ธรรมะอรุณสวัสดิ์...รับวันใหม่
.............................
พระพุทธเจ้าตรัสแสดงถึง
เหตุให้เกิดความตายมี 4 อย่าง
1. อายุกขยะมรณะ
ตายเพราะสิ้นอายุ มีอายุครบอายุขัย
อย่างมนุษย์เราปัจจุบันอายุขัยก็ประมาณ 75 ปี
สมัยพระพุทธเจ้า 100 ปี อายุขัย
เกินไปบ้างก็ไม่เท่าไหร่
อย่าง 160 ปีถือว่ามากเต็มที่แล้ว
ปัจจุบันก็ลดลงช่วงระยะอายุมนุษย์ลด
ฉะนั้น เมื่อหมดอายุขัยแล้ว
ร่างกายมันหมดสภาพ
แก่ชราหมดสภาพ ก็ต้องตาย
.
2. กัมมักขยะมรณะ
ตายเพราะสิ้นกรรม
กรรมคือการกระทำ
ทั้งที่เป็นบุญและเป็นบาป
เขาเรียกกรรมทั้งหมด
กรรมดีเขาเรียกว่า กุศลกรรม
กรรมชั่วก็เรียกว่า อกุศลกรรม
กรรมที่ส่งมาเป็นมนุษย์
ก็คือ..กุศลกรรม
ชนกกรรม กรรมที่นำให้เกิด
อุปัตถัมภกกรรม
กรรมที่เข้าไปสนับสนุนให้ชีวิตดำรงอยู่
กรรมเหล่านี้ที่ส่งมามันหมด ๆ สภาพ
ก็ตาย...เหมือนคนอายุขัยยังมีแต่ว่าตายก่อน
เพราะว่าหมดกุศลกรรมที่ส่งมาเป็นมนุษย์หมดลง
.
3.อุภยักขยะมรณะ
ตายเพราะสิ้นทั้งอายุและกรรมไปพร้อม ๆ กัน
อยู่มาครบอายุขัยพอดี
กรรมที่ส่งผลมาเป็นมนุษย์ก็หมดลงพอดี..ตาย
.
4. อุปัจเฉทกมรณะ
ตายเพราะมีกรรมมาตัดรอน
กรรมมาตัดรอน คือ...
บุญกุศลความดี กุศลที่มันส่งมาเป็นมนุษย์ก็มี
อายุขัยก็ยังไม่หมด
แต่ว่าอกุศลกรรมมันมาตัด
อย่างที่ในอดีตเคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
เคยทำร้ายชีวิตเขาไว้ มันตามมาทัน
แล้วก็มาตัดชีวิตขาดตาย
.
เช่นถูกรถชนตาย
ถูกไฟลวกตาย จมน้ำตาย
เกิดระเบิด เกิด...โดนจนได้
ถ้ากรรม อกุศลกรรมที่เกี่ยวกับปาณาติบาต
ที่เราเข่นฆ่า ประหัดประหาร ตามมาทัน
มันก็มาตัดชีวิตขาดตาย
แต่นี้ว่า อุปัจเฉทกกรรม มีกรรมมาตัดรอน
เหมือนชีวิตบางคน อายุขัยก็ยังมี
แต่ว่า กรรมมันตัดรอน
ความตายก็ต้องมาถึง
.
ฉะนั้น เราก็ไม่ควรประมาทว่า
เราจะอยู่ครบอายุขัยไหม
ถึงจะอยู่จนครบอายุขัยก็ต้องตายอยู่ดี
อย่างเวลาก็สั้นลง
สมมติว่าอายุขัย 75 ปี
สมัยนี้ก็ไม่ค่อยถึงกันแล้ว
ถ้า 50 ก็เหลืออีกเท่าไหร่
60 เหลือเท่าไหร่
70 , 75 ก็หมดแล้ว หมดเวลาแล้ว
แต่นี้คนที่ยังอายุ 30 40 50
ยังคิดว่า โอ้ย อีกหลายหลายสิบปี
มันก็ไม่แน่ มันมีกัมมักขยะมรณะ
หรือ อุปัจเฉทกกรรม มาตัดรอนได้
.
ฉะนั้นก็ไม่ควรจะประมาทนิ่งนอนใจ
เพราะว่าถ้าเราตายแล้ว
เราหมดหมดโอกาสเลยนะ
ทำอะไรได้บ้าง ตายแล้วทำอะไรไม่ได้เลย
มันจบหมดเลย
ที่จะมาให้ทาน มารักษาศีล
มาเจริญภาวนา มาทำบุญสุนทานอะไร
มันทำไม่ได้หรอก หมดโอกาส
.
ฉะนั้นตอนที่เรายังดี ยังมีแข็งแรง
ต้องสั่งสมเสีย มีทุน
หรือว่าถ้าเรามีทุนมาก
เหมือนคนมีทรัพย์สมบัติมาก
จะไปออกบ้านใหม่
ก็ยังเลือกบ้านใหญ่ได้ใช่ไหม
มีทรัพย์ ซื้อบ้านใหม่
.
เหมือนถ้าร่างกายเปรียบเหมือนบ้านหลังหนึ่ง
มันจะต้องพังแล้ว
พอหมดอายุขัย หมดสภาพ
ก็เปลี่ยนซื้อบ้านใหม่
ถ้าคนมีทุน มันก็ได้บ้านดี
แต่ถ้าทุนไม่ดี ก็มาแบบ..แบบที่เห่า
ฉะนั้นต้องสั่งสมบุญกุศลให้มาก
.............................
ธัมโมวาท โดยพระวิปัสสนาจารย์
ท่านเจ้าคุณ พระภาวนาเขมคุณ วิ.
(หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี)
เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น