(ภาพจากอินเตอร์เนต)
♡♡♡ 辭職信裏的十一塊錢 。> เงินสิบเอ็ดเหรียญในซองจดหมายลาออก ♡♡♡
《 ลังเลไม่ได้อีกต่อไปแล้ว จำเป็นต้องไปแล้ว 》
เขาจบสาขาการเงินการบัญชี แต่เมื่อเข้ามาในบริษัทฯแห่งนี้ กลับจับพลัดจับผลูไปเป็นเลขาฯ ของผู้อำนวยการ เลขาฯ ผู้อำนวยการฟังแล้วดูดี แท้จริงแล้ว งานที่ทำก็คือกวาดพื้น รินน้ำ เช็ดโต๊ะ เวลาที่ยุ่งๆ เขาแทบจะกลายเป็นปลาสเตอร์รักษาสารพัดโรค ที่ไหนก็แปะ
พนักงานบริษัทฯประชุม เขาคือพนักงานทั่วไป ผู้บริหารระดับสูงประชุม เขาคือพนักงานบริการ อีกทั้งบางครั้งยังต้องไปช่วยงานในฝ่ายผลิต บรรจุสินค้าจนเหงื่อไหลไคลย้อย ทุกคนล้วนดูถูกแม้แต่ตัวเขาเองยังดูถูกตัวเอง อยู่ที่นี่เขารู้สึกว่าสุดแสนจะทุเรศ ไม่มีค่าใดๆ กับการที่มีตัวตนอยู่
มีวันหนึ่ง เจ้านายไปต่างประเทศ ต้องอีกสักระยะเวลาหนึ่งจึงจะกลับมา ดังนั้น เขาจึงทำการเขียนจดหมายลาออก มอบให้กับเลขาฯอีกคนหนึ่ง ให้เขามอบต่อให้กับเจ้านาย จากนั้น จัดเก็บของแล้วจากไป
ลาออกแล้ว เริ่มต้นหางานใหม่ ไม่ง่ายเลยแม้แต่นิดเดียว เขาไปสมัครงานกับบริษัทฯ หลายบริษัทฯ ล้วนประสบแต่ความล้มเหลว จนในที่สุดจึงหางานได้ตรงตามที่ตนเองได้ร่ำเรียนมาด้วยความยากลำบาก
ไม่คาดคิด ทำงานในบริษัทฯแห่งใหม่ได้ไม่นาน เขากลับได้รับโทรศัพท์จากเจ้านายบริษัทฯเก่ากะทันหัน เจ้านายต้องการให้เขากลับไป
กลับไป...เขายิ้มอย่างขมขื่น เป็นไปได้อย่างไร กลับไปเพื่อไปทำงานที่ต้องปรนนิบัติผู้คน เขาไม่ยอมกลับไป ดังนั้น เวลาที่เลขาฯของเจ้านายมารับเขา เขาตอบปฏิเสธอย่างนุ่มนวล ไม่คาดคิดว่าหลังจากนั้น เจ้านายกลับขับรถมารับเขาด้วยตนเอง เขายืนตะลึง เจ้านายพูดว่า " เธอกลับมา
ผมจัดสรรงานให้ที่เธอคาดคิดไม่ถึง อีกทั้งเป็นงานที่เธอใฝ่ฝันไว้ "
เขาได้เป็นหัวหน้าฝ่ายการเงินของบริษัทฯ ผู้บริหารระดับสูงที่แท้จริง เป็นแขนซ้าย~ขวาของเจ้านาย หลังจากที่เขากลับมาก้าวเดียวทะยานสู่ฟ้า ผู้คนในบริษัทฯฮือฮาไม่น้อย ความคาดเดาต่างๆ นานาล้วนมี เพราะว่า ยังไม่เคยมีพนักงานธรรมดาๆ คนหนึ่งซึ่งลาออกไป กลับได้รับเกียรติอันสูงสุดเชิญกลับมา
สิ่งที่ยิ่งทำให้ผู้คนคาดคิดไม่ถึงก็คือ เขากลับมาไม่ใช่เลขาฯ ที่เล็กจิ้บจ้อยอีกแล้ว เจ้านายแหกกฎแต่งตั้งเขาเป็นผู้บริหารระดับสูง ทั้งยังให้เขาควบคุมการเงิน ซึ่งเป็นเส้นชีวิตของบริษัทฯโดยตรง นี่ต้องเป็นสายสัมพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ปานใด
ไม่มีใครเข้าใจสาเหตุที่แท้จริง รวมทั้งตัวเขาเอง เขาคิดที่จะถามเจ้านาย แต่ก็อดกลั้นไว้ คิดว่าเจ้านายย่อมต้องมีเหตุผลของท่านเอง
จวบจนกระทั่งหลายปีต่อมา ครั้งหนึ่งไปปฏิบัติภารกิจต่างพื้นที่ ภายในโรงแรมที่พัก เขาร่วมจิบน้ำชากับเจ้านาย เจ้านายอารมณ์ดีขึ้นมา ถามเขากะทันหันว่า " เธออยากรู้หรือไม่ว่า ปีนั้นสาเหตุที่ผมพยายามทุ่มเทสุดแรง เพื่อตามเธอกลับมาหรือไม่ ?"
เขาตอบว่า " ผมคิดอยู่ตลอดเวลา แต่ผมคิดไม่ออกจริงๆ "
" แท้จริงแล้ว เรียบง่ายมาก เป็นเพราะจดหมายลาออกของเธอ " เจ้านายพูด " ภายในซองยังแนบเงินอยู่สิบเอ็ดเหรียญ "
เขาคิดขึ้นมาได้ทันที จริงซิ ก่อนที่เขาจะลาออก ด้วยความเคยชิน เขาได้ทำการคิดบัญชีจากที่เขาไปเบิกเงินมาจากฝ่ายการเงินก่อนหน้า แล้วนำมาหักจากการไปซื้อดอกไม้ทุกวัน หักกลบลบหนี้แล้ว เขายังคงค้างบริษัทฯ อยู่สิบเอ็ดเหรียญ ดังนั้น เขาจึงนำเงินสิบเอ็ดเหรียญนั้น แนบไว้ในซองจดหมายลาออก
เจ้านายพูดว่า " ที่จริงเงินสิบเอ็ดเหรียญมันเรื่องเล็กน้อย แต่ว่า คนผู้หนึ่งที่เตรียมตัวจะจากไป กลับไม่ได้มองข้ามเงินเล็กน้อยก้อนนี้ ซึ่งเป็นเงินของบริษัทฯ ความซื่อสัตย์สุจริตเช่นนี้ ใช่ว่าคนทั่วๆ ไปล้วนมี เธอคิดดู ควบคุมการเงินของบริษัทฯ ยังมีสิ่งที่สำคัญกว่านี้หรือ ?"
做人要老实,對人要誠懇,若然假裝做人,
口不對心,口是心非,就連僅有之福德也給漏盡。
เป็นคนต้องซื่อสัตย์ ต่อผู้อื่นต้องจริงใจ ถ้าหากแกล้งปลอมเป็นคน ปากไม่ตรงกับใจ ปากอย่างใจอย่าง แม้กระทั่งโชคลาภวาสนา อานิสงส์ต่างๆ ที่มีอยู่ล้วนจะรั่วไหลจนหมดสิ้น
Cr : Niwat Rungvicha
@@@@
จาก fwd line
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น