วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การสวดมนต์


           มนต์ หมายถึง คำสอนอันเป็นหลักปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ฉะนั้น การสวดมนต์ก็หมายถึง การท่องบ่นคำสอนอันเป็นหลักปฏิบัติในชีวิตประจำวันเพื่อให้จำได้ และเอาไปคิดพิจารณา จะได้เกิดปัญญาในเรื่องนั้นๆ ไม่ไช่สวดเพื่อความขลัง หรือเรื่องที่จะทำให้เราเป็นไปโดยความขลัง
          เวลาสวด ควรสวดให้มีจังหวะจะโคนอย่าเร็วเกินไป พยายามสวดให้มีวรรคตอนพอดีๆ จะได้เกิดความสบายใจ ในขณะที่สวดก็คงจะคิดไม่ทันเรื่องความหมายของถ้อยคำที่เราสวด แต่ว่าเราสวดเพื่อให้จำได้ จำได้แล้วก็เอาไปพิจารณาในตอนหลัง ถึงความหมายของบทสวดมนต์แต่ละบท เช่น ถ้ามีหนังสือสวดอยู่ที่บ้าน ว่างๆ เราก็เอามาเปิดอ่าน เป็นบทๆ แล้วพิจารณาถึงบทสวดนั้นๆ เพื่อทำความเข้าใจในความหมายที่ลึกซึ้ง เพราะเพียงแต่สวดเฉยๆ ทำให้จำได้อย่างเดียว แต่ว่าเราไม่เข้าใจถึงเนื้อความในเรื่องที่สวด ทำให้ผลที่เกิดขึ้นนั้นยังไม่สมบูรณ์
           ถ้าเราเข้าใจความหมายของเนื้อเรื่องนั้นถูกต้อง แล้วนำเรื่องนั้นไปเป็นหลักปฏิบัติในชีวิตประจำวัน นั่นแหละจะช่วยให้เราได้ประโยชน์จากการสวดมากขึ้น เพราะฉะนั้นจึงใคร่ขอแนะนำว่า เวลาเราอยู่บ้านว่างๆ ไม่มีอะไรจะทำ จะไปคิดเรื่องอะไรมันก็กลุ้มใจไปเปล่าๆ เป็นการหาเรื่องทุกข์มาให้ตนเอง เราก็เอาหนังสือสวดมนต์มานั่งพิจารณา..
                               หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ
............................
(จากหนังสือ คู่มืออุบาสก อุบาสิกา ฯ ของ สำนักสวนโมกขพลารามไชยา)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น