....รู้จักตัณหา นั้นก็คือรู้จัก รูปตัณหา ตัณหาในรูป สัททตัณหา ตัณหาในเสียง คันธตัณหา ตัณหาในกลิ่น รสตัณหา ตัณหาในรส โผฏฐัพพตัณหา ตัณหาในสิ่งที่ถูกต้อง ธรรมตัณหา คือตัณหาในธรรมารมณ์ อันได้แก่เรื่องราว และท่านได้แสดงอธิบายต่อไปว่า รู้จักเหตุเกิดตัณหานั้น ก็คือรู้จักว่าความเกิดขึ้นแห่งตัณหามีขึ้น ก็เพราะความเกิดขึ้นแห่งเวทนา และได้แสดงถึงความดับตัณหาว่า ความดับตัณหามีขึ้นก็เพราะดับเวทนา แสดงทางปฏิบัติให้ถึงความดับตัณหาว่า มีมรรคมีองค์ ๘ คือมรรคมีองค์ ๘ มีสัมมาทิฏฐิความเห็นชอบ เป็นต้น...(สมเด็จพระญาณสังวร)
วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556
สัมมาทิฏฐิสูตร(๑๓)
....รู้จักตัณหา นั้นก็คือรู้จัก รูปตัณหา ตัณหาในรูป สัททตัณหา ตัณหาในเสียง คันธตัณหา ตัณหาในกลิ่น รสตัณหา ตัณหาในรส โผฏฐัพพตัณหา ตัณหาในสิ่งที่ถูกต้อง ธรรมตัณหา คือตัณหาในธรรมารมณ์ อันได้แก่เรื่องราว และท่านได้แสดงอธิบายต่อไปว่า รู้จักเหตุเกิดตัณหานั้น ก็คือรู้จักว่าความเกิดขึ้นแห่งตัณหามีขึ้น ก็เพราะความเกิดขึ้นแห่งเวทนา และได้แสดงถึงความดับตัณหาว่า ความดับตัณหามีขึ้นก็เพราะดับเวทนา แสดงทางปฏิบัติให้ถึงความดับตัณหาว่า มีมรรคมีองค์ ๘ คือมรรคมีองค์ ๘ มีสัมมาทิฏฐิความเห็นชอบ เป็นต้น...(สมเด็จพระญาณสังวร)
ป้ายกำกับ:
ธรรมทาน,
สมเด็จพระญาณสังวร
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น