(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)
เมืองสาวัตถี สมัยพุทธกาลเป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศลมีพระเจ้าปเสนทิโกศลเป็นกษัตริย์และถือว่าเป็นสถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงประทับนานที่สุดคือ ๒๕ พรรษา ได้ทรงแสดงพระสูตร พระวินัย และชาดกที่สำคัญเช่นเรื่องนางจิญจามาณวิกา, โจรองคุลิมาล,ปฏาจารา และ พระเทวทัตถูกธรณีสูบ ฯลฯ
เช้ามืดของวันที่เก้าในอินเดีย เราออกเดินทางจากที่พักวัดเกาหลีไปนมัสการสถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงแสดง ยมกปฏิหาริย์ เพื่อโปรดชาวสาวัตถีและข่มเจ้าลัทธิอื่น จากนั้นทรงเสด็จไปประทับจำพรรษาที่ดาวดึงส์ เมื่อออกพรรษาทรงเสด็จลงมาจากสวรรค์ในวันเทโวโรหนะที่สังกัสสนคร
ลงจากเนินดินสถานที่ทรงแสดงยมกปฏิหาริย์ คณะเราไปรับประทานอาหารเช้าที่วัดไทยเชตวัน ฯ
จากนั้นก็ไปที่ เชตวันมหาวิหาร พระอารามนี้ท่านอนาถบิณฑิกะเศรษฐี เห็นสวนเจ้าเชตกุมารเหมาะสมที่จะสร้างเป็นอารามถวายแด่พระพุทธเจ้า จึงได้เจรจาขอซื้อ เจ้าเชตได้เสนอราคาที่ดินโดยการให้นำแผ่นทองมาปูเรียงจนเต็มบริเวณที่ต้องการซื้อทั้งหมด ท่านจึงให้คนนำเกวียนบรรทุกแผ่นทองมาเรียงจนเกือบเต็มพื้นที่ เจ้าเชตเห็นถึงศรัทธาจึงร่วมทำบุญโดยมอบที่ที่เหลือให้ ท่านอนาถบิณฑิกะจึงได้จารึกชื่อเจ้าเชตไว้ที่ซุ้มประตู อันเป็นที่มาของชื่อวัดว่า "เชตวันมหาวิหาร"
"..อเสวนา จะพลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง.."มงคลสูตร บทสวดนี้ชาวพุทธจะคุ้นเคยเนื่องจากเป็นบทสวดที่พระสงฆ์จะใช้สวดในงานมงคล ขณะที่ทำน้ำพระพุทธมนต์ บทสวดนี้เป็นพระสูตรที่พระพุทธองค์ทรงแสดงที่"พระเชตวันมหาวิหาร" แห่งนี้
......
อานนท์โพธิ์ ที่เชื่อว่าพระโมคคัลลานะนำเมล็ดพันธ์จากต้นพระศรีมหาโพธิ์
ที่พุทธคยามาให้กับอนาถบิณฑิกะเศรษฐีปลูก
ตามที่พระพุทธเจ้าบอกกับพระอานนท์ว่าต้นพระศรีมหาโพธิ์
ที่พระองค์ทรงประทับเมื่อตรัสรู้ถือเป็นตัวแทนของพุทธองค์ได้
...............
บริเวณหน้าพระเชตวันมหาวิหารที่เทวทัตถูกธรณีสูบ
จากนั้นไม่ไกลมากนักเราไปที่บ้านองคุลิมาล และบ้านอนาถบิณฑิกะเศรษฐี ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กันอยู่ริมแม่น้ำอจิรวดี
กลับมารับประทานอาหารกลางวันที่วัดไทยเชตวัน ฯพร้อมกับร่วมกันทำบุญเพื่อบำรุงวัดซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
วัดเกาหลีที่เราพักเมื่อคืนนี้
.....
วันนี้ถือว่าเป็นวันที่พระอาจารย์วิทยากร พระอาจารย์ จิตติพันธ์ กิตติวังโส จบภารกิจกับคณะของเราเนื่องจากการแสวงบุญสังเวชนียสถานตั้งแต่ สารนาถ พุทธคยา ราชคฤห์ ไวสาลี กุสินารา ลุมพินีและสุดท้ายคือที่สาวัตถี ครับ...พวกเราขอกราบขอบพระคุณที่ท่านได้กรุณาให้ความรู้ตลอดเวลาที่อยู่กับพวกเรา และกราบขอขมาในสิ่งที่อาจจะล่วงเกินท่านพระอาจารย์โดยมิได้ตั้งใจ...
คณะเรายังเดินทางต่อไปยังเมืองลักเนาว์ เมืองอัคราเพื่อชมทัชมาฮาล และอัครา ฟอร์ท และไปขึ้นเครื่องบินกลับบ้านที่เดลลี
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น