วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2558

ความดับทุกข์..


....ฯลฯ....
     " ดูกรภิกษุทั้งหลาย !  ปัญหาที่เผชิญอยู่เบื้องหน้าของทุก ๆ คน คือ ปัญหาเรื่องทุกข์และความดับทุกข์   มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายถูกความทุกข์เสียบอยู่ทั้งทางกายและทางใจ อุปมาเหมือนผู้ถูกยิงด้วยลูกศรซึ่งกำซาบด้วยยาพิษแล้วญาติมิตรเห็นเข้าเกิดความกรุณา จึงพยายามช่วยถอนลูกศรนั้น  แต่บุรุษผู้โง่เขลาบอกว่าต้องไปสืบให้ให้ได้เสียก่อนว่าใครเป็นคนยิงและยิงมาจากทิศใหน ลูกศรทำด้วยไม้อะไร แล้วจึงค่อยมาถอนลูกศรออก  ภิกษุทั้งหลาย ! บุรุษนั้นจะต้องตายเสียก่อนเป็นแน่แท้ ความจริงเมื่อถูกยิงแล้วหน้าที่ของเขาก็คือควรพยายามถอนลูกศรออกเสียทันที  ชำระแผลให้สะอาดแล้วใส่ยาและรักษาแผลให้หายสนิท หรืออุปมาหนึ่งเหมือนบุคคลที่ไฟไหม้อยู่บนศรีษะ ควรรีบดับเสียโดยพลันไม่ควรเที่ยววิ่งหาคนผู้เอาไฟมาเผาศรีษะตน ทั้ง ๆ ที่ไฟลุกไหม้อยู่ "
    " ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! สังสารวัฏฏ์นี้เต็มไปด้วยเพลิงทุกข์นานาประการโหมให้ร้อนอยู่โดยทั่ว  สัตว์ทั้งหลายยังวิ่งอยู่ในกองทุกข์แห่งสังสารวัฏฏ์ ใครเล่าจะเป็นผู้ดับ ถ้าทุกคนไม่ช่วยกันดับทุกข์แห่งตน อุปมาเหมือนบุรุษสตรีผู้รวมกันอยู่ในบริเวณกว้างแห่งหนึ่ง และต่างคนต่างถือดุ้นไฟใหญ่อันไฟลุกโพลงอยู่ทั่วแล้ว ต่างคนก็ต่างวิ่งวนกันอยู่ในบริเวณนั้น และร้องกันว่า ร้อน ร้อน  ภิกษุทั้งหลาย ! ครานั้นมีบุรุษผู้หนึ่งเป็นผู้ฉลาดร้องบอกให้ทุก ๆ คน ทิ้งดุ้นไฟในมือตนเสีย ผู้ที่ยอมเชื่อทิ้งดุ้นไฟก็ได้ประสบความเย็น ส่วนผู้ไม่เชื่อ ก็ยังคงวิ่งถือดุ้นไฟพร้อมร้องตะโกนว่า ร้อน ร้อน อยู่นั่นเอง  ภิกษุทั้งหลาย ! เราตถาคตได้ทิ้งดุ้นไฟแล้ว และร้องบอกให้เธอทั้งหลายทิ้งเสียด้วย .......ดุ้นไฟที่กล่าวถึงนี้คือ  กิเลส ทั้งมวล อันเป็นสิ่งที่เผาลนสัตว์ให้เร่าร้อน กระวนกระวาย "
....ฯลฯ....
(จากหนังสือ พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน พิมพ์แจกเป็นธรรมทาน ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐)
*****
วิมุตตายตนสูตร  (คลิก)

*****

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น