หน้าเว็บ

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

คนละเรื่องเดียวกัน...???



คำถามถึงเทวดา, พญานาค, พระภูมิเจ้าที่,
สัตว์เดรัจฉาน,เปรต, สัตว์ในนรก และมนุษย์
คำถามเดียวกัน แต่ต่างคำตอบ
ต่างภพภูมิ ต่างวาระ ต่างบารมี ต่างความคิด
ต่างการกระทำ ต่างจุดมุ่งหมาย
"ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์อยากจะทำอะไร"
เทวดา ตอบว่า
"เราจะพิจารณาธรรม เพราะมนุษย์มีกายสังขาร ที่เหมาะกับการพิจารณาธรรมมาก ร่างกายของมนุษย์เป็นเครื่องมือที่ใช้พิจารณาธรรมได้ดีที่สุด น่าอิจฉาพวกมนุษย์จริงๆ"
พญานาค ตอบว่า
"บวชสิ ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะบวช ... เป็นพญานาคมีฤทธิ์มากก็จริง แต่บวชไม่ได้ พ้นทุกข์ไม่ได้ ไม่เหมือนมนุษย์ พระพุทธเจ้าไม่อนุญาตให้นาคบวช แต่มนุษย์บวชได้ มนุษย์สร้างบุญใหญ่ไปสวรรค์ชั้นสูง ไปแดนนิพพานได้ แสนประเสริฐ"
พระภูมิเจ้าที่ ตอบว่า
"ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง คราวนี้เราจะไปทำบุญใส่บาตรทุกวัน ไม่ต้องมานั่งรอคนอุทิศส่วนกุศลมาให้เราอีก ไปทำเองเลย เพิ่มบารมีได้เร็วทันใจดี"
สัตว์เดรัจฉาน ตอบว่า
"ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะสงเคราะห์สัตว์ตัวอื่นๆ เป็นสัตว์นั้นทุกข์มาก พูดก็ไม่ได้ คิดอะไรฉลาดๆก็ไม่ได้
เป็นมนุษย์มีสมองมีปัญญา เราจะใช้ปัญญาของมนุษย์ทำให้ตัวเองไม่ต้องมาเป็นสัตว์อีก"
เปรต ตอบว่า
"เราไม่อยากมีหน้าตาน่าเกลียด ไม่อยากมีปากเท่ารูเข็ม มีรูปร่างสูงเหมือนต้นตาล
ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะถือศีล จะได้ไม่ต้องมาเป็นเปรตผู้หิวโหย อดๆ อยากๆ ทนทุกข์ทรมานแบบนี้"
สัตว์นรกในอเวจี ตอบว่า
"ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะทำความดี จะไม่ผิดศีล5อีก จะปฏิบัติธรรม เพราะนรกมันร้อนมันโหดร้าย อยู่แล้วมีแต่ความเจ็บปวด ทุรนทุราย ถ้าข้ามีโอกาสอีกครั้ง เราจะไม่ทำเลว เราไม่อยากทรมาน ไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นสัตว์นรกอีก"
แต่เมื่อถามคำถามเดียวกัน
มนุษย์ตอบว่า "อยากสมหวังรัก,อยากรวย,อยากมีตำแหน่งสูง,อยากมีอำนาจ แม้ต้องผิดศีล ทำร้ายใครก้อจะทำ"
อนิจจาใครหนอ..น่าสงสารที่สุด!
มนุษย์ผู้ที่อยากแต่ทรัพย์สมบัติภายนอกที่ยึดถือได้ชั่วคราว
ทั้งที่มีโอกาสจะทำบุญกุศลมากกว่าเพื่อน ทำให้มีอริยทรัพย์คือ
ทรัพย์อันประเสริฐเป็นของติดตัวไปทุกภพภูมิ
อยู่ภายในใจ มี ๗ สิ่ง คือ อริยทรัพย์
ศรัทธา ศีล หิริ โอตตัปปะ สุตตะ จาคะ ปัญญา
==========================================
อริยทรัพย์ ทรัพย์อันประเสริฐ
ติดตามข้ามภพ ข้ามชาติ
อริยทรัพย์เป็นของเฉพาะตัว
เป็นบุญเฉพาะตัว
อริยทรัพย์ประกอบด้วย
ศรัทธา ความเชื่อในพระรัตนตรัย พร้อมที่จะปฏิบัติตาม
ทำจริงมีความเพียร ความอดทน วิริยะบารมี ขันติบารมี ทำให้สำเร็จ
ศีล เป็นปกติ เป็นผู้ไม่เบียดเบียนผู้อื่นและตนเอง ศีลบารมี
เมื่อไม่เบียดเบียนก็ไม่ถูกเบียดเบียน มีสุข ก็จะสงบ นิ่ง มีสติ
มีสมาธิ มีปัญญา แก้ปัญหาได้ ไม่ทุกข์นั้นเอง
หิริ อายบาป ขึ้นชื่อว่าชั่วไม่ทำ ไม่สร้างเหตุชั่ว ไม่ดี ผลย่อมเจอแต่สิ่งดี ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น ทำดี ได้ดี ทำไม่ดี ได้ไม่ดี ทำดีบ้าง
ไม่ดีบ้าง ได้ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง สลับกันไป ก็ทุกข์บ้าง ไม่ทุกข์บ้าง
โอตัปปะ กลัวบาป ขึ้นชื่อว่าบาปไม่ทำ ไม่สร้างเหตุที่ไม่ดี บาป กรรมไม่ดี เมื่อสร้างเหตุดี ผลย่อมดี ตามกฏแห่งกรรม
สุตตะ ฟังธรรม สะสมการฟังเป็นผู้ฟังมาก รอบรู้มาก คิด พิจารณา ไตร่ตรอง วิเคราะห์ มีหลัก กาลามาสูตร พิจารณาก่อนเชื่อสิ่งใด
จาคะ เสียสละ ให้ได้ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก มีมิตรมาก ไม่ขาดแคลน ทานบารมี
ปัญญา รู้รอบ แก้ปัญหาได้ ไม่ทุกข์ ทำใจได้ แม้ต้องเจอกับปัญหา ความทุกข์ ปัญญาบารมี
อริยทรัพย์ ทรัพย์ภายใน ต้องทำควบคู่กับทรัพย์ภายนอก
ตราบใดที่ยังต้องเดินทางในสังสารวัฏ
อริยทรัพย์ก็เป็นสิ่งจำเป็นไม่ควรประมาท
ภูริทัตตา

Cr. ไลน์ ภูริทัตตา  Bhuritatta

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น