หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เลาะริมชล ยลของเก่า(๖)



     
      หลังจากเราชมอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า ไปไหว้พระที่วัดอนงคารามและวัดพิชัยญาติ ซึ่งไม่ไกลกันเท่าไหร่ แล้วเราก็เดินย้อนกลับมาริมน้ำอีกครั้งตามที่เราตั้งใจไว้ว่าจะเดินเลาะเลียบริมฝั่งเจ้าพระยาไปจนถึงท่าเรือคลองสาน ซึ่งยังมีสถานที่เก่าควรแก่การเยี่ยมชมหลายแห่ง เช่น มัสยิดเซฟี ศาลเจ้าซำไนเก็ง วัดทองธรรมชาติ สมาคมเต็กก่า บ้านหวั่งหลี วัดทองนพคุณ ป้อมป้องปัจจามิตร ทุกแห่งน่าจะมีอายุหนึ่งร้อยปีขึ้นไปทั้งนั้น.....

 บริเวณย่านหลังวัดอนงคาราม จนมาถึงริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นท่าเรือและคลังสินค้าที่สำคัญในอดีต ยังคงอาคารเก่าๆให้เราเห็นร่องรอย...
...ทางเดินช่วงนี้สวยงามครับ...
...เส้นสีขาวบนทางเดิน หมายถึงเส้นทางของจักรยานท่องเที่ยวครับ..
แวะสักการะศาลเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ ที่จอดจักรยาน..
....จากศาลเจ้าแม่ทับทิม ไม่ไกลนักก็จะถึงมัสยิดเซฟี หรือ สุเหร่าตึกขาว..
...เป็นของมุสลิมนิกายชีอะห์ ความเป็นมานั้นคือชาวอินเดียเชื้อสายดาวูดี โบราห์จากเมืองสุหรัตประเทศอินเดียที่เข้ามาติดต่อซื้อขายสินค้าตั้งแต่ยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์  มัสยิดนี้จะอยู่ใกล้กับคลังสินค้าตึกสีขาว...
.......

...ชาวมุสลิมของสุเหร่าตึกขาวนี้ยังคงแต่งกายเหมือนกับในอดีต..
...ทางเข้าค่อนข้างจะหายากหากไม่ถามคนแถวนั้น คงจะหาไม่เจอครับ..
ทางเดินริมน้ำจากตึกขาวไปจนถึงท่าดินแดง น่าจะเป็นที่ของเอกชน น่าจะยังไม่เป็นทางสาธารณะแต่ว่าสามารถเดินผ่านไปออกที่ท่าดินแดงได้


จากท่าเรือข้ามฟากท่าดินแดงเดินตามถนนขึ้นไปก็จะเจอศ่าลเจ้าซำไนเก็งเป็นศาลเจ้าของชาวจีนแคระ สร้างสมัยปลายรัชกาลที่ ๓ ภายในประดิษฐานสามเทพธิดา
.....

...เราเข้าไปสักการะเทพธิดาทั้งสาม พร้อมทั้งเติมน้ำมันตะเกียงเพื่อความสว่างไสวของชีวิตในช่วงขึ้นปีใหม่...
..ไม่ห่างจากศาลเจ้าซำไนเก็ง  ซอยท่าดินแดง ๑๖ คือทางลัดที่สามารถเดินไปวัดทองธรรมชาติ ได้.....
...วัดทองธรรมชาติเป็นวัดโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเดิมเป็นวัดราษฏร์ชื่อวัดทองบน พระขนิษฐานของรัชกาลที่ ๑ ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ ต่อมาในรัชกาลที่ ๓ ทรงบูรณะใหม่ทั้งหมดแต่รูปทรงยังคงเดิมซึ่งจะไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักพระอุโบสถที่มีชายคาด้านหน้าและด้านหลัง และทรงรับเป็นพระอารามหลวง...
..เราเข้าไปสักการะหลวงพ่อสิบทัศน์ ในพระวิหาร เสียดายที่ไม่ได้เข้าไปสักการะพระประธานในพระอุโบสถ....
...เราลัดเลาะตามเส้นทางจักรยาน..จากวัดทองธรรมชาติ ไปยัง จีจินเกาะ
สมาคมเผยแผ่ "เต็กก่า" จีจินเกาะ มองจากแม่น้ำเจ้าพระยา..
.....

จีจินเกาะ เป็นวัดจีนที่ใช้ประกอบพิธีกรรม ปฏิบัติธรรม และปฏิบัติธรรม ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๕  มีพระมหาเจดีย์พระจอมธาตรีไทยจีนเฉลิมพระเกียรติ สูง ๘ ชั้น แต่ละชั้นประดิษฐานเทพเจ้าต่าง ๆ ...
ภายในบริเวณจีจินเกาะมีอาคารเก่าที่อนุรักษ์ไว้สวยงามมาก
......

ติดกับจีจินเกาะ เป็นอาคารอนุรักษ์ "บ้านหวั่งหลี"..เราไม่ได้เข้าไปชม ทราบว่าต้องติดต่อขอเข้าชมล่วงหน้า...
บ้านหวั่งหลี ถ่ายจากชั้น ๘ ของพระมหาเจดีย์ภายใน จีจินเกาะ..
..วัดทองนพคุณ อยู่ใกล้ๆ กับจีจินเกาะ..
...เดิมชื่อวัดทองล่าง คาดว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ต่อมาพระยาโชฎึกราชเศรษฐี(ทองจีน) บูรณะซ่อมแซมแล้วถวายให้รัชกาลที่ ๓ วัดนี้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากร..
..ต้นโพธิ์บนเรือสำเภาจีน ที่วัดทองนพคุณ..
จุดหมายสุดท้ายคือ ป้อมป้องปัจจามิตร และหอสัญญาณ ซึ่งอยู่ใกล้กับปากคลองสาน 
 ป้อมป้องปัจจามิตร รัชกาลที่ ๔ ทรงโปรดให้สร้างเพื่อป้องกันข้าศึกตามริมน้ำเจ้าพระยา  ต่อมาในรัชกาลที่ ๕ ได้ใช้ป้อมเป็นสถานที่ตั้งเสาธงสัญญาณ
.....

....เสาธงสัญญาณถ่ายจากป้อมปัองปัจจามิตร....
เราแวะที่ตลาดตรงท่าเรือข้ามฟากปากคลองสาน  ไหว้พระสมเด็จโต..ก่อนข้ามฟากไปฝั่งกรุงเทพ...
....

...บนเรือข้ามฟากจากคลองสานไปท่าสี่พระยา ฝั่งกรุงเทพ..
... ริเวอร์ ซิตี้ กรุงเทพ..
....

ขอบคุณทุกท่านครับ....
เลาะริมชลยลของเก่า (๕) (คลิก)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น