วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

มีสติเป็นอาหาร


"...คนเรามีอาหารเป็นเครื่องอยู่  เรามีชีวิตอยู่เพราะอาหาร ส่วนการปฏิบัติธรรมก็มีอาหารเหมือนกัน  อาหารของธรรม อาหารเก่า อาหารใหม่... ธรรมใหม่ ธรรมเก่าซึ่งอาศัยซึ่งกันและกัน เป็นอาหารของธรรม  ธรรมอันใดเป็นอาหาร...พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีธรรมาหาร....เริ่มต้นคือ สติสัมปชัญญะ..ได้แก่ สติปัฏฐาน ๔ ...เอาสติไปตั้งที่ กาย เวทนา จิต ธรรม....สัมปชัญญะ การรู้สึกตัวอยู่เสมอ  มีสติสัมปชัญญะ เป็นอาหาร  มีแล้วก็จะมีหิริและโอตตัปปะ เป็นปัจจัยที่จะเกิดขึ้นอีก หิริโอตตัปปะ นั้นได้แก่ความละอายแก่ใจ ก็จะมีขึ้นมา  ความเกรงกลัวบาป ก็จะมีขึ้นมา ...อันนี้ก็เนื่องมาจากเรามี สติสัมปชัญญะ แล้ว...อินทรีย์สังวร ก็จะมีขึ้น อินทรีย์แปลว่าความเป็นใหญ่ อินทรีย์ ๖ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ  ความสำรวมอินทรีย์ก็มีขึ้น...เมื่ออินทรีย์มีแล้ว...ตัวศีลสังวรก็มีขึ้น  เมื่อศีลสังวรมีขึ้น...สัมมาสมาธิก็มีขึ้น  ตั้งมั่นโดยชอบ  เมื่อสมาธิธรรมมีขึ้นแล้ว ยถาภูตญาณ ก็จะมีขึ้น...จะรู้ตามความเป็นจริง ..เมื่อรู้ตามความเป็นจริงแล้วจะเบื่อหน่าย และคลายกิเลส..นิพพิทา  วิราคะ มีแล้ว..คลาย...วิมุตติญาณทัสสนะ ก็จะมีขึ้น  จะเห็นความหลุดพ้นจากกิเลส อันเป็นธรรมที่สูงสุด..
    ...ความหลุดพ้น เป็นยอดแห่งธรรมทั้งหลาย  พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทะเจ้าจะมีมากมาย ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ รวมอยู่ที่ ก็คือความต้องการจะให้เกิดความวิมุตติ หลุดพ้นจากกิเลส ทั้งหลายทั้งปวง หลุดพ้นจากกังวล...วิมุตติธรรม เหมือนน้ำในมหาสมุทร น้ำในมหาสมุทรจะมีมากมายเท่าใดก็ดี แต่ก็มีรสเค็มอย่างเดียว  เราปฏิบัติธรรมตั้งแต่ สติปัฏฐานมา  จะเดินวิปัสสนามา ยอดแห่งวิปัสสนาญาน ก็คือตัว วิมุตติธรรม..
      ขอให้เราพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งหลาย พ้นจากทุกข์ทั้งปวง พ้นจากวัฏฏะสงสาร อันนี้เป็นจุดหมายปลายทางของหมู่พวกเราทั้งหลาย...ขอให้เราทั้งหลายจงตั้งใจ...เข้าสู่วิมุตติธรรมด้วยการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน..เอาสติปัฏฐานเป็นที่ตั้ง..เมื่อมีสติสัมปชัญญะแล้วคุณธรรมทั้งหลายเกิดขึ้นทุกวัน ๆ เป็นอาหารอยู่ ....เราก็จะถึงที่สุดแห่งทุกข์..."
             (จากซีดี MP3 เผยแพร่เป็นธรรมทาน ธรรมะบรรยาย  หลวงปู่ทอง  สิริมังฺคโล วัดพระศรีจอมทองวรวิหาร)
******

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น