หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2558

กลิ่นชั้นสูง..(๑)


.................

...ท่านว่า พวกเทพไม่ค่อยมายุ่งกับมนุษย์ เพราะพวกมนุษย์มีกลิ่นตัวแรง นอกจากนี้ยังพบว่า มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีศีลธรรม มนุษย์คนใดมีศีลดี มีธรรมงาม ย่อมเป็นที่รักของทวยเทพ ทวยเทพย่อมคุ้มครองรักษา ขจัดอันตรายออก น้อมนำแต่สิ่งอันเป็นศิริมงคลเข้าไปให้
    การทำบุญอุทิศให้เทวดาเป็นพลีอย่างหนึ่ง ท่านเรียกว่า เทวตาพลี เทวดาย่อมรักและตั้งใจสงเคราะห์บุคคลผู้ตั้งอยู่ในศีลธรรม หากเป็นพระที่มีศีลาจารวัตรดี เทวดาย่อมเคารพบูชายิ่ง เช่น พระมหากัสสปเถระเป็นตัวอย่าง
    พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาเรื่องนี้ เมื่อประทับอยู่เวฬุวัน ทรงปรารภการถวายบิณฑบาตแก่พระมหากัสสปเถระ มีเรื่องย่อดังนี้
     วันหนึ่ง พระมหากัสสปเถระออกจากนิโรธสมาบัติ ท่านว่าการทำบุญกับพระที่ออกจากนิโรธสมาบัติมีอานิสงส์แรงและไม่ข้ามวัน คือให้ผลในวันนั้น ท่านมหากัสสปเถระมีความประสงค์จะสงเคราะห์คนยากจนคนใดคนหนึ่งในเมืองราชคฤห์ แต่พวกเทพอัปสรประมาณ ๕๐๐ นางรู้เสียก่อน ต้องการให้บุญเป็นของตนเอง จึงเตรียมอาหาร ๕๐๐ สำรับ ไว้คอยดักถวายพระเถระ  ขอให้พระเถระรับอาหารเพื่อสงเคราะห์พวกตน
       พระเถระรู้ว่า นี่เป็นเหล่าเทพธิดา จึงบอกให้หลีกไปเสีย ท่านจะไปสงเคราะห์คนยากจน พวกเทพธิดารวยอยู่แล้วจะโลภไปถึงไหน แม้พวกเทพธิดาจะอ้อนวอนสักเพียงไรก็หาฟังไม่ พวกเทพธิดารอหน้าไม่ติดจึงหลีกไปยังภิภพของตน ไปพบท้าวสักกะ ท้าวสักกะถามว่าไปไหนกันมา เมื่อทราบเรื่องจากเทพอัปสรทั้งหมดแล้ว ปรารถนาอยากได้บุญบ้างจึงคิดหาอุบาย ได้มองเห็นอุบายอย่างหนึ่งแล้ว จึงปลอมตัวเป็นชายแก่ยากจน เป็นช่างหูก แม้สุกัญญาเทพกัลยา ก็ปลอมตัวเป็นหญิงแก่ช่างหูกเหมือนกัน ท้าวสักกะได้เนรมิตถนนช่างหูกอยู่สายหนึ่ง ทอหูกอยู่
       พระเถระก็มุ่งหน้าเข้าเมือง เพื่อสงเคราะห์คนจน เห็นถนนสายที่ท้าวสักกะเนรมิตขึ้นอยู่นอกเมือง เห็นคนแก่ ๒ คนกำลังทอหูกอยู่พระเถระคิดว่า " คน ๒ คน นี้แก่แล้วยังต้องทำงานอยู่ ในเมืองนี้เห็นทีจะไม่มีใครเข็ญใจยิ่งกว่า ๒ คนนี้ เราจักรับอาหารเพื่อทำการสงเคราะห์คนชราทั้งสอง "  ดังนี้จึงได้บ่ายหน้าไปยังเรือนของเขา
        ท้าวสักกะทอดพระเนตรเห็นพระเถระกำลังเดินมายังเรือนของตนจึงกระซิบสุชาดาเทพกัญญาว่า ให้ทำเหมือนไม่เห็น  ฉันจักลวงท่านสักครู่เพื่อให้ท่านตายใจแล้วถวายบิณฑบาต
        พระเถระมายืนอยู่ที่ประตูเรือน สองผัวเมียทำเป็นเสมือนไม่เห็นท่าน ก้มหน้าทำงานอยู่ ครู่หนึ่งผ่านไป ท้าวสักกะจึงกล่าวขึ้นว่า
        " ที่ประตูเรือนดูเหมือนมีพระเถระยืนอยู่รูปหนึ่งยายลองไปดูซิ "
        "ตาไปดูเองเถอะ ฉันยังยุ่งอยู่ " สุชาดาตอบ
.....(ยังมีต่อ).....


********
(จากหนังสือ โลกสงบร่มเย็นได้ด้วยศีล สมเด็จพระวันรัต(จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) วัดบวรนิเวศวิหาร)

******


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น