มหัศจรรย์สกลนคร

 Cr.เพจมหัศจรรย์สกลนคร

แบ่งปัน 13

 

วัคซีนพาสปอร์ต ที่ รพ.เสนา อยุธยา

....วันนี้มารับวัคซีนพาสปอร์ตที่ รพ.เสนา อยุธยา..ใช้เอกสารสำเนาบัตรประชาชน สำเนาพาสปอร์ต ใช้เวลาประมาณ 5 วันทำการ...เราส่งเอกสารเมื่อวันจันทร์สัปดาห์ที่ผ่านมา วันนี้น้องที่ รพ.เสนา บอกว่าให้มารับได้ที่แผนกเวชกรรมสังคม ตึกคลอดชั้น 3 เสียค่าเอกสาร 50 บาท....

....👍👍👍👍🤟❤️ น้องเจ้าหน้าให้บริการดีเยี่ยมประทับใจมากๆ👍👍👍..เลยขออนุญาตถ่ายรูปมาบอกกล่าวท่านที่ประสงค์จะทำวัคซีนพาสปอร์ต..ติดต่อได้ที่ รพ.เสนา อยุธยา ได้เลยครับ...

...🥰ขออนุญาตเพิ่มเติมครับ..ผมไม่ได้ฉีดที่ รพ.เสนา และไม่ได้มีทะเบียนบ้านที่อยุธยา..แต่ผมมีแอฟหมอพร้อม..ครับ..🥰

...ติดต่อสอบถาม..

NAVY DAY

 

57 ปี นาวี 09

             ข่าวจาก  ปชส.

เรื่อง  ขอเรียนเชิญร่วมงาน 57 ปี นาวี 09

เรียน  เพื่อน นรจ.09 และครอบครัว ที่รักทุกท่าน

   อุปสรรคจากการระบาดใหญ่ทั่วโลกของโควิด -19  ทำให้การพบปะสังสรรค์ของเรา ต้องระงับไปสองปีต่อเนื่องกัน  บัดนี้ สถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว  ผมจึงขอแจ้งให้เพื่อน ได้ทราบความก้าวหน้า ของการจัดกิจกรรมงานสังสรรค์ นรจ.รุ่น 09 ดังนี้

   1.คณะกรรมการรุ่น ได้ประชุม  และมีมติให้เตรียมการจัดงานเลี้ยงพบปะสังสรรค์ ประจำปี  โดยกำหนดจัดงานในวันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2566 ตั้งแต่เวลา 11:00 - 15:00 น. ณ ร้านอาหาร " นภานาวี " บริเวณชายหาด EOD สนามบินอู่ตะเภา (ตามแผนผังที่แนบท้าย) ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้

   2.กำหนดการ

     2.1 เวลา 08:00 น. คณะกรรมการฝ่ายศาสนพิธีเป็นตัวแทนรุ่น  จัดภัตตาหารปิ่นโต และเครื่องสังฆทาน นำไปถวายพระจำนวน 5 รูป ที่วัดใกล้เคียงบริเวณจัดงาน

     2.2 เวลา 10:00 น

      

        2.2.1 ลงทะเบียน              ผู้มาร่วมงาน  สมาชิกท่านละ 800.-บาท ผู้ติดตามท่านละ 500.-บาท  และรับบริจาคสมทบทุนสวัสดิการรุ่น 09 ตามศรัทธา

        2.2.2 อาหารว่าง และเครื่องดื่ม ต้อนรับผู้มาร่วม

      2.3 เวลา 11:00 น

        2.3.1 เริ่มงานพบปะสังสรรค์ สานสัมพันธ์ 57 ปี นาวี 09

        2.3.2 อาหาร บุฟเฟ่ต์

      2.4 เวลา 13:00 น. ประธานกล่าวขอบคุณผู้มาร่วมงาน

      2.5 เวลา 15:00 น. ปิดงาน

   ขอเชิญเพื่อน ๆ และครอบครัวมาพักผ่อนเพื่อคลายความตึงเครียด  ที่สะสมมานานนับปี ที่  "ชายทะเลนั้นเป็นเหมือนถิ่นของเรา"

   ขอให้เพื่อนและครอบครัว  มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์  แข็งแรงทั้งกายและใจ พร้อมที่จะมาพบกัน  ในวันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2566  ณ ร้านอาหาร "นภานาวี " 

ชายหาด EOD สนามบินอู่ตะเภา...เพื่อนเรารออยู่

              ด้วยความรักและคิดถึง  

 (ลงชื่อ) ร.อ.สมศักดิ์  ยศศรี

                    (สมศักดิ์ ยศศรี)

                  ประธาน นรจ.รุ่น 09

ขอมือเธอหน่อย..

 ..หลังจากสถานการณ์โควิดมาเยือนสองปีที่ผ่าน งาน"สานสัมพันธ์ นาวี09"เว้นวรรคไปสองครั้ง..ช่วงนี้สถานการณ์โควิดคลี่คลายลงแล้ว...ถึงเวลาที่พวกเราจะได้มาพบปะกันอีกครั้ง.."สานสัมพันธ์ 57 ปี นาวี 09"

*****

จุด Check-in งานสานสัมพันธ์ 57 ปี นาวี 09 ร้านนภานาวี หาดEOD อู่ตะเภา

แบ่งปัน 12

 แบ่งปัน 11 (คลิก)

ลมใต้ปีก

 คงไม่มีอะไรคลายกังวลให้พ่อแม่ได้ดีไปกว่าการเห็นว่าลูกได้ทำสิ่งที่รัก มีที่พักใจ และรู้ว่าจะมีชีวิตเพื่ออะไร ดังนั้น สิ่งดี ๆ ที่พ่อแม่จะมอบให้ลูกได้จึงอาจไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทองใด แต่เป็นปีก ราก และเหตุผลในการมีชีวิตอยู่

.

ปีก คือการให้อิสรภาพ ให้ลูกได้โผบินสำรวจโลกกว้างได้ตามใจปรารถนา โดยมีพ่อแม่เป็นลมใต้ปีกคอยหนุนพยุง ให้พวกเขาบินร่อนถลาเล่นลมสมใจ และเดินทางไปสู่เป้าหมายในอนาคต

.

ราก คือฐานค้ำจุนอันแข็งแรง เหมือนต้นไม้ใหญ่ที่แม้พายุลูกมหึมาจะพัดผ่าน ก็ยังหยัดยืนต้านลมกรรโชกได้ด้วยรากอันแข็งแกร่ง เปรียบได้กับบ้าน ซึ่งเป็นสถานที่ปลอดภัย ที่จะรอพวกเขากลับมาเสมอ

.

ในโลกที่ชีวิตไม่เคยง่าย คนเราควรมีเหตุผลที่จะบอกว่า เราอยู่บนโลกนี้ทำไม เพื่อเติมเชื้อไฟในใจไม่ให้มอดลง มีแรงใจทำสิ่งที่เชื่อ และเห็นลู่ทางสร้างอนาคตแบบที่ตัวเองต้องการ

.

สามสิ่งนี้อาจฟังดูเรียบง่าย แต่ในทางปฏิบัติต้องใช้ความเข้าใจ ความสม่ำเสมอและเวลา เพื่อให้เด็ก ๆ ซึมซับความคิดและประยุกต์ใช้จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวเองในที่สุด

เรื่อง : ศิริกมล ตาน้อย

ภาพประกอบ : ลักษิกา บรรพพงศ์

#mappa #LearningHappensEverywhere #ทุกพิกัดคือการเรียนรู้

ต้นฉบับภาษาอังกฤษ คือ Give the ones you love wings to fly, roots to come back and reasons to stay**

******

Cr.Fwd.line

แบ่งปัน 11

 แบ่งปัน 10 (คลิก)

เรื่อยๆ..เฉื่อยๆ..ตามอารมณ์

จับแพะชนแกะ..ไปเรื่อยๆ(ฮา)

ขอขอบคุณเจ้าของเพลง/ภาพ..ด้วยความเคารพ🙏

(ทดลองทำ..คลิปที่โพสลงในreel Facebook)

 

สัตว์ทั้งหลายลงกันด้วยธาตุ

 

Cr.fwd.line

ในพระสูตร

วันหนึ่ง มีผู้ถามพระพุทธเจ้าว่า

ทำไมพระสงฆ์ จึง รวมกัน เป็น กลุ่มๆ

พระพุทธเจ้า มีพระดำรัส ตอบว่า 

"สัตว์ ทั้งหลาย ลงกันด้วยธาตุ" สัตว์ ในที่นี้ หมายถึง "สังคม ของสิ่งมีชีวิต"

   ผู้ชอบ ปัญญา อยู่กับ พระสารีบุตร

   ผู้ชอบ มีฤทธิ์ อยู่กับ พระโมคคัลลานะ

   ผู้ชอบศีล อยู่กับ พระอุบาลี

   ผู้ชอบปลีกวิเวก อยู่กับ พระมหากัสสปะ

   ผู้ชอบ ธรรมอันหยาบ อยู่กับ พระเทวทัต

"สัตว์ทั้งหลาย ลงกันด้วยธาตุ"

ธาตุ ที่เสมอกัน จะรวมกันอยู่

ธาตุ ในที่นี้ หมายถึง

คุณภาพ ของจิต

อันเกิดจากปรุงแต่ง ด้วย

ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติธรรม สาธุ

อยากให้อ่านครับ ยาวหน่อย แต่ทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่น่าอัศจรรย์ของพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์... 

"นกชนิดเดียวกัน จะอยู่ในฝูงเดียวกัน

คนที่เคยมีบุพกรรมร่วมกัน จะถูกดึงดูดเข้ามาอยู่ใกล้กัน”

เราอยู่ในโลกของพลังงาน ทุกสิ่งทุกอย่าง (แม้แต่วัตถุที่เป็นของแข็ง) ดูเหมือนสงบนิ่ง แต่แท้จริงแล้วมันกำลังสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลา 

หากส่องเข้าไปดูในระดับอะตอม นักวิทยาศาสตร์ได้พบความจริงข้อนี้ แล้วประกาศออกมาเป็นทฤษฎีควอนตัมฟิสิกส์ 

ซึ่งความจริงนั้น พระพุทธเจ้าทรงค้นพบเรื่องนี้ มาเกือบสองพันหกร้อยปีแล้ว และตรัสไว้ผ่านทางหลักธรรมคำสอน ด้วยพุทธพจน์ที่ว่า...

ทุกสรรพสิ่งไม่เที่ยง (อนิจจัง) 

ต้องเปลี่ยนแปลง (ทุกขัง) 

และไม่มีตัวตน (อนัตตา) 

สามสภาวะนี้เรียกรวมกันว่า “กฎไตรลักษณ์”

กฎข้อนี้ในบางส่วน นักจิตวิทยาก็ค้นพบ เขาจึงกล่าวว่า “จิต” เป็นพลังงานชนิดหนึ่ง 

พลังงานจะอยู่ในรูปของคลื่นความถี่ ที่สั่นสะเทือนอยู่ตลอด ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่รับรู้และใช้ประโยชน์จากมันได้ เช่น ..

คลื่นโทรศัพท์ คลื่นวิทยุ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นต้น

ชีวิตทางกายภาพของมนุษย์ประกอบด้วยส่วนต่างๆ อยู่ ๒ ส่วน คือ..

1. ส่วนที่เป็นกายภาพ สามารถสัมผัสจับต้องได้ มองเห็นได้ เรียกว่า “กายเนื้อ” ภาษาธรรมะเรียกว่า “รูป”

2. ส่วนที่เป็นพลังงาน สัมผัสถูกต้องไม่ได้ เรียกว่า “กายใน” 

เป็นพลังงานเรืองแสง มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น 

กายในดังกล่าวนี้จะแทรกอยู่ในกายเนื้อ คนโบราณเรียกว่า “กายทิพย์” ทางพระเรียกว่า “นาม” ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงอธิบายละเอียดลึกซึ้งลงไปอีกว่า..

นามนั้นประกอบด้วย..

ความรู้สึก (เวทนา), 

ความจำ (สัญญา), 

ความคิด (สังขาร), 

การรับรู้ (วิญญาณ)

ข้อดีของสัจธรรมก็คือ..

เป็นกฎของธรรมชาติที่ให้ผลเป็นจริง อยู่เหนือกาลเวลา และนำมาปรับใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมในชีวิตประจำวัน เราต้องมาพบ มาทำงานร่วมกับคนๆนี้ ซึ่งอาจเป็นเจ้านาย ลูกน้อง แฟน คู่แค้น เพื่อนร่วมงาน 

หรือใครก็ตาม ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ชอบหน้าเขาสักเท่าไหร่ 

นั่นก็เพราะเรายังมี “กายภายใน” ที่เป็นพลังงานสั่นสะเทือนอยู่ในระดับเดียวกับเขา

“คนที่มีระดับพลังงานเดียวกัน จะถูกดึงดูดเข้ามาหากัน”

เหมือนนกที่มีสายพันธุ์เดียวกัน ก็จะอยู่ในฝูงเดียวกัน บินไปไหนพวกมันก็ไปด้วยกัน บินกันไปเป็นฝูง 

เราจะไม่เคยเห็นอีกาบินร่วมไปกับหงส์ หรืออีแร้งบินไปกับนกอินทรี 

นั่นเพราะนกชนิดเดียวกัน มันจะอยู่ในฝูงเดียวกันเท่านั้น

ฉะนั้น ตราบใดที่พลังงานในตัวเรา..ยังไม่เปลี่ยนระดับความถี่ที่สั่นสะเทือน เราก็จะต้องพบเจอบุคคลเหล่านี้อยู่ร่ำไป 

และวิธีการสลัดตนให้ "หลุดพ้น" จากคนที่เราไม่ชอบนั้น ไม่ใช่การนินทา และก็ไม่ใช่การพยายามเปลี่ยนคนอื่น 

แต่เราจะต้องเปลี่ยนตัวเองจากภายในคือ 

“ระดับพลังงาน” ต้องยกมันให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้นไป เหนือกว่าพลังงานของคนที่เราไม่ชอบ 

โดยเริ่มต้นจากความอยากเปลี่ยนแปลง.."ไปในทางที่ดี"

“ความรู้สึก” ถ้าเราหมั่นตรวจสอบความรู้สึก รู้จักฝึกควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ให้เป็นคนที่รู้สึกดีได้มากที่สุด ยิ้มแย้มแจ่มใส จิตใจเมตตา ไม่จับกลุ่มนินทา เลิกเสพข่าวร้าย มีความสำนึกรู้คุณต่อทุกสรรพสิ่ง 

ไปวัด นั่งสมาธิ รักษาศีล ออกกำลังกายอยู่เสมอ ว่ายน้ำ ดูปะการัง ปลูกต้นไม้ อะไรก็ว่าไป

ในที่สุด เมื่อระดับพลังงานสูงพอ เราก็จะไม่มีทางพบเจอ คนเหล่านั้นอีกเลย แต่จะเปลี่ยนไปเจอคนที่มีระดับพลังงานเดียวกันกับเรา 

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ นักจิตวิทยาสมัยใหม่บอกว่า..เกิดขึ้นเพราะ “พลังจิตใต้สำนึก” ปลดปล่อยพลังงานสั่นสะเทือนออกไปโดยอัตโนมัติอยู่ตลอดเวลา แบบที่เราเองก็ไม่รู้ตัว พวกเขาเรียกมันว่า “กฎแห่งแรงดึงดูด”

ดังนั้น หากอยากเปลี่ยนโลก..

ต้องเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน โดยเริ่มต้นจาก..

“ความอยาก” “ความรู้” และ “ความรู้สึก” แล้วโลกรอบข้างเราก็จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง สมดังคำสอนเปลี่ยนโลกที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า...

“การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำกุศลให้ถึงพร้อม การทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว นี้คือคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย”

(พระไตรปิฎก เล่ม ๒๕)

ทาน .. บอกระดับความมีใจโอบอ้อมอารี 

ศีล .. บอกพฤติกรรม กิริยาท่าทางที่แสดงออก 

สมาธิ .. บอกระดับความสุขสงบเย็น 

ปัญญา .. บอกระดับความรู้ ความเข้าใจต่อโลก และสรรพสิ่ง

ขอย้ำอีกสักครั้ง**

“คนที่เสมอกัน จะถูกดึงดูดเข้ามาอยู่ใกล้กัน” 

ตามระดับคุณธรรม ที่เป็นพลังงานสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลา.

มหัศจรรย์ศีลอุโบสถ.

******

Cr.fwd line

*****

"...in the sutta

One day, someone asked the Buddha:

Why do monks gather together in groups?

The Buddha gave a speech and replied:

"All animals are made up of elements." Animal here means "a society of living things."

Those who like wisdom live with Sariputta.

” Those who like and have power are with Moggallana.

Those who like precepts live with Phra Upali.

” Those who like to spend time in solitude stay with Phra Maha Kassapa.

A person who likes rough Dhamma is with Devadatta.

"Animals  together with the elements"

Elements that are equal will be combined together.

Element here means

Quality of the mind

caused by embellishment

Morality, concentration, wisdom, liberation, amen..."

********

ธรรมนิยาม(คลิก)

กรรมนิยาม(คลิก)

*****