...เดินทางกันต่อครับ...หลังจากช่วงเช้าเราเข้าชมปราสาทบันทายศรี"ปราสาทสีชมพู"และแวะชม พิพิธภัณฑ์ทุ่นระเบิด แล้วเราก็เดินทางกลับเพื่อเข้าชมนครวัดในช่วงบ่ายจนถึงค่ำ...
ระหว่างทางกลับเข้าไปชมนครวัดก่อนถึงนครวัด จะมีสถานที่สำคัญอีกแห่งคือสระสรง(Srah Srang) ว่ากันว่าเป็นสถานที่สรงน้ำของกษัตริย์ เป็นสระน้ำใหญ่พอสมควร เราได้แต่ชมบนรถ เพื่อที่จะให้มีเวลาเดินชมนครวัดได้นานๆ..
เราเข้านครวัดทางประตูทิศตะวันออก และจะไปออกทางทิศตะวันตก นครวัดหันหน้าไปทางทิศตะวันตก นครวัดสร้างในรัชสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 (ราวพ.ศ.1656 - 1693) เทียบเคียงช่วงเวลานี้ในพื้นที่ประเทศไทยปัจจุบันคือ อาณาจักรละโว้(พ.ศ.1543 - 1643)พื้นที่ปัจจุบันคือเมืองลพบุรี พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 สร้างเป็นปราสาทประจำรัชกาลและศาสนาฮินดู และยังเป็นพระราชสุสานของพระองค์ด้วย..นครวัดมีขนาด 1.6 ตารางกิโลเมตร..
เราเข้าทางทิศตะวันออก ซึ่งจะเป็นด้านหลังของตัวปราสาท
บริเวณด้านหลังนครวัด
(ทิศตะวันออก)
เราขึ้นเดินชมปราสาททางด้านหลังจากนั้นก็เดินชมไปรอบระเบียงคต
โปรดสังเกตที่น่าอกนางอัปสรจะมีความมันเงา...!!!??
คนกัมพูชาเชื่อว่าหากใครอยากมีลูกให้ขอกับนางอัปสรโดย
ใช้มือลูบที่หน้าอกนางอัปสร..!!
ว่ากันว่าจำนวนนางอัปสรในปราสาทนครวัดมีจำนวน 1700 นาง
ภาพสลักนูนต่ำอยู่ภายในระเบียงคตเป็นภาพเรื่องราวต่างๆ
ซึ่งจะมีคำอธิบายให้ทราบว่าเป็นเรื่องราวใด
ชมในปราสาทแล้วมาออกทางหน้าปราสาททางทิศตะวันตก
ซึ่งเป็นด้านหน้าของปราสาทเป็นทางเข้าปราสาท
มีสะพานนาค
ด้านทิศตะวันตก(ด้านหน้า)ของปราสาทนครวัด
เป็นบริเวณที่นักท่องเที่ยวจะมาชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า
ภาพนครวัดเมื่อตอนเช้ามืดที่เราเข้ามาชม...
เราตั้งใจว่าจะใช้เวลาชมนครวัดจนหมดเวลาคือ 17.30
แต่วันนี้ราวๆบ่ายสี่โมงฝนตั้งเค้ามาแล้ว..เราจึงต้องรีบออกจากนครวัด..
กลับที่พัก...พรุ่งนี้จะใช้เวลาที่ นครธม ทั้งวันครับ...
*********
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น