ภาพจากอินเตอร์เนต
.......
ในสมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จจาริกในแคว้นมัลละพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ เสด็จถึงเมืองปาวา ได้ยินว่าในครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ อัมพวันของนายจุนทกัมมารบุตรใกล้เมืองปาวา..หลังจากที่พระพุทธองค์ ตรัสเรื่อง กุศลกรรมบถ ๑๐ คือความสะอาดทางกาย ๓ ทางวาจา ๔ และทางใจ ๓ ว่าเป็นทางสู่สุคติแน่นอน นายจุนทะได้กราบทูลแสดงตนเป็นอุบาสก ผุ้ถึงพระรัตนตรัยตลอดชีวิต และทูลอาราธนาให้พระศาสดารับภัตตาหารในวันรุ่งขึ้น
ระหว่างภวายภัต นายจุนทะสังเกตุเห็นภิกษุรูปหนึ่ง แอบหยิบภาชนะทองคำของตนใส่ในย่าม แต่ด้วยความเคารพในพุทธองค์ นายจุนทะแกล้งทำเป็นไม่เห็น หลังจากพระพุทธองค์อนุโมทนาแล้ว นายจุนทะได้ถวายสวนมะม่วงของตนเพื่อเป็นที่พำนักสงฆ์
ในตอนบ่าย นายจุนทะได้เข้าไปเฝ้าพระพุทธองค์ กราบทูลถามว่า"ข้าพระองค์ใคร่ขอทราบว่าสมณะมีกี่ประเภท "
พระพุทธองค์ทรงทราบทันทีว่า นายจุนทะถามดังนี้ ต้องหมายถึงเรื่องของพระภิกษุรูปนั้นเป็นเหตุ จึงตรัสว่า จุนทะ สมณะมี ๔ ประเภทคือ
สมณะ ผู้ชนะกิเลสด้วยมรรค ๑
สมณะ ผู้แสดงมรรคแก่ชนเหล่าอื่น ๑
สมณะ ผู้ดำรงอยู่ในมรรค ๑
สมณะ ผู้ประทุษร้ายมรรค ๑
พระพุทธองค์ทรงทราบว่า นายจุนทะ คลายความสงสัยในภิกษุนั้นได้แล้ว...
..........
..บุคคลใดกระทำเพศแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพระพุทธเจ้าและพระสาวกผู้มีวัตรอันงาม ให้เป็นเครื่องปกปิดแล้วมักประพฤติแล่นไปประทุษร้ายตระกูล เป็นผู้คะนอง มีมายา ไม่สำรวม เป็นคนแกลบ บุคคลนั้นแลชื่อว่า เป็นสมณะผู้ประทุษร้ายมรรคอย่างยิ่ง..(จุนทสูตร)
..........
(ข้อมูลจาก www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=25&A=7177&Z=7217,หนังสือพุทธกิจ ๔๕ พรรษา สุรีย์ มีผลกิจ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น