วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2566

พบเพื่อนเก่า เล่าความหลัง

Cr.fb:นรจ.09"Old Sharks" จาก มาโนช พ.

ความรักความผูกพันมันมาตามสถานการณ์ จากประสบการณ์ร่วมกันของ นรจ.09 ตอนเป็น ปี ๒


เคยคุยกับเสน่ห์ รักนาก ถึงเรื่องการจดจำเพื่อนว่ารุ่นเรา ใครจำเพื่อนได้มากกว่ากัน เสน่ห์ฯ บอกว่า ถ้าไม่นับครูชุมพล นายตอน ๑  ประสาท สมสกุล จำเพื่อนได้แม่น และมาก ส่วนเราจำได้ไม่น้อยแต่ก็ไม่มาก จะจำได้ก็เพื่อนที่มีวีรกรรมเด่นๆ ตั้งแต่ปี ๑...


 สุรีย์ ส. บุญโฉลก พ. ถ้าจับคู่กันมีเรื่องให้หัวเราะตลอดเวลา พอขึ้นปี ๒ รร.ชุมพลฯขาดสุรีย์ ส. แต่มี กิตติ  บ.มาแทน...มีเรื่องขำๆ มาแบบไม่รู้ตัว เรามองบุญโฉลก แตกต่างจากที่ครูมอง คือ เรามองบุญโฉลก เป็นเพื่อนแท้ เป็นผู้ใหญ่ในมุมของเขา บุญโฉลก ไม่เคยว่าเพื่อน ไม่เคยตำหนิเพื่อน ไม่เคยทำหน้าไม่พอใจเพื่อนให้เห็นเลย ยามมีวิกฤต บุญโฉลกเป็นคนมองเหตุการณ์ได้ไกลอย่างคิดไม่ถึง...


ปี ๒ ของ นรจ. 09

- ที่เรียนกรุงเทพฯ มีข่าวดังลงหน้าหนึ่งตัวหัวไม้หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ...


- ส่วนที่ รร.ชุมพล ก็ทนหนาวเหน็บกันแทบไม่ไหว...มีกรณี ย้ายนักโทษออกจากห้องขัง แล้วจับลูกหมาขังแทน ลูกหมาน่ารักสีขาวสวยตั้งหลายตัวหลายครอก คำถามคือ"หมามันทำผิดอะไร" หรือว่า มีการนิรโทษกรรมนักโทษ แล้วจับหมาขังแทน หรือว่าให้หมารับโทษแทน...เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น...แล้วยังไง ?


คำตอบอยู่ที่ตัวหมา หมาทุกตัวมีชื่อเหมือนคน แล้วมันผิดตรงไหน แค่มีชื่อเหมือนคนมันไม่ผิดหรอก  แต่ผิดที่มันมีชื่อเขียนติดตัวมัน มันก็ไม่น่าจะผิด...แต่มันก็ผิดอยู่ดี เพราะมันมีชื่อเหมือนชื่อ"จ่าปกครอง" ที่เป็นผู้ช่วยนายตอน...สรุป คือ เอาชื่อจ่าปกครองเขียนใส่หนังหมาวิ่งไปทั่วโรงเรียนชุมพลฯ


อานิสงส์ที่ได้รับคือ หลังแถวสามทุ่ม "ปี ๒ อยู่ก่อน ปีหนึ่งเลิกแถว"  แล้วก็จะได้ยินเสียงนายตอนบอกให้ยอมรับว่าใครเป็นคนเขียน.. หรือใครรู้ว่าใครเขียน  ไม่มีคำตอบ  ก็โดนกันพร้อมหน้า วิ่งรอบเสาธง ยึดพื้น สก๊อตจ๊ำ เลยเที่ยงคืนทุกๆคืน...นอกจากไม่มีคนรับแล้ว ยังมีคนพูดว่า"ไม่ว่าใคร ก็ห้ามรับเด็ดขาด จะไล่ปี ๒ ออกทั้งหมดก็ยอม"...


โทษฑันท์ก็เพิ่มขึ้นทุกวัน ห้ามปี ๒ ออกไปแผง มีการลงโทษให้ลงแช่น้ำหน้า บก. น้ำหน้า บก. เป็นน้ำที่ไหลมาจากห้องอาบน้ำ และน้ำใช้แล้วจากโรงครัว เหม็นเปรี้ยว เสร็จแล้วห้ามอาบน้ำ...โดนหลายๆ วันเข้าก็เป็นเกลื้อน...กิตติ บุญธรรม มาช่วยเพื่อนไว้...ในค่ำคืนหนึ่ง ขณะที่ทุกคนแช่น้ำอยู่อย่างทรมาน...ก็มีเสียงตะโกนว่า" งู ๆ เฮ้ยย ไอ้เห้...งูๆ " เท่านั้นแหละ ไม่มีคนเหลือในน้ำเลย ขึ้นกันหมดฯ กิตติ บ. เป็นนายตำรวจสืบที่มีฝีมือคนหนึ่ง(นำร่องที่มาจากตำรวจน้ำเล่าให้ฟัง) ตั้งแต่คืนนั้นการโดนแช่น้ำเลิกไป


หลังจากคืนนั้นการทำโทษเปลี่ยนเป็น ทำกันที่หน้าโรงอาหาร...จนวันหนึ่งมีการนัดหมายกันว่า"นรจ.09 ปี ๒ จะหนีออกกันทั้งโรงเรียน" มีคนที่ไม่รู้เรื่องนี้ 11 คน คือ ๒ คน ที่จะไปเรียนเตรียมทหาร กับ หัวหน้านักเรียน และหัวหน้าตอนทั้ง 8 ตอน แต่มีข่าวรั่ว ในตอนดึกวันที่นัดกันหนี มี ผช.นายตอนเที่ยวได้ปลุกตามหัวเตียงปี ๒ แล้วถามว่า "ไปหรือเปล่า" คำตอบคือ"ไป" เหมือนกันหมด...เหตุการณ์นี้จบลงด้วยการประชุม ปี ๒ ที่โรงยิมใหม่ข้างสนามฟุตบอล โดย ผบ.โรงเรียนเรียกประชุมกับ นรจ.ปี ๒ โดยเฉพาะเท่านั้น ไม่มีจ่าปกครอง ไม่มีนายตอนเข้าร่วมประชุมแม้แต่คนเดียว"...เคยถามบุญโฉลกว่า ทำไมเราไม่รู้เรื่อง คำตอบประมาณว่า"หน.นักเรียน หัวหน้าตอนถ้าร่วมด้วยซวยแน่ เพราะแค่ 9 คน ไม่มีอำนาจต่อรอง"...บุญโฉลกฯ เป็นเพื่อนที่ดีอีกคนนับตั้งแต่ ตอน ๖ อาคาร ๒ โรงเรียนพลทหารเรือฯ

*****

Cr.มาโนช พ.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น