พระพุทธเจ้าทรงเห็นว่า กาย กับ ใจ ของเรานี้เป็นคนละเรื่อง
และคุณค่าก็ผิดกัน
กายเป็นของช้าและเป็นของหนัก
ใจเป็นสภาพที่เบาและเร็วมาก
ตัวอย่างเช่น ถ้าเรานึกอยากจะไปกรุงเทพฯ
เวลานี้ใจมันก็แล่นปราดไปถึงกรุงเทพฯ ทันที
วันหนึ่งๆ ก็ไปได้ไม่รู้กี่หน
แต่ส่วนเจ้ากายนี่สิ เราอยากไปมันก็ไม่ไปถึงสักที
ยิ่งคนแก่ๆ เฒ่าๆ ด้วยแล้ว กว่าจะก้าวขาไปได้แต่ละก้าวก็แทบแย่
ความเร็วความช้าของใจและกายมันผิดกันอย่างนี้
ฉะนั้น จึงว่าใจเป็นสิ่งที่เร็วมากยิ่งกว่าอะไรในโลก
และเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในร่างกาย
ซึ่งเราจะต้องพากันเรียนให้รู้จักมันให้ดี
มิฉะนั้นเราก็จะไม่สามารถประสบกับความสุขได้
...........
พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า
"จิตใจของคนเรานั้น ถ้ามันตกไปในเรื่องดี มันก็สบายเป็นสุข
ถ้าตกไปในเรื่องชั่วมันก็ไม่สบายเป็นทุกข์"
.............
ฉะนั้น ท่านจึงสอนให้เอาไปนึกคิดแต่สิ่งที่ดีๆ
ครูบาอาจารย์ท่านสอน เช่น นึก พุทโธๆ
ดวงจิตจะได้สบาย เบิกบานไม่ทุกข์
,,,,,,,,,,,,,,
จากหนังสือ ท่านพ่อลี สอนศิษย์
ธรรมบรรณาการในงานบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย
พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์
(ท่านพ่อลี ธมฺมธโร)
ครบมรณภาพปีที่ ๕๕
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น