หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2566

รองเท้าที่หายไป...


รองเท้าที่หายไป........


     เด็กน้อยคนนึงไปเตะฟุตบอลที่สนามหญ้าท้ายหมู่บ้าน เขาลงสนามเตะฟุตบอลกับเพื่อนด้วยเท้าเปล่า โดยถอดรองเท้านักเรียนไว้ข้างสนาม เพราะเขามีรองเท้าเพียงคู่เดียว ที่ทั้งใส่เตะบอลและใส่ไปโรงเรียน และใส่ไปช่วยพ่อเขาเก็บของเก่าหาเงินมาจุนเจือครอบครัว


     หลังเตะบอลเสร็จ เขาก็พบว่ารองเท้าของเขาหายไป โดยไม่รู้ว่าใครมาเอาของเขาไป


     เขาเสียใจปนกับความหวาดกลัวที่อาจจะโดนพ่อของเขาดุด่าว่ากล่าว จิตใจของเขาสับสนกังวล คิดว่าพรุ่งนี้เขาจะใส่อะไรไปโรงเรียน


     เขาเดินเท้าเปล่ากลับบ้าน โดยมือทั้งสองข้างปาดน้ำตามาตลอดทาง ถึงบ้านคราบน้ำตายังคงอาบสองแก้ม


     เขาเดินไปบอกเรื่องราวต่างๆ กับพ่อด้วยอาการประหม่า และเตรียมใจที่จะโดนตำหนิ


     พ่อวางมือจากงานตรงหน้า แล้วบอกกับลูกชายว่า... "รองเท้าหายแต่เท้าก็ยังอยู่ ลูกยังเหลือเท้าตั้งสองข้างพาตัวเองกลับมาบ้านได้ นั่นถือเป็นเรื่องที่ดีแล้ว อย่าร้องไห้ไปเลยลูกรัก เก็บน้ำตาไว้เสียใจกับเรื่องอื่นดีกว่า วันหนึ่งอาจมีเรื่องที่ลูกจะต้องพบเจอ สูญเสีย ผิดหวัง อีกมากมาย และอาจเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าวันนี้ ไปเถอะไปอาบน้ำ แล้วมากินข้าวกับพ่อ พรุ่งนี้เราไปซื้อรองเท้าใหม่กัน"


     ถึงพ่อของเขาจะยากจน แต่ร่ำรวย ความคิดดีๆ มากมายเหลือเกิน


     แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อเขาเติบโตออกไปทำงาน ออกไปอยู่ในสังคม เขาพบว่า...เขาต้องสูญเสียอะไรหลายอย่างไป เช่น... เลิกกับแฟน หมาที่รักมากตายจากไป และอะไรอีกหลายอย่างมากมายในชีวิต ฯลฯ


     เขาไม่เคยร้องไห้อีกเลย เพราะคิดถึงคำสอนพ่อที่ว่า...รองเท้าหายแต่เท้าก็ยังอยู่


     ไม่ว่าเขาจะสูญเสียอะไรไป เขายังเหลือลมหายใจ เหลือสองมือสองขา เหลือความรู้ เหลือสติปัญญา ใช้มันสร้างสิ่งใหม่ๆ ได้


     และครั้งสุดท้ายที่เขาร้องไห้ คือวันที่เขาสูญเสียพ่อเขาไป วันนั้นเป็นวันที่เขาเข้าใจความหมาย ที่พ่อเคยสอนอย่างถ่องแท้ว่า...ต่อให้ไม่มีพ่อ เขาจะต้องอยู่ให้ได้


     ชีวิตของเราก็เช่นเดียวกัน เรื่องบางเรื่อง.. มันก็เหมือนรองเท้าที่หายไป แต่อย่าลืมว่า.. เรายังเหลืออะไรให้เราอีกตั้งมากมายในชีวิต เพียงแค่เราก้าวต่อไปข้างหน้าให้ได้อย่างมั่นคงและมุ่งมั่น ด้วยสองมือ สองเท้า และสมองของเราเท่านั้นเอง


ขอให้กำลังใจแด่ท่านผู้อ่านทุกท่าน



ขอขอบคุณ: ท่านเจ้าของบทความ และ ท่านผู้ใจดีเอื้อเฟื้อแบ่งปันส่งต่อ มาให้อ่าน

Cr.Fwd.line

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น