วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556

กองทุนสวัสดิการ นรจ.๐๙ (๒)


....หลังจาก"เล่าสู่กันฟัง" ใน กองทุนสวัสดิการ นรจ.๐๙  (คลิกที่นี่ ) มีเพื่อนท่านหนึ่งเข้ามา"เล่าสู่กันฟัง"ด้วย ก็ขอออนุญาตนำมาถ่ายทอดไว้ ณ ที่นี้ด้วย ครับ...
..............................
เล่าสู่กันฟัง

คุยกับชลิตเมื่อประมาณ พฤษภาคม 54 เรื่องงานเลี้ยงรุ่น ชลิตเปรยให้ฟังว่า มีความตั้งใจและคิดอยู่เสมอว่าจะขอทำอะไรเพื่อรุ่นสักครั้ง และครั้งนี้ก็ได้โอกาศที่จะทำงานเพื่อเพื่อน นรจ.09 คือเป็นประธานจัดงานเลี้ยงรุ่นติดต่อกันสองครั้งในระยะเวลาสองปี... ถามว่าจะหาเงินทุนอย่างไร ชลิตบอกว่า ได้สะสมเงินส่วนตัวไว้ก้อนหนึ่งจากเงินบำนาญรายเดือนซึ่งเข้าบัญชีไว้ได้สองแสนกว่า จะใช้เงินก้อนนี้เป็นทุนสำรองหมุนเวียนในการจัดงานเลี้ยงรุ่นทั้งสองปี... ฟังครั้งแรกก็รู้สึกอึ้ง และทึ่งในความตั้งใจที่ดีงามและเด็ดเดี่ยวของชลิต เคยคิดว่าเพราะชลิต "มี" จึงทำได้ แต่ไม่ใช่ เพราะว่า "มี" กับ "ให้" นั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง

งานเลี้ยงรุ่นเมื่อ 31 มีนาคม 2555 จัดงานเลี้ยงแบบเปิด คือให้เพื่อนที่มาร่วมงาน บริจาคเพื่อสมทบทุนในการจัดงานตามกำลังของแต่ละคน ชลิตได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อจะดึงให้เพื่อน ๆ มาร่วมงานกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทุ่มทั้งแรงกาย ความคิด และกำลังทรัพย์ ... ในความคิดเห็นส่วนตัว ผมยังสงสัยว่าเพื่อน ๆ เราต้องใช้กุศโลบายมากมายขนาดนี้เชียวหรือจึงจะดึงเพื่อน ๆ ให้มาพบปะกันได้ ??? วันนั้นมีเพื่อนมาร่วมงาน 161 คน ใช้เงินทุนเท่าไหร่ ขาดเหลือเท่าไหร่ ทวีศักดิ์ได้บอกไว้คร่าว ๆ แล้วข้างต้น

งานเลี้ยงรุ่นเมื่อ 23 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา ชลิตได้ทุ่มแบบสุดตัวอีกครั้ง โดย
- คิดค่าอาหารและเครื่องดื่มจากเพื่อนคนละ 600 บาทรวมผู้ติดตาม
- ทำเสื้อที่ระลึกให้เพื่อนคนละตัว ราคาตัวละ 210 บาท
- ทำหนังสือทำเนียบรุ่น พิมพ์สีแจกคนละ 1 เล่ม
เราได้แสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางต่อเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะเรื่องเสื้อ จำนวน 210 ตัว ตัวละ 210 บาท เป็นเงิน 44,100 บาท จะเอาเงินจากไหน เพราะค่าอาหารคนละ 600 บาท คงจะไม่เหลือมาเจือจานค่าเสื้อ ชลิต บอกให้พวกเราช่วยบริหารจัดการเรื่องงานโดยไม่ต้องวิตกเรื่องค่าเสื้อ...

เรื่องหนังสือทำเนียบรุ่น พิมพ์สี 62 หน้า พร้อมปกหน้าหลัง ร้านพิมพ์คิดเล่มละ 300 บาท... เหงื่อแตก หน้าซีด ไปตาม ๆ กัน ต้องหาทางออกโดยช่วยกันทำเองตั้งแต่รวบรวมรูปและข้อมูลพิมพ์ลงคอมพิวเตอร์ (อนันต์ ช. และ ทวีศักดิ์ ส.) เมื่อทำไฟล์เสร็จ พิมพ์เป็นตัวอย่าง 3 เล่ม เพื่อแบ่งกันตรวจสอบความถูกต้อง (ชลิต ก. สำราญ ศ. อนันต์ ช.) ... แก้ไขข้อมูลแล้วมอบให้ ชลิต ดำเนินการพิมพ์ ที่สำนักงานทนายความฯ โดยชลิตได้ซื้อเครื่องพิมพ์อิงค์เจ๊ทใหม่ 1 เครื่อง ติดตั้งแทงค์หมึกสี พิมพ์จำนวน 150 ชุด ๆ ละ 64 หน้า (รวมปกและใบคั่นหน้า) รวมจำนวนพิมทั้งหมด 9,600 หน้า (4,800 แผ่นกระดาษ A4) เมื่อพิมพ์เสร็จแล้ว (ใช้เวลาพิมพ์มากกว่า 10 วันงาน) ได้ระดมกำลังกันเพื่อจัดเรียงหน้าและเย็บเล่ม (ชลิต ก. โสภณ อ. สำราญ ศ. วิจิตร อ. อนันต์ ช. ทวีศักดิ์ ส. และ วิเชียร ม.) ใช้เวลา 1 วันงาน ทำเสร็จ 100 เล่ม และเรียงหน้าไว้อีก 35 ชุด นำไปเย็บเล่มในวันงาน... คนแก่ได้ทำ Mission impossible อีกครั้ง... มีเพื่อนมาร่วมงาน 128 คน (ข้อมูล ทวีศักดิ์ 126) กรรมการได้จัดทำบัญชีแยกค่าอาหารและ เงินบริจาคเพื่อสวัสดิการรุ่น รายละเอียดโดยย่อตามความของทวีศักดิ์ ชลิตได้ใช้เฉพาะเงินค่าอาหารเท่านั้นในการจัดงานเลี้ยง ส่วนเงินสวัสดิการไม่ได้นำมาใช้จ่ายในงานเลี้ยงแต่อย่างใด... ค่าใช้จ่ายในงานเลี้ยงเกินจากเงินค่าอาหารเฉียดแสน.... อนุสนธิจากการจัดงานรุ่นสองปี ทำให้หน้าแข้งของชลิตสะอาดเกลี้ยงเกลาไปเยอะ... เหตุผลที่ ชลิต ไม่แจกแจงรายละเอียด ก็คือว่า ได้ทำตามที่ตนเองได้ตั้งใจไว้สมบูรณ์แล้ว คงไม่ต้องบอกใคร (มั้ง)

วิเชียร ม. เล่าให้ฟัง


.................................
หมายเหตุ  จำนวน ๑๒๖ คน เป็นยอดในวันงาน มีเพื่อนบริจาคเพิ่มภายหลังอีก ๒ คน รวมเป็น ๑๒๘ คน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น