หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ที่เก่าเวลาเดิม....

(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)
      โต๊ะแชร์วันนี้(พุธ ที่ ๒๖ มิ.ย.๕๖) ที่ท่าช้าง วังหลัง อบอุ่นมากกกก......ขาประจำครบ ขาดคนสำคัญ ท่านขุนทวีศักดิ์, โสภณ, ชูศิลป์ และ ทนายชลิต แต่ได้ "ทะแนะ" ลุงเบิ้ม (เสรี ฮวบดี) มาแทน
- ผมเองไปหาหมอฟัน (ทันตแพทย์) ตอนเช้า ด้วยความไม่แน่ใจว่าจะไปทัน จึงไม่ได้นำกล้องติดตัวไปด้วย... เห็น  สุรินทร์  ส. ถ่ายรูปไว้เยอะแยะ น่าจะนำมาโพสท์ให้ดูกันบ้าง...

-
คุณ ประสพโชค (ยุ่นปี่) ก็มา วินัย (ก๊องส์) ก็มา สมควร ศ. ก็มา และมีอีกคนหนึ่ง สุทธิพล พ. (นึกชื่อไม่ออก จำหน้าก็ไม่ได้ ไม่ได้พบกันมานานมากกกก)



-
สมบัติ น. กะ วินัย พ.ต้องเดินทางกลับหนองคายแต่ก็แวะมากินข้าว(หลาม)กันก่อน...


-
ส่วน "ตั้วเฮีย" นคร ห. และ เจือ ภ. มาช้า แต่กินหนักและกินยาวววววว
-
ธนู พ. กะ วิจิตร อ. ปฏิบัติหน้าที่ได้ครบถ้วน เสธฯ นันต์ ดูหน้าตาวิตกเล็กน้อย ด้วยห่วงภริยา พวกเราเป็นกำลังใจให้ ขอให้หายดีในเร็ววัน


-
อำนวย ร. ไม่รู้ไปหาครีมอะไรมาทาหน้า ขาวจนซีด นึกว่าไปเสียเลือดที่ไหนมา...ฮา...จำนง บ. จากปากน้ำ

-
สำราญ ศ. กะ ทัศนะ ว. คู่หู คู่ฮา สูบยานอกบ้าน (ขืนสูบที่บ้าน "โดน")
-
สุทธิศักดิ์ ส. วันนี้เสื้อไม่หลุด... ฮา ...



-
แป๊ะชั่ว นิรัตน์ ส. มีภารกิจเพิ่มขึ้น ออร์เดอร์น้ำพริกพุ่งพรวดจนส่งไม่ทัน
-
คนหน้าหนุ่มจากบางยี่ขันท์ เสริมศักดิ์ ย. ขานี้เหนียวแน่นเสมอ




-
อาแปะ ปรีชา ย. มานั่งคอยก่อนร้านเปิดครึ่งชั่วโมงด้วยกลัวเรื่องรถติด



ประธานฯ วิติ ได้ชี้แจงเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เล็กน้อยและได้ฝากเอกสารให้ผมมาดำเนินการส่งต่อให้ท่านขุน ทวีศักดิ์... ขอเวลาผม ๒ วันนะครับ จะดำเนินการให้ :) ส่วนคุณชูศิลป์ เมื่อว่างจากธุระแล้ว กรุณาติดต่อวิเชียร ม. ด่วนที่สุด เรื่องต่าง ๆ ให้อภัยหมดแล้ว...ฮา

- โต๊ะแชร์ครั้งหน้า เปีย วันพุธที่ ๓๑ ก.ค.๕๖ ..... วันพุธสุดท้ายของเดือน ที่เก่า เวลาเดิม

...รายงานโดย วิเชียร  มามีเกตุ  สื่อสาร  ภาพโดย  สุรินทร์ ธีระนาวิน(สายเสือ) สามัญ

วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สมบัติผลัดกันชม

  "..ทุ่งนาแดนนี้ไม่มีความหมาย เหลือเพียงกลิ่นโคลนสาบควาย เห็นซากคันไถแล้วเศร้า..." นิค นิรนาม รอยไถแปร..
        เมื่อวานขับรถผ่านทุ่งนาที่เคยไปช่วยป้าทำนาตอนเป็นเด็ก จำได้ว่าตอนนั้นไม่มีถนนผ่าน เป็นทุ่งนากว้างใหญ่มาก "หน้าน้ำ" น้ำหลากท่วมทุ่งก็ใช้เรือพายไปดูนา  ข้าวที่ปลูกเป็นข้าวลอยน้ำ พอน้ำลดก็เอาไซไปดักตามคันนา ปลากุ้งเต็มไปหมด..ยายผมมีนาเป็นร้อยไร่ได้  แต่มีลูกหลายคน..พอมาถึงรุ่นแม่ๆก็มีลูกหลายคน...ถึงรุ่นผมก็เหลือคนละไร่เท่านั้น..ลูกของแม่ไม่มีใครทำนาเลย   พอ"อู่ข้าว อู่น้ำ" เป็นนิคมอุตสาหกรรม สุดท้ายที่นาทั้งหมดก็กลายเป็นอาคารพาณิชย์และหมู่บ้านจัดสรร....
      เคยฟังหลวงพ่อองค์หนึ่งบอกไว้ว่า " ทรัพย์สินนอกกายนั้นเป็นสมบัติของโลก ทรัพย์ที่แท้จริงของเราคือ บุญกับบาป เท่านั้น "
        ..สมบัติผลัดกันชม..จริง ๆ
       ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ

วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ทุกข์ ๑๐๘


        ผู้เฒ่าเมื่อก่อนนี้เวลาถามไถ่กันเรื่อง ทุกข์ มักจะพูดว่า " ทุกข์ ๑๐๘ " เหมือนกับเพลงของชาย  เมืองสิงห์ นี่แหละ... หลายท่านคงเคยได้ยินเหมือนผมนะครับ...แล้ว ๑๐๘ นี่มีอะไรบ้างหนอ..เป็นความสงสัยมาหลายสิบปีอาจจะเป็นเพราะยังอยู่ในวัยทำงานก็เลยไม่ค่อยให้ความสำคัญ.. พอถึงวันนี้เข้าสู่วัยทอง โรคภัยไข้เจ็บรุมเร้าเข้ามา หนุ่ม(เหลือ)น้อยเข้าทุกที..ทุกข์ ๑๐๘ จริง ๆ นะ...พบทุกข์ พึ่งธรรม..เป็นสัจจะธรรมจริง ๆ..จึงเริ่มต้นด้วยหยิบหนังสือในภาพข้างบนที่ซื้อเก็บไว้หลายสิบปีแล้วมาอ่านตอนก่อนนอน (ว่ากันว่าเป็นยานอนหลับอย่างดี...ได้ผลจริง ๆ ครับ)  .....อ่านไปได้สองวัน เจอแล้วครับ ทุกข์ ๑๐๘ ...เริ่มจาก ๒ (เวทนา ๒) คือ ทุกข์กาย ทุกข์ใจ..จากนั้นก็เป็น ๓ ,,,๑๘,๓๖ สุดท้ายก็เจอ ๑๐๘...หากจะสรุปสั้น ๆ เพื่อให้หมดทุกข์ ๑๐๘ ..ท่านพุทธทาส ท่านกล่าวไว้ว่า "ตัวกู ของกู" นั้นเป็นแม่บทแห่งกิเลสทั้งปวง ซึ่งเป็นมูลเหตุของทุกข์ทั้งปวง....
       ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ


(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขี้น)
    แผ่นพับจากนิโรธาราม จอมทอง เชียงใหม่..." คน คือ อะไร ".......


วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ทดแทนคุณ..

(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)

" บุญที่ข้าพเจ้าได้ทำในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ และบุญที่จะเกิดในอนาคตชาติ หากข้าพเจ้ามีความสุขเพียงใด ขอบุญนั้นจงบังเกิดแก่โยมพ่อ โยมแม่ ให้มีความสุขเช่นเดียวกัน..." สามเณรี..
      วันวิสาขบูชาปีนี้ได้มีโอกาสไปใส่บาตรทำบุญที่ นิโรธาราม  จอมทอง เชียงใหม่ ...เมื่อปีกลายลูกสาวนำผ้าไตรพร้อมดอกไม้ธูปเทียนมาให้พ่อกับแม่อนุโมทนา บอกว่าจะนำไปถวายพระ...ปีนี้ได้ขออนุญาตบรรพชาเป็นสามเณรี ที่นิโรธาราม ...." นี้คือทางสายเอก พ่ออนุญาตและขอออนุโมทนาด้วยนะลูก.." ในฐานะที่เป็นชาวพุทธได้ยินคำว่าภิกษุณีมาตั้งแต่จำความได้..แต่เพิ่งเข้าไปสู่ร่มเงาอารามของภิกษุณีในบ้านเราเมื่อวันวิสาขบูชาที่ผ่านมานี่เอง ........" สะอาด สว่าง สงบ " จริง ๆ....
         ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ




วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

อโยธยาศรีรามเทพนคร


                                     (คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)
          ..วันนี้ก็แวะเวียนอยู่ใกล้ ๆ บ้านนี้แหละครับ..เคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่า " อยุธยา " กับ " อโยธยา " นี่เป็นที่เดียวเรื่องเดียวกันหรือเปล่า เวลานั่งรถจากบ้านเข้าไปเกาะเมือง "กรุงศรีอยุธยา" เมืองหลวงเก่า ก่อนจะข้ามแม่น้ำป่าสักที่ตรงวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้มก็เห็นป้าย " วัดอโยธยา " แล้วอโยธยาตรงนี้เป็นมาอย่างไร...ไปพบข้อมูลจากนักวิชาการ นักประวัติศาสตร์ โบราณคดี หลายท่านได้ให้ความเห็นพอสรุปได้ว่า อโยธยา นี้เป็นอาณาจักรที่มีมานานก่อนการตั้งกรุงศรีอยุธยาของพระเจ้าอู่ทอง มีชื่อว่า อโยธยาศรีรามเทพนคร  แต่อาณาจักรนี้ไม่ค่อยมีการกล่าวถึงในวิชาประศาสตร์ไทยที่เคยเรียนมาสมัยตอนเป็นนักเรียน..วันนี้ก็อยากจะชวนท่านที่ไปเที่ยว "ตลาดน้ำอโยธยา " พอมีเวลาก็ลองเที่ยวชมเมืองเก่าอโยธยาศรีรามเทพนคร ได้นะครับ.....


           วัดสมณโกฏฐาราม อยู่เลยตลาดน้ำอโยธยาไปหน่อย วัดนี้ว่ากันว่าเป็นวัดที่ใช้จัดงานศพของพระแม่ดุสิต มารดาพระยาโกษาปาน พระยาโกษาเหล็กและเป็นพระนมของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ยังมีซากโบราณสถานให้เห็นอยู่โดยเฉพาะพระอุโบสถเก่าแก่แต่สมัยโบราณ วัดนี้ยังมีพระภิกษุจำพรรษาอยู่..


     วัดกุฎีดาว เป็นวัดร้าง ตามตำนานโบราณก็ว่ามีพระมหากษัตริย์สมัยโบราณเป็นผู้สร้าง มีการบูรณะในสมัยสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ แห่งกรุงศรีอยุธยา จากซากที่ปรากฏในปัจจุบัน คงจะเป็นอารามที่มีความใหญ่โตมากพอสมควร


          วัดมเหยงคณ์ เป็นวัดที่มีพระภิกษุจำพรรษาหลายท่านคงจะคุ้นเคยโดยเฉพาะท่านที่สนใจปฏิบัติธรรมสำนักพระอาจารย์สุรศักดิ์  อยู่ที่วัดนี้ครับ..เราจะเห็นเจดีย์ช้างล้อม เช่นเดียวกับที่สุโขทัย ครับ มีตำนานเล่าว่า พระเจ้าอยู่หัวสร้างวัดกุฎีดาว พระอัครมเหสีนามว่า ยงค์ สร้างวัดมเหยงคณ์ บ้างก็บอกว่า มาจากคำว่า วัดมเหสียงค์  ใกล้ ๆ กันก็จะมีวัดร้างอีกสองวัดช้าง กับวัดสีกาสมุด


      วัดประดู่ทรงธรรม ปัจจุบันมีพระภิกษุจำพรรษา เป็นวัดที่ขุนหลวงหาวัด "เจ้าฟ้าอุทุมพร" พระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เมื่อทรงผนวชหลังจากถวายพระราชสมบัติให้พระเจ้าเอกทัตแล้ว มาจำพรรษาที่วัดนี้ ยังมีพระวิหารเก่าเหลืออยู่  ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชหลังจากสร้างกรุงธนบุรีแล้วก็ได้พระเถระผู้ใหญ่จากวัดนี้ไปสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช


     วัดอโยธยา ปัจจุบันมีพระภิกษุจำพรรษา ถือว่าเป็นวัดสำคัญที่ตั้งอยู่ในเขตพระราชวังอาณาจักรอโยธยาศรีรามเทพนคร ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์วัดนี้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์  เจ้าพระฝางที่ตั้งตนเป็นหัวหน้าชุมนุมพระฝางหลังเสียกรุงครั้งที่สอง ก็เคยมาศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยที่วัดนี้  โบราณสถานที่เหลืออยู่มีเพียงเจดีย์และเนินดิน...


         วัดดุสิดาราม ปัจจุบันมีพระภิกษุจำพรรษา เป็นวัดที่เจ้าแม่ดุสิตแม่นมของสมเด็จพระนารายณ์บูรณปฏิสังขรณ์ เนื่องจากสมเด็จพระนารายณ์ทรงสร้างพระตำหนักให้เจ้าแม่ดุสิตอยู่ใกล้กับวัดนี้ ปัจจุบันยังมีโบราณสถานคือพระอุโบสถเก่าแก่ทีสร้างหันหน้าไปทางทิศตะวันตก และเจดีย์องค์ใหญ่
      หากท่านเดินทางไปเที่ยวเมือง"กรุงเก่า" พอมีเวลาก็ขอแนะนำให้แวะไปเที่ยวชมได้ครับ ระยะทางแต่ละวัดอยู่ไม่ไกลกัน นอกจากวัดที่กล่าวแล้วยังวัดร้างอีกหลายวัดที่ยังคงมีซากโบราณสถานให้ได้ศึกษาเรื่องราวในอดีต.....

                      ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ