หลังจากไหว้พระที่วัดประยุรวงศ์ฯ แล้วก็เลาะริมเจ้าพระยาเช่นเคยไม่ไกลนักก็ถึงสะพานพุทธฯ เห็นป้ายบอกข้อมูลสองป้ายที่ใต้สะพานพุทธฯ
"..ในอดีตบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ยาวลงมาจรดวัดอรุณราชวราราม เคยเป็นแผ่นดินผืนเดียวกันโดยไม่มีสายน้ำใด ๆ ไหลมาคั่นกลางอย่างเช่นทุกวันนี้..."
...ในอดีตสมัยกรุงศรีอยุธยามีการขุดคลองลัดมาแล้วรวม ๓ ครั้ง...
....ป้ายที่สอง...
(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)
..พระะบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ ๑ ด้านฝั่งพระนคร...
...ภาพสะพานพุทธฯ ที่เปิดให้เรือรบผ่านราว พ.ศ.๒๕๐๘...ปัจจุบันทราบว่าไม่สามารถเปิดได้แล้ว...
....ตามที่วางแผนไว้เราจะเลาะริมชลต่อไป ครับ..
จากใต้สะพานพุทธ ฯ สะพานพระปกเกล้า ช่วงต่อไปนี้ไม่มีทางเดินเลียบแม่น้ำครับ..เดินตามถนนมาก็พบป้ายบอกสถานที่ที่เราจะไปพอดี...
ทางเข้าชุมชนหลังวัดอนงคาราม...สถานที่แห่งแรกคือศาลเจ้าพ่อเสือ..
..คุณอนันต์ บอกว่าศาลเจ้าพ่อเสือนี้บรรพบุรุษรุ่นอากง อาม่า เล่าให้ฟังว่าท่านเกิดมาท่านก็เห็นศาลเจ้านี้แล้ว จึงเชื่อได้ว่ามีอายุเกินกว่าร้อยปี ถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจีนในย่านนี้ พร้อมทั้งเชิญชวนให้ไปเที่ยวในเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้จะมีการจัดงานถนนคนเดินในบริเวณรอบ ๆ ศาลเจ้าด้วย..หลังจากไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือแล้วก็เดินลงไปริมน้ำเจ้าพระยา ไปชมสถานี่เก่าแก่อีกแห่งของชาวมุสลิม..
มัสยิดภูวดิลอิสลาม หรือ ตึกแดง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตึกแดงเดิมเป็นสำนักพระคลังสินค้า ของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ ได้บริจาคที่ดินบริเวณนี้ให้สร้างมัสยิดราว พ.ศ.๒๔๐๒ มุสลิมในชุมชนนี้กลุ่มใหญ่มาจากปัตตานี เป็นช่างทอง ช่างนาค กับอีกกลุ่มหนึ่งเป็นเชื้อสายอินเดียประกอบธุรกิจการค้า ปัจจุบันมัสยิดนี้เป็นศาสนาสถานของมุสลิมนิกายสุหนี่
(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)
..คุณอนันต์ บอกว่าศาลเจ้าพ่อเสือนี้บรรพบุรุษรุ่นอากง อาม่า เล่าให้ฟังว่าท่านเกิดมาท่านก็เห็นศาลเจ้านี้แล้ว จึงเชื่อได้ว่ามีอายุเกินกว่าร้อยปี ถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจีนในย่านนี้ พร้อมทั้งเชิญชวนให้ไปเที่ยวในเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้จะมีการจัดงานถนนคนเดินในบริเวณรอบ ๆ ศาลเจ้าด้วย..หลังจากไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือแล้วก็เดินลงไปริมน้ำเจ้าพระยา ไปชมสถานี่เก่าแก่อีกแห่งของชาวมุสลิม..
มัสยิดภูวดิลอิสลาม หรือ ตึกแดง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตึกแดงเดิมเป็นสำนักพระคลังสินค้า ของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ ได้บริจาคที่ดินบริเวณนี้ให้สร้างมัสยิดราว พ.ศ.๒๔๐๒ มุสลิมในชุมชนนี้กลุ่มใหญ่มาจากปัตตานี เป็นช่างทอง ช่างนาค กับอีกกลุ่มหนึ่งเป็นเชื้อสายอินเดียประกอบธุรกิจการค้า ปัจจุบันมัสยิดนี้เป็นศาสนาสถานของมุสลิมนิกายสุหนี่
.. โต๊ะอิหม่าม น.ต.นาวิน ฯ ท่านเป็นทหารเรือด้วย เลยสนทนากันสนุกสนานพร้อมได้ความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของตึกแดง...
...เราเดินย้อนขึ้นมานิดหนึ่งก็จถึงอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า ..แต่ขอไปริมน้ำก่อนครับ ไปไหว้ศาลเจ้ากวนอู..
ศาลเจ้ากวนอูมีประวัติความเป็นมากว่า ๒๖๘ ปี โดยชาวจีนฮกเกี้ยนอัญเชิญมาจากมณฑลฮกเกี้ยน ในศาลมีเทพเจ้ากวนอู ๓ องค์ สำหรับอาคารริมน้ำสามชั้นประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม...ไปไหว้ศาลกันเลยครับ...จุดธูป ๑๖ ดอก..
...ศาลเจ้ากวนอูแห่งมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพนับถือของชาวจีนในชุมชนนี้เป็นอย่างมาก..สำหรับเทพเจ้ากวนอูถือได้ว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ว่ากันว่าสถานีตำรวจทุกสถานีในฮ่องกงจะมีรูปเทพเจ้ากวนอู..
..อาคารเก่าใกล้กับศาลกวนอู..
..อาคารเก่าใกล้กับศาลกวนอู..
...ดังที่บอกไว้นะครับ ริมเจ้าพระยาช่วงนี้ไม่มีทางเดินเลียบริมฝั่ง เราจะเดินย้อนขึ้นไปนิดหนึ่ง..ก็จะถึงอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า ผมถือโอกาสเข้าไปนั่งพักพร้อมกับทานข้าวกลางวันในอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า ด้วยครับที่นั่นร่มรื่นต้นไม้เยอะเย็นสบายครับ..ไปด้วยกันนะครับ....
เลาะริมชลยลของเก่า(๕) (คลิก)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น