วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2565

หลักกรรม

 ระยะเวลาจากชาติหนึ่งไปถึงอีกชาติหนึ่ง 

กำหนดแน่นอนไม่ได้ 

.

ถ้าวิญญาณก้าวหน้ามาก มีคุณธรรมสูงมาก 

จะอยู่ในโลกทิพย์ (สวรรค์) นานเป็นพันๆหมื่นๆปี 

เพื่อย่อยประสบการณ์ต่างๆ เข้าสู่อุปนิสัย

แล้วมาเกิดในโลกมนุษย์อีก 

เพื่อหาโอกาสเรียนรู้บทเรียนที่ยังเหลืออยู่บางบท 

เขาสมัครใจมาเกิดเพื่อทำหน้าที่เป็นครูสอนมนุษย์

 หรือช่วยเหลือมนุษย์ในการพัฒนาจิตใจ

.

 การตายแล้วเกิดเป็นกระบวนการที่สิ้นสุดได้ 

ถ้าเราสามารถพัฒนาวิญญาณให้สมบูรณ์ 

จนไม่มีความชั่วหลงเหลืออยู่เลย

.

ชีวิตเพียงชาติเดียวไม่เพียงพอ

ที่จะหาประสบการณ์ให้แก่วิญญาณได้ 

เรียกว่าเกือบจะไร้จุดมุ่งหมายเอาทีเดียว 

.

เหมือนนักเรียนมาโรงเรียนเพียงวันเดียว

จะทันได้เรียนรู้อะไร 

เด็กที่เกิดมาในแหล่งสลัมในนครใหญ่ๆนั้น 

จะมีประโยชน์อะไร ถ้าเขาเกิดมาเพียงชาติเดียว 

แต่เพราะเหตุที่ไม่มีอะไรสูญ ไม่มีอะไรถูกลืม

 ไม่ว่าชีวิตจะสั้นเพียงใด มันย่อมมีบางสิ่งบางอย่าง 

อันมีคุณค่าแก่การทรงจำของวิญญาณ 

หรือเป็นการใช้หนี้เก่าบางอย่างที่เคยทำมาในชาติอดีต

.

โชคชะตาของแต่ละคน 

จึงเป็นผลรวมแห่งการกระทำในอดีตของเขาเอง 

ความสามารถทางจิต สภาพทางกาย 

อุปนิสัยทางศีลธรรม และเหตุการณ์สำคัญในชาติหนึ่งๆ 

ย่อมเป็นผลแห่งความปรารถนา 

ความคิดความตั้งใจของเราเองในอดีต 

โชคชะตามิใช่ใครจะหยิบให้ใครได้ 

แต่มันเป็นผลรวมแห่งการกระทำของเราเอง

ในอดีตจนถึงปัจจุบัน 

.

ความต้องการในอดีตของเรา

เป็นสิ่งกำหนดโอกาสในปัจจุบันของเรา 

ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นลอยๆ 

.

สภาพปัจจุบันของเราเป็นผลแห่งการกระทำ 

ความคิดและความต้องการของเราในอดีต 

ไม่เฉพาะแต่ในชาติก่อนเท่านั้น 

แต่หมายถึงในตอนต้นๆ แห่งชีวิตปัจจุบันของเขาด้วย

.

เพราะเหตุที่การเกิดใหม่มีจุดมุ่งหมายนั่นเอง 

เราจะเห็นว่าในบางยุค

มีนักปราชญ์มาเกิดมากมายเป็นหมู่ๆ เหมือนนัดกันมาเกิด 

ทั้งนี้เพื่อทำประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง 

ที่ท่านทำคั่งค้างไว้ให้เสร็จไป


================


#หลักกรรมและการเวียนว่ายตายเกิด

#เพจอาจารย์วศิน อินทสระ

#ท่านอาจารย์วศิน อินท

สระ

******

Cr.https://www.facebook.com/168433800013130/posts/1896351447221348/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น