มีพระหนุ่มรูปหนึ่ง อารมณ์ไม่ค่อยเบิกบานสักเท่าไร แต่ละวันมีเรื่องขุ่นเคืองใจ ไม่พอใจอยู่เสมอ เวลานั่งสมาธิ ถ้ายินเสียงคนพูดคุยกันก็ไม่พอใจ บางครั้งตบะแตกก็ไปต่อว่าคนที่พูดคุยกัน เวลากวาดใบไม้ก็บ่นว่าใบไม้ร่วงเยอะ กวาดไปก็หงุดหงิดไป เวลาทำงานก็มักรู้สึกว่าถูกเพื่อนกินแรงอยู่เสมอ บางทีเขียนหนังสือแล้วปากกาฝืด ก็โมโหขว้างปากกาทิ้ง ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของหลวงพ่อมาตลอด
วันหนึ่งหลวงพ่อบอกให้พระหนุ่มไปเอาเกลือจากในครัวมาหนึ่งห่อ เอาน้ำมาหนึ่งแก้ว แล้วก็ให้เทเกลือครึ่งหนึ่งลงไปในแก้ว จากนั้นก็ให้พระหนุ่มชิมน้ำนั้นดู แล้วถามว่าเป็นอย่างไร พระหนุ่มก็ตอบว่า เค็มมากครับหลวงพ่อ ทีนี้หลวงพ่อก็พาไปที่ลำธาร เอาเกลือที่เหลือโรยลงไปในลำธาร แล้วให้พระหนุ่มชิมน้ำในลำธาร
หลวงพ่อถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง พระหนุ่มตอบว่าจืดครับหลวงพ่อ ในใจก็สงสัยว่าหลวงพ่อตั้งใจจะสอนอะไรหรือ หลวงพ่อให้พระหนุ่มคิดสักพัก พระหนุ่มก็คิดไม่ออก หลวงพ่อจึงบอกพระหนุ่มว่า ความทุกข์ก็เหมือนกับเกลือ มันจะเค็มหรือไม่ขึ้นอยู่กับใจเราว่าเป็นแค่น้ำแก้วหนึ่ง หรือเป็นลำธารหนึ่งสาย
ความทุกข์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรามันเป็นอย่างนั้น มันจะหนักหรือเบา ก็ขึ้นอยู่กับใจของเรา ว่าใจเราเปรียบเหมือนกับน้ำแก้วเล็ก ๆ หรือลำน้ำอันกว้างใหญ่ เวลาเราเจออะไรที่ไม่พอใจ ถ้าหากว่าเรามีความขุ่นเคือง มีความทุกข์มาก แสดงว่าใจของเรานั้นเล็กและแคบเหมือนกับแก้วน้ำ
สิ่งที่มากระทบเรา สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา จะทำให้เราเจ็บปวดหรือขุ่นเคืองหรือไม่ อยู่ที่ใจเรา ถึงแม้ใบไม้จะเยอะ เพื่อนร่วมงานจะไม่น่ารัก ดินฟ้าอากาศจะไม่เป็นใจ แต่มันทำให้เราทุกข์ไม่ได้ ถ้าหากว่าใจเราใหญ่เหมือนแม่น้ำ จะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพจิตของเรา คนที่ใจแคบ ใจเล็ก คิดถึงแต่ตัวเอง เจออะไรมากระทบก็ทุกข์ โกรธ ไม่พอใจไปหมด แต่คนที่ใจกว้างใหญ่ แม้จะมีเรื่องใหญ่ ๆ เกิดขึ้น เขาก็สามารถรักษาใจให้เป็นปกติได้
ข้อธรรม คำสอน พระไพศาล วิสาโล
@@@@@
Cr.Fwd line :Supol Lohachitkul
***************************************
ปล่อยวาง (คลิก)
บางเรื่องก็ต้องตัดใจ (คลิก)
*********
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น