วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2563

อนัตตา..สุญญตา 🙏🙏🙏

 


ถาม

คำว่า อนัตตากับคำว่า สุญญตา  ต่างกันอย่างไร


ตอบ

อนัตตา มาจากคำว่าอนัตตลักษณะ คือลักษณะทั่วไปของรูปนาม(โลกิยธรรม)ทั้งปวง อันบุคคลพึงเห็นอนัตลักษณะได้ตั้งแต่สัมมสนญาณที่3 (แห่งวิปัสสนาญาณ16) เป็นต้นไป โดยที่จะปรากฏสลับระคนไปกับ อนิจลักษณะ  และทุกขลักษณะ  


ทั้งสามลักษณะนี้ถูกตั้งฉายาเรียกรวมกันว่า

ไตรลักษณ์บ้าง สามัญลักษณะบ้าง

วิการลักษณะบ้าง

ยิ่งขึ้นสู่ระดับสูงๆ

ไตรลักษณ์ยิ่งเข้มข้น แสดงตน ดุจเสือแสดงลาย

สุญญตา มาจากคำว่า สุญญตลักษณะ คือลักษณะเฉพาะของนิพพานหรือปรมัตถลักษณะของนิพพานนั้นย่อมเป็นสภาวะว่างเปล่า 


นิพพาน เริ่มปรากฏให้เห็นได้ตั้งแต่ โคตรภูญาณที่13 (แห่งวิปัสสนาญาณ 16 )เป็นต้นไป  ถัดจากนั้นจะหน่วงนิพพานเป็นอารมณ์แล้วข้ามโคตรปุถุชนไปสู่โคตรอริยะ  เมื่อเป็นอริยะแล้ว จะทำอะไรอยู่ที่ไหนในโลกใบนี้ก็ตามระลึกรู้ ตามดู ตามเห็น นิพพาน บ่อยๆ เนืองๆ แล้วๆ เล่า ตลอดวันของทุกวัน อย่างเป็นเรื่องปกติธรรมดาสามัญของอริยะทั้งปวง


โดยสุญญตา(สภาวว่างเปล่า)จะปรากฏให้เห็นสลับระคนกันไปกับ อนิมิตตา (สภาวะไร้นิมิต)  อัปปณิหิตา(สภาวะไร้ที่ตั้งของกิเลส)



อนัตลักษณะเปรียบเหมือนแมว


สุญญตลักษณะเปรียบเหมือนเสือ


ว่าโดยสภาวะที่ปรากฏให้เห็นก็ต่างกันมาก  เพียงแต่บุคคลจะไม่สามารถเข้าไปเห็นเชิงประจักษ์ถึงความต่างลักษณะของสภาวะทั้งสองนี้ได้ ด้วยการฟัง การอ่าน การเล่าเรียน หรือลูบคลำตำรา   หรือตรรกะ หรือปรัชญา  หรือทฤษฎีวินิจฉัย  ผู้ที่จะสามารถเข้าไปเห็นลักษณะทั้งสองนี้(เห็นอนัตตลักษณะและสุญญตลักษณะ) เชิงประจักษ์ได้อย่างชัดเจน หมดสิ้นความสับสนสงสัยอย่างแท้จริง เกิดมีวุฒิตระหนักแน่ คม

ชัด ลึก ถึงความเด็ดขาดลงไปไม่กลับมาสงสัยได้อีกในลักษณะทั้งสองนี้นั้น ก็ต่อเมื่อ วิปัสสนาภาวนาของบุคคลนั้นแตะขอบโลกุตตระภาวนาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จึงจะสิ้นสงสัยในเรื่องนี้ได้อย่างแท้จริง มิฉะนั้นก็จะไม่มีวันสิ้นสงสัยไปได้


ถ้าภาวนาของผู้ใดยังอยู่ในเขตโลกียภาวนาก็จะไม่มีวุฒิตระหนักแน่ถึงความเด็ดขาดลงไปโดยไม่กลับสงสัยได้อีกว่าอนัตตลักษณะของรูปนามต่างกับสุญญตลักษณะของนิพพานอย่างไร

*****
Cr. Fwd Line

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น