หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

วันคืนล่วงไปเรากำลังทำอะไรอยู่


 หลายปีก่อน โยมผู้ชายคนหนึ่งเล่าให้อาตมาฟังว่าเขาหันมาสนใจพุทธศาสนาได้อย่างไร  โยมเล่าว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่เขายังหนุ่ม เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา  ตั้งแต่เด็ก เขาเป็นอัจฉริยะและเป็นแก้วตาดวงใจของคนในครอบครัวมาตลอด  แต่ในเวลานั้น เป็นครั้งแรกที่เขาเจอปัญหาประเดประดังท่วมท้น ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว  ทุกอย่างหนักหนาเกินจะทานไหว เขาจึงตัดสินใจกินยาเกินขนาด  


ขณะกำลังจะหมดสติ โทรศัพท์ข้างเตียงก็ดังขึ้น  มีอะไรสักอย่างทำให้เขาฝืนขึ้นมารับสาย  หูเขาได้ยินเสียงน้องสาวฝาแฝดซึ่งตอนนั้นอาศัยอยู่ห่างออกไปหลายพันกิโลเมตร  น้องสาวบอกว่าอยู่ๆ ก็ตกใจตื่น สังหรณ์ใจว่าพี่ชายกำลังตกอยู่ในอันตราย  เขารู้สึกมึนงงจนไม่อาจจะตอบได้  น้องสาวรีบวางสายแล้วติดต่อหน่วยฉุกเฉินทันที  โยมคนนี้รอดชีวิตมาได้และเริ่มแสวงหาสิ่งที่จะให้ความหมายกับชีวิต   จนได้มาพบพระพุทธศาสนา


เรื่องนี้เป็นดั่งละครและเป็นตัวอย่างที่ค่อนข้างตรงกับความหมายตามตัวอักษรของการที่ใครสักคนได้รับ 'การปลุกให้ตื่น'  เมื่ออาตมานึกถึงเรื่องนี้มีข้อคิดผุดขึ้นสองประการ  ประการแรก ในเมื่อเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยจนเป็นธรรมดา  ก็น่าประหลาดใจมากที่ยังคงมีความเชื่ออยู่ว่าจิตเป็นเพียงผลพลอยได้จากการทำงานของสมอง  อีกทั้งนักวัตถุนิยมยังเพียรพยายามยืดยาวอย่างไร้เหตุผลเพื่อจะปฏิเสธปรากฏการณ์เหล่านี้


ประการที่สอง การปลุกให้ตื่นไม่จำเป็นต้องสุดขั้วขนาดนี้  ยิ่งเราฝึกดูกายดูจิตอย่างสม่ำเสมอ เราจะยิ่งได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของเรา  เมื่อมีสติรู้ตัว ทุกสิ่งสามารถปลุกให้เราตื่นได้  พระพุทธองค์ทรงสอนให้เราพิจารณาว่า "วันคืนล่วงไปๆ  เรากำลังทำอะไรอยู่"


ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร

แปลถอดความ โดย ปิยสีโลภิกขุ

******

Cr.https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0QoLfuESRtAPaGybx7r6AMWdR1wQ3DoSACXs3aL62uZr1zPuVn5eM6xH8G3HNQYPQl&id=100064337808864&mibextid=Nif5oz

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น