โลกเราทุกวันนี้ยังมีความเร่าร้อนวุ่นวายสับสน ยังหนีสิ่งชั่วซึ่งมีมาแต่เดิมไปไม่พ้น การดูถูกดูหมิ่น การอิจฉาริษยา การเบียดเบียน การทรยศหักหลัง การเอาเปรียบ การคดโกงกัน การทะเลาะวิวาท ตลอดจนการรบราฆ่าฟันกัน ยังคงมีอยู่ในหมู่มนุษย์ทั่วไป ความชั่วทั้งหลายเหล่านี้ ธรรมชาติมิได้ก่อขึ้นเลย แต่มนุษย์นั่นเองเป็นผู้ก่อ บรรดาศาสดาของลัทธิและศาสนาต่าง ๆ พยายามคิดค้นและวางหลักไว้ สำหรับมนุษย์ปฏิบัติ เพื่อสร้างความสันติสุขให้แก่โลก โดยให้มนุษย์ทำแต่ความดีและให้ละความชั่ว
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นศาสดาของพระพุทธศาสนา ก็ทรงกระทำเช่นนั้นเหมือนกัน แต่นอกจากจะทรงสอนให้มนุษย์ ทำแต่ความดี ละความชั่วแล้ว พระองค์ยังทรงสอนให้มนุษย์ชำระจิตให้บริสุทธิ์อีกด้วย ดังปรากฏในคำสอนของพระองค์ที่เรียกว่า " โอวาทปาติโมกข์ "
สพพฺปาปสฺส อกรณํ การไม่ทำบาปทั้งปวง
กุสลลสฺสูปสมฺปทา การทำกุศลให้ถึงพร้อม
สจิตฺตปริโยทปนํ การชำระจิตให้ผ่องแผ้ว
เอตํ พุทฺธาน สาสนํ นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
*****
พระอริยเจ้าทั้งหลาย มีปกติเป็นอย่างนี้
ทำในสิ่งที่ผู้อื่นทำได้ยาก
อดทนในสิ่งที่ผู้อื่นอดทนได้ยาก
เอาชนะในสิ่งที่ผู้อื่นเอาชนะได้ยาก
ท่านจึงได้รับสิ่งที่คนทั้งหลายรับได้ยาก
*****
โลกียชน ผู้ไม่พ้นโลก
มุ่งแสวงหาสิ่งที่มี แล้วก็อยู่กับสิ่งที่มี
แต่
โลกุตตรชน ผู้อยู่เหนือโลก
มุ่งแสวงหาสิ่งที่ไม่มี แล้วก็อยู่กับสิ่งที่ไม่มี
*****
ราหุล เธอจงทำใจให้เหมือนแผ่นดินเถิด เพราะเมื่อเธอทำใจให้เหมือนแผ่นดินเป็นประจำอยู่เสมอแล้ว เมื่อกระทบกับอารมณ์ที่ชอบใจหรือไม่ชอบใจก็ดี อารมณ์เหล่านั้น ก็ไม่สามารถที่จะทำจิตของเธอให้หวั่นไหวได้
เปรียบเหมือนคนทั้งหลาย ทิ้งของที่สะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง ถ่ายอุจาระบ้าง ถ่ายปัสสาวะบ้าง บ้วนน้ำลายบ้าง เทของสกปรกบ้าง ลงบนแผ่นดิน แผ่นดินก็ไม่รู้โกรธ รู้ขัดรู้เคือง แผ่นดินจะอึดอัดระอาและรังเกียจ สิ่งเหล่านั้นก็หามิได้
ราหุล ถ้าเธอทำใจให้เหมือนแผ่นดินเป็นประจำอยู่เสมอได้เช่นนี้แล้ว อารมณ์ทั้งหลาย ก็ไม่สามารถครอบงำจิตของเธอได้
*******
(จากหนังสือ ทางสายเอก(ฉบับสมบูรณ์)พระราชพรหมาจารย์(พระอาจารย์ทอง สิริมงฺคโล) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร)
*******
*******
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น