับปี ๕๗ เพิ่งจะผ่านไปไม่นานนี้
 จัดงานที่ อ่าวเตยงาม
อาคารอเนกประสงค์ นย

พอมีเวลาก็ถือโอกาสนี้เที่ยวชมสถานที่ของหาดเตยงาม


     ธง "ราชนาวิกโยธิน" ที่ก้อนหินใหญ่บนชายหาดกลางอ่าวเตยงาม ที่ในหลวงทรงปักไว้เมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๐๙ หลังจากที่ได้ทรงเรือใบ โอ.เค. ด้วยพระองค์เองพระองค์เดียว จากพระราชวังไกลกังวล หัวหิน ข้ามอ่าวไทยเป็นเวลา ๑๗ ชั่วโมงเศษ 


หาดเตยงามเป็นที่ตั้งของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
มีตำนานที่เกี่ยวกับเมือง สัตหีบ ด้วยครับ
ศาลพระภูมิ ประดิษฐาน เทพารักษ์
ศาลเจ้าที่ ศาลตากัน ที่ บก.หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
...."ศาลตากัน " นายกัน สุขรุ่ง  เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๐๙ หลังจากลาสิกขาแต่งานมีครอบครัวแล้ว ได้มาปลูกกระท่อมที่ใต้ต้นมะขามใหญ่(ปัจจุบันยังคงอยู่ที่สนามหญ้าหน้า บก.หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน)ที่อ่าวไก่เตี้ย หรืออ่าวตากัน ต่อมาทางกองทัพเรือต้องการพื้นที่ตากันจึงได้ย้ายออกไปอยู่ที่ตลาดสัตหีบ สิ้นอายุเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๑ รวมอายุได้ ๙๒ ปี ตั้งแค่นั้นมาอ่าวนี้จึงมีชื่อใหม่ว่า อ่าวนาวิกโยธิน..เรื่องราวของตากัน เกี่ยวข้องกับหลวงพ่ออี๋ และยังมีตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาอีกมากมาย..ครับ

อนุสาวรีย์ทหารนาวิกโยธิน
พิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน
(เสียดายที่ยังไม่ได้เข้าไปชมภายในพิพิธภัณฑ์)

ในวันหยุดจะมีผู้คนไปพักผ่อนที่หาดเตยงามกันมากนำอาหารเครื่องดื่มรับประทานกันแถวต้นเตยทะเลริมหาด
มีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวหลายอย่างครับ
*****
ปลูกประการัง

*****


*****

ระวัง!!แถวทหาร ด้วยนะครับ...

ไทรล้อมตาล ที่ นย.ก็มีเหมือนกัน...


" เมื่อ นย.เหยียบฝั่งพลัน เหตุคับขันจักคลี่คลาย "


ขอบคุณที่เข้ามาชมครับ...


วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2557

สานสัมพันธ์ ๔๘ ปี นาวี ๐๙ ...สัตหีบ...


(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)

...พวกเรา นรจ.๐๙ จัดงานพบปะสังสรรค์กันทุกปีครับ ส่วนใหญ่จัดงานในพื้นที่สัตหีบ เพราะเพื่อนส่วนมากทำงานและมีบ้านพักอาศัยอยู่ที่นี่  ผมเองช่วงทำงานก็ค่อนข้างห่างเหินไปพอสมควร แต่หลังจากหมดหน้าที่ทางราชการตั้งแต่ปี ๕๔  แล้วก็มาร่วมงานทุกครั้งครับ..
      งานเลี้ยงรุ่นจัดในปลายเดือนมีนาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาปิดเทอมพอดี น่าจะถือได้ว่าเป็นช่วงพักผ่อนของคุณปู่คุณตาทั้งหลายด้วยเหมือนกัน...สำหรับผมแล้วเป็นการรำลึกถึง " สัตหีบแห่งความหลัง " จริง ๆ..เนื่องจากห่างหายจากสัตหีบไปเกือบ ๔๐ ปี....ช่วงเช้าทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เพื่อนที่ล่วงลับไปแล้ว ช่วงค่ำก็เป็นเลี้ยงสังสรรค์..ก็ถือโอกาสที่มางานเลี้ยงรุ่นนี้แวะเวียนไปชมสถานที่เก่าที่ครั้งหนึ่งเคยมาอยู่ที่นี่...
..ปี ๕๔ ได้กลับมาเยี่ยมโรงเรียนเก่า...ชุมพลทหารเรือ
*****
วันนี้ไม่เห็น นรจ.นุ่งกางเกงขาสั้น ผ้าพันคอดำผูกเอว ครับ
น้อง ๆ กำลังฝึกพายเรือพระราชพิธี..
*****

ร้านค้าที่เคยไปกินขนมตอนเย็น ๆ
หาดทรายแก้ว แต่ก่อนยังค่อยเป็นรู้จักเท่าไรนัก
เผลอไปหน่อยเดียว เป็น "รุ่นคุณปู่" ไปแล้ว...
*****

..ปี ๕๕  ที่ รร.พลทหาร ปัจจุบันคือศูนย์ฝึกทหารใหม่..
เมื่อปี ๐๙ พวกเราต้องฝึกภาคสาธารณะ ๓ เดือนที่นี่ก่อนเข้าไปที่ รร.ชุมพลทหารเรือ
Drill Hall  ที่รายงานตัวครั้งแรกยังคงอยู่เหมือนเดิม
ปี ๐๙ อยู่ อาคาร ๖ กับ ครู พจอ.เพลิน วิวัฒนาภา
*****
ปีนี้จัดที่สโมสรสัญญาบัตร ศูนย์ฝึกทหารใหม่ บางเสร่
กลุ่มนี้"ซ่า" ที่สุดครับ 
*****
ขอบคุณที่เข้ามาชม  ยังมีต่อ ครับ (คลิกที่นี่)