ธรรมะอรุณสวัสดิ์...รับวันใหม่
.............................
จิตมันมีการรับอารมณ์อยู่เสมอ
แต่ว่ามันมีสภาพเป็นไปแตกต่างหลายประเภท
ก็ด้วยมีสิ่งเข้ามาผสม เรียกว่าเจตสิก
เจตสิกเป็นธรรมชาติที่เข้ามาผสม เข้ามาประกอบกับจิต
ถ้าอุปมาแล้ว จิตเหมือนกับน้ำสะอาด
เจตสิกก็เหมือนสีต่าง ๆ
เอาสีเขียวไปผสมน้ำ น้ำก็เขียวไปด้วย
เอาสีแดงไปผสม น้ำก็แดงไปด้วย
เพราะฉะนั้นเจตสิกที่เป็นฝ่ายอกุศล
เช่น มีราคะ โทสะ มานะ ทิฏฐิ อิจฉาริษยา เข้าไปผสมกับจิต
จิตก็แปรสภาพไปเป็นอย่างนั้น เป็นอกุศล
ถ้าเกิดเจตสิกฝ่ายดีเข้าไปผสมกับจิต
มีศรัทธา มีเมตตา มีความสงสาร พลอยยินดี
มีสติ สมาธิ เหล่านี้
จิตก็ดีงามไปด้วย
จึงอยู่ที่เครื่องผสมเหมือนกัน
จิตนี้จึงจัดเป็นประเภทใหญ่ ๆ คือ
จิตที่เป็นฝ่ายอกุศลอย่างหนึ่ง
จิตที่เป็นกุศลก็อย่างหนึ่ง
จิตที่เป็นวิบากอย่างหนึ่ง
จิตที่เป็นกิริยาอย่างหนึ่ง
จิตที่เป็นอกุศล
ก็คือจิตที่ไม่ดี จิตที่จะให้ผลเป็นความทุกข์
เช่น จิตที่เป็นไปในความโลภ
จิตที่เป็นไปในความโกรธ
จิตที่เป็นไปในความหลง
จิที่เป็นไปในมานะ ทิฏฐิ ฟุ้งซ่าน อิจฉาริษยา
เหล่านี้เป็นอกุศลที่จะนำมาซึ่งความทุกข์
ถ้าจิตที่เป็นฝ่ายกุศล
ก็คือจิตที่ประกอบด้วยเจตสิกฝ่ายกุศล
มีศรัทธา มีความละอายต่อบาป
มีความไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลงในนั้น
มีเจตนาในทางที่ดี
ก็ประกอบการกุศล
มีการให้ทาน รักษาศีล
ช่วยเหลือการงานที่ชอบที่ควร
เหล่านี้เพราะจิตที่เป็นกุศลเกิดขึ้น
ส่วนจิตที่เป็นวิบาก มันเป็นผล
อย่างเห็นภาพเป็นวิบาก
ได้ยินเสียงก็เป็นวิบาก
จิตได้กลิ่น ได้ลิ้มรส ได้สัมผัสทางกาย เป็นจิตวิบาก
แล้วแต่ว่าบุญส่งมาดี ก็ได้รับวิบากดี
ได้เห็นภาพดี ได้ฟังเสียงเพราะ
ได้กลิ่นหอม ได้ลิ้มรสอร่อย
ได้สัมผัสเครื่องสัมผัสที่ดี สบายกายขึ้นมา
ถ้าบาปส่งผล ก็เห็นภาพไม่ดี ฟังเสียงหนวกหูเสียงด่า
ได้กลิ่นเหม็น ได้ลิ้มรสไม่อร่อย
ได้สัมผัสที่ไม่ดี ทำให้ร้อนเกินไป หนาวเกินไป
เจ็บปวดร่างกาย ประสบอุบัติเหตุ ไม่สบายกาย
นี่เขาเรียกว่าบาปส่งผลมาทางกาย
ส่งมาทางใจก็ต้องรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ
ดีไม่ดี แล้วแต่บุญแต่บาป
.............................
ธัมโมวาท โดยหลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี
เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา
*****
Cr.https://www.facebook.com/100050180992815/posts/pfbid07vfHHhQ4NLjRMCKwVkcQ5QBT8Ju41hTZSQYu1B2Ss4UtKHqQijKGQQNZut398U9ql/?mibextid=Nif5oz
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น